|
|
|
|
|
|
|
|
|
avocado
»
paccon2020
|
Black sesame seeds are considered as a beneficial medicine. In this work, sesame seeds were extracted using honey as solvent. The effect of ratios (w/v) of sesame and honey on the total phenolic content and antioxidant activity of sesame seed extract were evaluated to determine the most suitable ratio of extraction. Total phenolic content and antioxidant activity of extract were measured according to the Folin–Ciocalteu methods and DPPH methods using gallic acid and 3,5-di-tert-4-butylhydroxytoluene (BHT) as standard, respectively. The results revealed that the highest amount of total phenolic content and activity in scavenging DPPH free radicals were observed in the ratio of 1:1 w/v of sesame and honey with the amount of 4.22%±0.03 mg gallic acid equivalent/g extract and 62.05%±0.38 (BHT at 57.08%±0.46), respectively. This extract was investigated the nutritional information. It composes of sesamin 55 mg/100 g extract, omega3, omega 6, omega 9, boron, 10 essential amino acids and other nutrients. Moreover, absorption of sesamin in rats was investigated from their serum after a single oral dose of extract 3.2 g/kg in rats using HPLC. The results indicated that sesamin can be absorbed at first for 15 minutes and exhibited the highest sesamin at 2.0 h.
|
คำสำคัญ :
งาดำ โภชนาการ
|
กลุ่มบทความ :
บทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั่วไป
|
หมวดหมู่ :
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
205
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
ฐิติพรรณ ฉิมสุข
วันที่เขียน
12/10/2563 10:21:41
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
19/1/2564 3:46:32
|
|
|
เผยแพร่และสรุปเนื้อหาเข้าร่วมประชุม PACCON2020
»
เผยแพร่และสรุปเนื้อหาเข้าร่วมประชุม PACCON2020
|
ข้าพเจ้านางสาวอนรรฆอร ศรีไสยเพชร ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สังกัด หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเคมีประยุกต์ คณะวิทยาศาสตร์ ขอนำเสนอรายงานสรุปเนื้อหาและการนำไปใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมการประชุมวิชาการ Pure and applied Chemistry International Conference 2019 (PACCON 2020) ระหว่างวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2563 ณ. อิมแพคอารีนา เมืองทองธานี กรุงเทพมหานคร ข้าพเจ้าจึงขอสรุปเนื้อหาและการนำไปใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมประชุม โดยได้เข้าร่วมฟังการบรรยายในหัวข้อต่างๆที่มีการนำเสนอในที่ประชุม ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์โดยสามารถสรุปได้ดังนี้ การนำเสนอผลงานเกี่ยวกับการใช้สารธรรมชาติในการป้องกันยุง ทั้งใช้โดยตรงที่ผิวหยังและการนำไปเคลืบบนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย การสกลัดเอนไซม์จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรและเศษอาหารจากบ้านเรือน เพื่อนำไปใช้ในการเร่งสลายขยะครัวเรือน และยังได้ศึกษา สอบถามเพิ่มเติมจากการนำเสนอในรูปแบบโปสเตอร์ โดยภายหลังจากการเข้าร่วมกิจกรรม/โครงการ/อบรม ฯลฯ ข้างต้นแล้ว ข้าพเจ้าได้นำองค์ความรู้ที่ได้ มาปรับปรุงงานประจำให้เกิดประสิทธิภาพ ดังต่อไปนี้ ปรับปรุงและพัฒนาการสกัดสาระสำคัญจากพืชชนิดต่างๆ เช่น ฟักทอง เมล็ดเขีย ตลอดจนนำมาถ่ายทอดในการเรียนการสอน เพื่อต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆมาถ่ายทอดในวิชาการเรียนรู้อิสระ เพื่อเป็นแนวทางและทำให้เกิดแนวความคิดด้านงานวิจัยได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ยังได้นำตัวอย่างเทคนิค วิธีการนำเสนอที่เป็นแบบอย่างที่ดี ุ่ายทอดให้กับ นศ. วิชา สัมมนา
|
คำสำคัญ :
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานสายวิชาการ
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
257
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
อนรรฆอร ศรีไสยเพชร
วันที่เขียน
10/10/2563 9:28:19
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
18/1/2564 18:26:22
|
|
|
|
|
|
งานสารบรรณ
»
เข้าร่วมโครงการสัมมนาระบบศูนย์ข้อมูลกลางและระบบการตัดสินใจ
|
โครงการสัมมนาระบบศูนย์กลางข้อมูลมหาวิทยาลัยแม่โจ้และระบบการตัดสินใจ (Data Center of MJU & Dashboard Decision System : DC) ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับประเด็นยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัย ในเรื่องการบริหารจัดการสู่องค์กรที่มีสมรรถนะสูง (High Performance Organization) และพัฒนาระบบสารสนเทศในรูปแบบ Data Center รองรับ Big Data ที่นำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการตัดสินใจของผู้บริหาร ให้มหาวิทยาลัยมีฐานข้อมูลกลาง (Data center) และระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการและการตัดสินใจที่เป็นเลิศ (AI Dashboard) โดยนำข้อมูลสำคัญมาจัดรูปแบบให้เป็น “ข้อมูลดิจิทัลแบบเรียลไทม์” ในวันพุธที่ 2 กันยายน 2563 เวลา 09.30 – 12.00 น. ณ ห้องประชุมข้าวหอมมะลิ อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพ-รัตนราชสุดาฯ มหาวิทยาลัยแม่โจ้
การพัฒนาระบบ Data Center & Dashboard จำนวน 3 ระบบ ดังนี้
1. MJU Dashboard
ใช้แสดงข้อมูลเชิงสถิติ กราฟข้อมูล ตารางข้อมูล การแสดงสถิติในรูปแบบภาพรวมหน่วยงาน/มหาวิทยาลัย แสดงสถิติข้อมูลแยกตามประเภทข้อมูล ข้อมูลด้านบุคลากร ข้อมูลด้านนักศึกษา ข้อมูลด้านการเงิน ข้อมูลด้านผลงานทางวิชาการและด้านงานวิจัย และด้านอื่น ๆ โดยข้อมูลต่าง ๆ ที่นำมาแสดงในระบบจะเป็นการแสดงผลข้อมูลแบบ Real time และเป็นการประมวลผลแบบกระจาย (Distribution)
2. MJU API
ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อใช้เป็นช่องทางในการเชื่อมต่อข้อมูลต่าง ๆ ในระบบฐานข้อมูลภายในมหาวิทยาลัย เพื่อทำให้มีมาตรฐานการใช้ข้อมูล และเพื่อให้เกิดมาตรฐานการทำงานร่วมกันระหว่างนักพัฒนาซอฟต์แวร์
3. MJU Passport
ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อปรับปรุงระบบตรวจสอบสิทธิการเข้าใช้งานระบบต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยให้ดีขึ้น สามารถจัดเก็บสถิติการเข้าใช้งานระบบต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย และอื่น ๆ
|
คำสำคัญ :
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานบริหารงานทั่วไป
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
185
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
มาลัย เบญจวรรณ์
วันที่เขียน
5/10/2563 16:00:41
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
18/1/2564 13:20:10
|
|
|
|
|
|
เนื้อหาสรุปอบรม
»
Microsoft teams classroom
|
ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อการเรียนการสอนเป็นสิ่งสำคัญและมีความจำเป็นในยุคปัจจุบันและอนาคต Microsoft (MS) teams ถูกนำมาใช้ ในการสร้างชั้นเรียนและบริหารจัดการเรียนการสอนผ่านช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ ผู้สอนยังสามารถบันทึกวิดีโอการสอนแล้วแจกจ่ายให้ผู้เรียน โดยสามารถจำกัดสิทธิการเข้าถึงได้ ถ่ายทอดสดการสอนผ่านระบบ Video Conference ด้วย Microsoft teams และสามารถสร้างและใช้งานห้องเรียนออนไลน์ เช่น การแจกจ่ายเอกสารประกอบการสอน การสนทนา การสร้างกระดานถามตอบ การมอบหมายงานหรือสั่งการบ้าน การตรวจงาน การสร้างแบบทดสอบ และการให้คะแนน เป็นต้น ซึ่ง Microsoft team เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพดีมากยิ่งขึ้นได้
|
คำสำคัญ :
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานสายวิชาการ
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
546
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
สมคิด ดีจริง
วันที่เขียน
24/9/2563 14:29:20
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
19/1/2564 1:46:57
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
การบริการวิชาการสู่ชุมชนด้านการทำนุบำรุงมรดกทางวัฒนธรรม
»
วัดร้างแสนขานกับจิตรกรรมเขียนสีกลางกรุ อายุ 600 ปี ค้นพบใหม่อีกแห่งในล้านนา
|
เจดีย์วัดร้างแสนขาน ตั้งอยู่บนถนนมณีนพรัตน์ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ไม่ปรากฏชื่อวัดแสนขาน ในเอกสารตำนานพงศาวดาร แต่สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นวัดที่ปรากฏชื่อในพงศาวดารโยนกว่า “...พญาเมืองเกษเกล้าได้ถูกอัญเชิญให้ขึ้นครองราชย์ แต่พระองค์ครองราชย์ได้แค่ 2 ปี พระองค์ก็ทรงเสียพระจริตจึงถูกปลงพระชนม์ และทำการส่งสักการ(เผา) ณ วัดแสนขาน แล้วจึงนำเอาพระอัฐิธาตุไปบรรจุไว้ ณ เจดีย์วัดโลกโมฬี..”
อีกหนึ่งข้อสันนิษฐานคือ วัดนี้สร้างขึ้นโดยเจ้าแสนขาน หนึ่งในอำมาตย์ของพระเจ้าสามฝั่งแกน ที่คิดช่วยให้ "เจ้าลก" พระโอรสองค์ที่ 6 ในพญาสามฝั่งแกน ขึ้นครองราชย์ในนาม พระเจ้าติโลกราช แล้วบังคับให้พระเจ้าสามฝั่งแกนสละราชสมบัติ ในปี พ.ศ. 1985 ซึ่งต่อมาถูกพระเจ้าติโลกราชคุมขังและลดยศเป็น "หมื่นขาน" และให้ไปครองเมืองเชียงแสนแทน
โดยสถาพปัจจุบันเป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่ในบริเวณบ้านพักอาศัยของประชาชน โดยการบุกรุกพื้นที่ของวัดจนถึงแนวขอบของฐานเจดีย์ รอบด้านเป็นอาคารบ้านพักชั้นเดียวและสองชั้น ซึ่งได้ทำการเช่าที่ดินจากราชพัสดุมาเป็นเวลานานหลายสิบปีแล้ว
สิ่งที่น่าสนใจคือจิตรกรรมฝาผนังที่ถูกค้นพบในครั้งนี้ ถือเป็นหลักฐานใหม่ที่เกี่ยวข้องกับงานจิตรกรรมฝาผนังล้านนาในสมัยพุทธศตวรรษที่ 21 ซึ่งในอดีตที่ผ่านมามีข้อมูลเพียงงานจิตรกรรมฝาผนังในถ้ำคูหา วัดอุโมงค์ เชิงดอยสุเทพ ซึ่งเมื่อกล่าวถึงงานจิตรกรรมล้านนาโบราณในสมัยพุทธศตวรรษที่ 21 แล้ว ย่อมเป็นงานที่พบได้น้อยมากและเป็นภาพลายดอกไม้และลายธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้เนื่องจากการเวลาและสภาพภูมิอากาศ ที่เป็นตัวทำลายงานจิตรกรรมเขียนสีเหล่านั้น
จากการค้นพบครั้งนี้เกิดจากการสำรวจวัดร้างในเขตเมืองเก่าเชียงใหม่ ระหว่างปี 2561-2562 นำโดย รศ.ดร. สืบศักดิ์ แสนยาเกียรติคุณ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อ.ธวัชชัย ทำทอง จากมหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง และ อ.ฐาปกรณ์ เครือระยา จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ทำการสำรวจวัดร้างแสนขาน ตามเอกสารที่ได้บันทึกไว้ว่า วัดร้างดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันออกของวัดโลกโมฬี นอกจากนี้ยังพบว่าวัดร้างแสนขานยังไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากทางกรมศิลปากร จึงทำให้เห็นสภาพเจดีย์ร้างอยู่ท่ามกลางสิ่งปลูกสร้างสมัยใหม่ ซึ่งก็เป็นบ้านเรือนของประชาชนที่จับจองพื้นที่รายล้อมเขตโบราณสถานดังกล่าว โดยสภาพของเจดีย์ยังค่อนข้างเห็นเป็นองค์ชัดเจน รูปแบบของเจดีย์สามารถบ่งบอกรายละเอียดได้บ้างบางส่วน สิ่งที่ทำให้เราเห็นหลักฐานภาพจิตรกรรมล้านนาโบราณในสมัยพุทธศตวรรษที่ 21 ก็เพราะการขุดหาของมีค่าจากกรุจนกรุแตก
ภาพเขียนฝาผนังภายในกรุของวัดร้างแสนขานนั้น เขียนขึ้นเพื่อตกแต่งภายในกรุสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็ก กว้าง 55 เซนติเมตร ยาว 140 เซนติเมตร และสูง 120 เซนติเมตร ซึ่งเป็นกรุชั้นใน ส่วนกรุชั้นนอก (กรุหลอก) จะมีการก่อปูนไม่ฉาบ ห่างออกมาจากกรุในด้านละประมาณ 40-45 เซนติเมตร โดยกรุดังกล่าวอยู่ในระดับตัวเรือนธาตุ
จิตรกรรมฝาผนังประดับกรุ ปรากฏบนผนังกรุด้านทิศเหนือ(ตัวภาพหันหน้าไปทางทิศใต้) ซึ่งเป็นผนังฝั่งเดียวที่มีงานเขียนภาพจิตรกรรม อีกทั้งภาพหลักฐานจิตรกรรมฝาผนังในกรุมีสภาพลบเลือนไปมาก จำเป็นต้องใช้เทคนิคคัดลอกจิตรกรรมด้วยมือและคอมพิวเตอร์ควบคู่กัน โดยการคัดลอกลายเส้น เพื่อให้เห็นรายละเอียดของภาพรวมในงานจิตรกรรมฝาผนังอันเก่าแก่ของศิลปะล้านนา ซึ่งมีอายุกว่า 600 ปีได้ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม
จิตรกรรมดังกล่าวเป็นเทคนิคเขียนสีปูนเปียก ซึ่งเป็นเทคนิคที่นิยมกันในยุคโบราณ เพื่อให้งานจิตรกรรมนั้นติดทนนาน ดังนั้นภายในห้องกรุเราจึงเห็นเนื้อปูนที่กะเทาะออกมาสองชั้นคือชั้นแรกคือปูนฉาบ และชั้นที่สองคือชั้นปูนเปียกเพื่อเตรียมเขียนงานจิตรกรรม สีที่ใช้เขียนพบว่ามีเพียงสองสีที่ชัดเจน คือสีแดงและสีดำ ซึ่งน่าจะเป็นสีที่มาจากชาดและยางรัก อันเป็นวัตถุให้สีที่นิยมกันในยุคโบราณ ส่วนภาพเขียนเป็นภาพเทวดา 2 องค์ องค์แรกไม่สามารถระบุได้เนื่องจากมีการกะเทาะของปูนบริเวณส่วนองค์เทวดาพอดี องค์ที่ 2 เป็นเทวดา 4 กร นั่นคือพระพรหมนั่นเอง
พระพรหมทรงเครื่องสวมชฎามีรัศมี มือคู่แรกประนมมือไว้ มือคู่หลังกรีดกรายเหมือนถือช่อดอกไว้แต่ไม่ชัดเจน นุ่งผ้าสะบัดพลิ้ว รอบๆมีดอกไม้ลอยเป็นดอกโบตั๋น ส่วนฐานล่างสุดเป็นลายหม้อดอกบูรณฆฏะในหม้อเป็นดอกบัว ส่วนด้านบนเป็นลักษณะของรูปทรงสามเหลี่ยม ซึ่งจากการดูลายเส้นที่เลือนรางสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นรูปทรงของฉัตรหรือไม่ก็เป็นรูปทรงของเจดีย์
จิตรกรรมผาผนังภายในกรุวัดร้างแสนขาน ตามสภาพปัจจุบันนั้น อยู่ในสภาพที่ชำรุดลบเลือนมาก จนหลายคนเข้าใจว่าคงไม่มีภาพจิตรกรรมหลงเหลือ แต่จากการสำรวจครั้งนี้กลับพบหลักฐานของจิตรกรรมฝาผนังที่มีความสำคัญมากอีกชิ้นหนึ่งในล้านนา ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อวงการวิชากาต่อไปในอนาคต
|
คำสำคัญ :
จิตรกรรมวัดร้างแสนขาน, จิตรกรรมล้านนา 600 ปี
|
กลุ่มบทความ :
บทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั่วไป
|
หมวดหมู่ :
ภาษา วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
255
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
ฐาปกรณ์ เครือระยา
วันที่เขียน
5/9/2563 22:20:19
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
18/1/2564 2:08:06
|
|
|
การวาดรูปสีน้ำเบื้องต้น
»
หลักการการวาดสีน้ำ
|
หลักการระบายสีน้ำ และเทคนิคการระบายสีน้ำ ความจำเป็นที่จะต้องเข้าใจคุณสมบัติของสีน้ำ และต้องสามารถควบคุมได้ การลงมือทดลองจะเห็นธรรมชาติและความเป็นไปของจังหวะสี ดังนั้นการสร้างสรรค์ภาพวาดสีน้ำจึงต้องใช้เทคนิคพื้นฐานการระบายสีน้ำ ซึ่งจะสามารถนำไปสร้างสรรค์ภาพจิตรกรรมสีน้ำที่สมบูรณ์
การระบายแบบเปียกบนเปียก (Wet ON Wet) : คือ สีเปียก (สีผสมน้ำแล้ว) ระบายบนกระดาษเปียก (กระดาษที่ระบายน้ำหรือน้ำสีไว้แล้ว) วิธีการคือ ใช้พู่กันจุ่มสี (ค่อนข้างข้น) แตะแต้มบนกระดาษที่เปียกอยู่แล้วตามด้วยสีอื่น สีจะไหลซึม รุกรานเข้าหากันอย่างกลมกลืนและมีส่วนที่เกิดเป็นสีใหม่เพิ่มขึ้นมา
ถ้าทำบนกระดาษเปียกชุ่ม สีจะรุกรานกันรวดเร็วและนุ่มนวล เทคนิคนี้นำไปใช้ระบายท้องฟ้า หรือน้ำทะเลได้ ถ้าทำบนกระดาษเปียก สีจะรุกรานไม่มากแต่ยังคงผสมผสานกลมกลืนกันดี เทคนิคนี้นำไปใช้ระบายเป็นพวกวัตถุรูปทรงทั่วไปได้ ถ้าทำบนกระดาษหมาด สีจะผสมผสานกลมกลืนกันน้อย เห็นการแยกสัดส่วนชัดเจนกว่า เทคนิคนี้นำไปใช้ สร้างพื้นผิวแสดงความแตกต่าง ไม่เรียบ
การระบายแบบเปียกบนแห้ง (Wet ON Dry) : เป็นลักษณะการระบายเรียบโดยใช้สี (ผสมน้ำแล้ว) ระบายบนกระดาษแห้งมี 3 รูปแบบ ดังนี้
ระบายเรียบสีเดียว (Flat wash) : โดยใช้พู่กันจุ่มสีระบายไปตามแนวนอนบนกระดาษที่เอียงเล็กน้อยให้น้ำสีไหลลงไปกองข้างล่างแล้วระบายต่อเนื่องกันลงไปจนจบ การระบายครั้งต่อไปให้ต่อที่ใต้คราบน้ำที่ยังเปียกอยู่ ผลที่ได้คือสีจะใส เรียบสม่ำเสมอ ระวัง อย่านำพู่กันไปจุ่มน้ำ หรือเติมน้ำลงในสี ระหว่างทำงานเพราะจะทำให้สีที่ได้ไม่เรียบเกิดเป็นขั้นได้
ระบายเรียบหลายสี (Colour wash) : ทำเหมือนกับระบายเรียบสีเดียวแต่เมื่อจบสีที่ 1 แล้วให้ระบายสีที่ 2 ต่อที่ใต้คราบน้ำขณะที่เปียกอยู่ ผลที่ได้คือ สีต่างๆ จะมีการผสมผสานกลมกลืนกันอย่างต่อเนื่อง หมายเหตุ ทั้งการระบายเรียบสีเดียว และ หลายสี เป็นพื้นฐานของงานสีน้ำที่นำไปใช้ระบาย ให้เกิดภาพแล้วแต่ว่าจะให้เป็นสีเดียว หรือหลายสี เช่น ภาพคนใส่เสื้อผ้า ก็ต้องเป็นระบายเรียบหลายสี
ระบายเรียบอ่อนแก่ (Grade wash) : เป็นการระบายให้เกิดค่าน้ำหนักของสี จะเริ่มจากอ่อนไปหาแก่ หรือ จากแก่ไปหาอ่อนก็ได้ ถ้าเริ่มจาก แก่ไปหาอ่อน ก็ผสมสีให้ข้นกว่าปกติ แล้วระบายเรียบได้ช่วงหนึ่งให้ล้างพู่กันจนสะอาดแล้วจุ่มน้ำมาระบายใต้คราบน้ำเป็นระยะๆให้สีจางลงไปเรื่อยๆ ถ้าเริ่มจาก อ่อนไปหาแก่ ให้ผสมสีเจือจางแล้วระบายเรียบไปช่วงหนึ่ง ก็เพิ่มสีให้มีความเข้มข้นขึ้น แล้วระบายต่อใต้คราบน้ำลงมา เป็นระยะๆ ให้สีเข้มขึ้นการระบายเรียบอ่อนแก่ เป็นเทคนิคที่นำไปใช้ระบายให้เกิด มิติ แสง-เงา
การระบายแบบแห้งบนแห้ง (DRY ON DRY) : เป็นการระบายสีข้นๆบนกระดาษแห้งในลักษณะต่างๆเช่น แตะ แต้ม ขีด เขียน ลากเส้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการใช้ส่วนต่างๆของพู่กันคือปลายบ้าง โคนบ้างเพื่อให้เกิดเป็นลักษณะต่างๆ เทคนิคนี้นำไปใช้เน้นเพื่อเพิ่มรายละเอียดของภาพ เช่น เมื่อเราทำภาพตัวบ้านเสร็จแล้วเราก็มาใส่ประตู หน้าต่าง ด้วยการใช้สีข้นๆ แตะ แต้ม ลงไปเราก็จะได้รายละเอียดของภาพแบบ
ดังนั้น การวาดภาพสีน้ำกระบวนการสำคัญคือการให้แสงและเงา ที่เข้าใจธรรมชาติของภาพ แล้วนำมาร้างสรรค์งานภาพวาดสีน้ำต่อไป
|
คำสำคัญ :
|
กลุ่มบทความ :
บทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั่วไป
|
หมวดหมู่ :
ดนตรี ศิลปะ วรรณกรรม บันเทิง
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
695
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
ฐาปกรณ์ เครือระยา
วันที่เขียน
5/9/2563 22:15:54
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
19/1/2564 3:11:13
|
|
|
บริการสื่อโสตทัศน์
»
การพัฒนาบริการบรรณานุกรมภาพยนตร์ออนไลน์: กรณีศึกษา ห้องสมุดมหาวิทยาลัยแม่โจ้
|
- การวิจัยมีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาขนาดและคุณค่าของคอลเลคชันภาพยนตร์ของบริการภาพยนตร์ออนไลน์ Monomax (2) เพื่อศึกษาระบบเครื่องมือช่วยค้นหรือเข้าถึงภาพยนตร์ (OPAC และดรรชนี) ของบริการภาพยนตร์ออนไลน์ Monomax (3) เพื่อศึกษาและทดลองพัฒนาแนวทางบริการบรรณานุกรมภาพยนตร์ ที่อำนวยความสะดวกผู้ใช้ในการบริการสืบค้นภาพยนตร์จากระบบ OPAC ที่มีบริการหลายระบบ มีสมมติฐาน 2 ประการคือ (1) รายชื่อภาพยนตร์ในบริการภาพยนตร์ออนไลน์ Monomax มีจำนวนมากกว่ารายชื่อในห้องสมุด (2) รายชื่อภาพยนตร์ในบริการ
ภาพยนตร์ออนไลน์ Monomax ที่มีคุณค่าจัดเป็นภาพยนตร์ดีเด่น มีจำนวนมากกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนรายชื่อภาพยนตร์ดีเด่นในฐานข้อมูลภาพยนตร์ดีเด่น และมีจำนวนมากกว่าจำนวนที่มีให้บริการในห้องสมุด ประชากรคือรายชื่อภาพยนตร์ทั้งหมดใน Monomax และห้องสมุด เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ฐาน ข้อมูลภาพยนตร์ดีเด่นหรือ Film_OPAC ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ ALIST โปรแกรม CDS/ISIS สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ผลการวิจัยพบว่า
- 1. ขนาดคอลเลคชันภาพยนตร์ออนไลน์ Monomax มีจำนวน 1,261 รายชื่อ (28.06% ของจำนวนภาพยนตร์ Monomax และห้องสมุดรวมกัน 4,494 รายชื่อ) ภาพยนตร์ของห้องสมุดในระบบ ALIST มีจำนวน 3,233 รายชื่อ (71.94%) จึงปฏิเสธสมมติฐานข้อ 1 และขนาดคอลเลคชันเฉพาะกลุ่มภาพยนตร์ดีเด่น ของ Monomax มีจำนวน 136 รายชื่อ เปรียบเทียบกับฐานข้อมูลภาพยนตร์ดีเด่น 4,761 รายชื่อ คิดเป็นร้อยละ 2.85 (น้อยกว่าร้อยละ 50) และเมื่อเปรียบเทียบกับห้องสมุดที่มี 1,416 รายชื่อ พบว่ามีน้อยกว่า จึงปฏิเสธสมมติฐานข้อ 2
- 2. การศึกษาระบบเครื่องมือช่วยค้นหรือเข้าถึงภาพยนตร์ (OPAC และดรรชนี) ของบริการภาพยนตร์ออนไลน์ Monomax ในประเด็นระบบยูสเซอร์อินเทอร์เฟซ การบันทึกข้อมูล การสืบค้น การจัดการเซทผลลัพธ์ และการจัดการผลลัพธ์ ไม่ละเอียดหรือสมบูรณ์เท่าห้องสมุด และสืบค้นได้น้อยกว่า ในภาพรวมระบบของภาพยนตร์ Monomax แตกต่างจากระบบ OPAC ของห้องสมุด
- 3. การศึกษาและทดลองพัฒนาแนวทางบริการบรรณานุกรมที่อำนวยความสะดวกผู้ใช้ในการบริการสืบค้นภาพยนตร์จากระบบ OPAC ที่มีบริการหลายระบบ พบว่าสามารถกระทำได้สะดวก 2 วิธีคือ (1) การใช้ฐานข้อมูลเฉพาะทาง โดยอาศัยโปรแกรมหรือระบบฐานข้อมูลที่มีอยู่มาปรับใช้งาน คือโปรแกรมฐานข้อมูลภาพยนตร์ดีเด่น หรือ Film_OPAC (2) การสร้างระเบียนภาพยนตร์หลายระบบในระบบ ALIST แบบแยกระเบียน (ชื่อเรื่องเดียวกัน บันทึกแยกระเบียนกัน)
คำสำคัญ : บริการบรรณานุกรม ; การค้นคืนสารสนเทศ ; ภาพยนตร์ออนไลน์ ; ห้องสมุดมหาวิทยาลัยแม่โจ้ [end]
|
คำสำคัญ :
การค้นคืนสารสนเทศ บริการบรรณานุกรม ภาพยนตร์ออนไลน์ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานห้องสมุด
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
1407
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
สุธรรม อุมาแสงทองกุล
วันที่เขียน
27/8/2563 8:36:34
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
19/1/2564 0:49:13
|
|
|
|
|