|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
การพัฒนาระบบสารสนเทศ
»
เริ่มต้นการพัฒนาด้วย React-Native
|
การใช้ React Native กับ TypeScript เป็นการเพิ่มความปลอดภัยของชนิดข้อมูลให้กับ JavaScript โดยการใช้ Type Checking ที่ช่วยป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการพัฒนา React Native คือ เฟรมเวิร์กที่ใช้สำหรับพัฒนาแอปมือถือข้ามแพลตฟอร์ม (iOS และ Android) ด้วย React และ JavaScript วิธีการเริ่มต้น: ติดตั้ง Node.js และ Expo CLI ดาวน์โหลด Node.js และติดตั้ง Expo CLI (npm install -g expo-cli) สร้างโปรเจกต์ใหม่ด้วย TypeScript ใช้คำสั่ง expo init MyApp --template expo-template-blank-typescript เพื่อสร้างโปรเจกต์ใหม่ที่ใช้ TypeScript เขียนคอมโพเนนต์ สร้างคอมโพเนนต์ในไฟล์ .tsx ซึ่งสามารถใช้ประเภทข้อมูล (types) เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้งานโค้ดเป็นไปอย่างถูกต้อง ตั้งค่า TypeScript ใช้ไฟล์ tsconfig.json เพื่อกำหนดการตั้งค่าของ TypeScript พัฒนาและทดสอบ ใช้คำสั่ง expo start เพื่อเริ่มเซิร์ฟเวอร์พัฒนาและทดสอบแอปบน Emulator หรืออุปกรณ์จริง ข้อดี: Type Safety: ช่วยจับข้อผิดพลาดได้ก่อนที่จะรันแอป การพัฒนาเร็วขึ้น: การใช้ TypeScript สามารถทำให้การพัฒนาเร็วขึ้นด้วย IntelliSense และการตรวจสอบข้อผิดพลาด การใช้ React Native กับ TypeScript จะทำให้การพัฒนาแอปของคุณมีความมั่นคงและปราศจากข้อผิดพลาดมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยให้การพัฒนาเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น
|
คำสำคัญ :
Component Expo-CLI NativeWind React-Native
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
330
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
สมนึก สินธุปวน
วันที่เขียน
1/9/2567 12:23:55
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
21/11/2567 17:35:47
|
|
|
การพัฒนาระบบสารสนเทศ
»
เริ่มต้นการพัฒนาด้วย React-Native
|
การใช้ React Native กับ TypeScript เป็นการเพิ่มความปลอดภัยของชนิดข้อมูลให้กับ JavaScript โดยการใช้ Type Checking ที่ช่วยป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการพัฒนา React Native คือ เฟรมเวิร์กที่ใช้สำหรับพัฒนาแอปมือถือข้ามแพลตฟอร์ม (iOS และ Android) ด้วย React และ JavaScript วิธีการเริ่มต้น: ติดตั้ง Node.js และ Expo CLI ดาวน์โหลด Node.js และติดตั้ง Expo CLI (npm install -g expo-cli) สร้างโปรเจกต์ใหม่ด้วย TypeScript ใช้คำสั่ง expo init MyApp --template expo-template-blank-typescript เพื่อสร้างโปรเจกต์ใหม่ที่ใช้ TypeScript เขียนคอมโพเนนต์ สร้างคอมโพเนนต์ในไฟล์ .tsx ซึ่งสามารถใช้ประเภทข้อมูล (types) เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้งานโค้ดเป็นไปอย่างถูกต้อง ตั้งค่า TypeScript ใช้ไฟล์ tsconfig.json เพื่อกำหนดการตั้งค่าของ TypeScript พัฒนาและทดสอบ ใช้คำสั่ง expo start เพื่อเริ่มเซิร์ฟเวอร์พัฒนาและทดสอบแอปบน Emulator หรืออุปกรณ์จริง ข้อดี: Type Safety: ช่วยจับข้อผิดพลาดได้ก่อนที่จะรันแอป การพัฒนาเร็วขึ้น: การใช้ TypeScript สามารถทำให้การพัฒนาเร็วขึ้นด้วย IntelliSense และการตรวจสอบข้อผิดพลาด การใช้ React Native กับ TypeScript จะทำให้การพัฒนาแอปของคุณมีความมั่นคงและปราศจากข้อผิดพลาดมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยให้การพัฒนาเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น
|
คำสำคัญ :
Component Expo-CLI NativeWind React-Native
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
330
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
สมนึก สินธุปวน
วันที่เขียน
1/9/2567 12:23:55
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
21/11/2567 17:35:47
|
|
|
การพัฒนาระบบสารสนเทศ
»
เริ่มต้นการพัฒนาด้วย React-Native
|
การใช้ React Native กับ TypeScript เป็นการเพิ่มความปลอดภัยของชนิดข้อมูลให้กับ JavaScript โดยการใช้ Type Checking ที่ช่วยป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการพัฒนา React Native คือ เฟรมเวิร์กที่ใช้สำหรับพัฒนาแอปมือถือข้ามแพลตฟอร์ม (iOS และ Android) ด้วย React และ JavaScript วิธีการเริ่มต้น: ติดตั้ง Node.js และ Expo CLI ดาวน์โหลด Node.js และติดตั้ง Expo CLI (npm install -g expo-cli) สร้างโปรเจกต์ใหม่ด้วย TypeScript ใช้คำสั่ง expo init MyApp --template expo-template-blank-typescript เพื่อสร้างโปรเจกต์ใหม่ที่ใช้ TypeScript เขียนคอมโพเนนต์ สร้างคอมโพเนนต์ในไฟล์ .tsx ซึ่งสามารถใช้ประเภทข้อมูล (types) เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้งานโค้ดเป็นไปอย่างถูกต้อง ตั้งค่า TypeScript ใช้ไฟล์ tsconfig.json เพื่อกำหนดการตั้งค่าของ TypeScript พัฒนาและทดสอบ ใช้คำสั่ง expo start เพื่อเริ่มเซิร์ฟเวอร์พัฒนาและทดสอบแอปบน Emulator หรืออุปกรณ์จริง ข้อดี: Type Safety: ช่วยจับข้อผิดพลาดได้ก่อนที่จะรันแอป การพัฒนาเร็วขึ้น: การใช้ TypeScript สามารถทำให้การพัฒนาเร็วขึ้นด้วย IntelliSense และการตรวจสอบข้อผิดพลาด การใช้ React Native กับ TypeScript จะทำให้การพัฒนาแอปของคุณมีความมั่นคงและปราศจากข้อผิดพลาดมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยให้การพัฒนาเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น
|
คำสำคัญ :
Component Expo-CLI NativeWind React-Native
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
330
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
สมนึก สินธุปวน
วันที่เขียน
1/9/2567 12:23:55
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
21/11/2567 17:35:47
|
|
|
ประชุมวิชาการระดับชาตินเรศวรวิจัยและนวัตกรรม ครั้งที่ 20
»
งานวิจัยเรื่อง "Simultaneous Determination Of Folate And Derivatives in Grains Of Thai Rice by Liquid Chromatography"
|
Determination of folate (FA) or vitamin B9 and its derivatives such as 5-methyltetrahydrofolate (5-MTHF), Tetrahydrofolate (THF) and 10-formyl folic acid (10-CHOFA) in Thai rice with reverse-phase high-performance liquid chromatography. This technique was a simple and fast method for the simultaneous determination of folate and its derivatives. The seed of rice samples were collected from the Department of Genetics, Faculty of Science, Maejo University. Rice powder (0.5000 g) was soaked in 1 mL water and shaken at room temperature and centrifuged at 3500 rpm for 15 minutes. The supernatant was filtered through a 0.22 μm Nylon membrane filter and 20 μL was injected into the HPLC. Separation was performed using a C18 column with isocratic elution of 0.1% formic acid: acetonitrile (85:15 v/v). The flow rate was 0.70 mL min-1 and a photodiode array detector at the wavelength of 267 nm was employed. The calibration curve obtained (R2 > 0.9990) for folate, 5-MTHF, THF and 10-CHOFA were in the range of 0.50-50.0, 0.50-200.0, 0.50-50.0 and 5.0-100.0 mg L-1, respectively. The limit of detection (LOD) and limit of quantification (LOQ) were found to be 0.09- 0.15 mg L-1 and 0.30 to 0.50 mg L-1. Percent recovery at the concentrations of 15 and 35 mg L-1 were found in the range of 95-113. In the ten studied samples, folate and its derivatives were found in the range of 0.19-27.10 mg (in 100 g dry weight). This technique was applied to simultaneous determination of folate and derivatives in rice.
|
คำสำคัญ :
Folate, Thai Rice, High-Performance Liquid Chromatography
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานสายวิชาการ
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
89
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
ศิริรัตน์ ไพศาลสุทธิชล
วันที่เขียน
29/8/2567 13:08:05
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
21/11/2567 17:46:49
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|