|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คู่มือ
»
คู่มือปฏิบัติงานการสร้างรายการทรัพยากรของวารสาร (item)
|
ตั้งแต่ พ.ศ. 2558 เป็นต้นมาสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ทำการเปลี่ยนระบบห้องสมุดอัตโนมัติใหม่ คือระบบห้องสมุดอัตโนมัติ (ALIST) ในส่วนของการลงทะเบียนที่เป็นการลงรับวารสารในส่วนของโมดู Serical Check in คือรายละเอียดของวารสารตั้งแต่ปี 2540-2558 สามารถถ่ายจากระบบห้องสมุดอัตโนมัติ Horizon มายังระบบห้องสมุดอัตโนมัติให้คือ ALIST ได้ ส่วนรายละเอียดของวารสารที่ได้รับก่อนปี 2540 ไม่สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้ ซึ่งเป็นปัญหาของงานด้านวารสารคือมีข้อมูลในส่วนของรายการบรรณานุกรมทะเบียนวารสาร แต่ไม่สามารถแสดงรายละเอียดต่าง ๆ ของวารสารที่มีให้บริการได้ ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการจัดทำการสร้าง Item ของวารสารทั้งหมดที่รับเข้ามาในระบบและเพื่อเป็นการเตรียมการเพื่อในอนาคตจะมีการให้บริการยืมวารสารออกนอกห้องสมุดได้
วัตถุประสงค์ของการจัดทำคู่มือ
1. เพื่อสร้างรายการทรัพยากรวารสาร (Item) สำหรับการ ยืม- คืน วารสาร
2. เพื่อเป็นคู่มือการปฏิบัติงานของบรรณารักษ์ นักเอกสารสนเทศและผู้ปฏิบัติงานห้องสมุด
ขอบเขตของคู่มือ
คู่มือการสร้างรายการทรัพยากรของวารสาร (Item) สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นคู่มือที่จัดทำขึ้นสำหรับการสร้างรายการทรัพยากรของวารสาร ตามนโยบายของผู้บริการที่ต้องการให้ทรัพยากรสารสนเทศประเภทวารสารที่มีให้บริการในสำนักหอสมุดทั้งวารสารเย็บเล่มและวารสารเล่มปลีกสามารถ ยืม- คืน ผ่านระบบห้องสมุดอัตโนมัติ ALIST ได้
ประโยชน์ที่ได้รับ
1. บุคลากรสำนักหอสมุด สามารถปฏิบัติงานแทนกันได้
2. ผู้ใช้บริการสามารถยืม คืน วารสารผ่านระบบห้องสมุดอัตโนมัติได้
3. สามารถรายงานผลการายืม – คืน วารสารได้
|
คำสำคัญ :
item รายการทรัพยากรวารสาร
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานห้องสมุด
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
93
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
จิณาภา ใคร้มา
วันที่เขียน
18/6/2567 9:47:27
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
16/7/2567 9:56:46
|
|
|
คู่มือ
»
การสร้าง item เพื่อการยืมคืน
|
แนวทางการปฏิบัติงานข้างต้นในส่วนของงานด้านวารสาร สำนักหอสมุดได้ปฏิบัติตามนโยบายของผู้บริหาร ตั้งแต่การบันทึกรายการบัตรทะเบียนวารสาร การใช้ระบบห้องสมุดอัตโนมัติระบบเดิม (horizon) จนถึงปัจจุบันใช้ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ (Alsit) จากการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องจึงเกิดกระบวนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับนโยบายของผู้บริหาร ที่ต้องการให้เกิดความสะดวกในการยืม-คืนวารสาร และเป็นการเก็บสถิติการใช้วารสารภายในห้องสมุด จึงมีความจำเป็นที่ผู้ปฎิบัติงานด้านวารสารจะต้องดำเนินงานให้สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว จึงต้องทำการในสร้าง/เพิ่ม/แก้ไข ข้อมูลตัวเล่ม (item) ของวารสาร เฉพาะตัวเล่มที่มีผู้ใช้บริการต้องการใช้ ต้องการยืมออกนอกห้องสมุด และวารสารล่วงเวลาที่ผู้ใช้ใช้บริการที่วางที่จุดพักวารสารเท่านั้น เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณในการติดบาร์โค้ด ประหยัดเวลาในการปฏิบัติงานของผู้ปฏิบัติงานด้านวารสาร ส่วนวารสารฉบับใหม่ที่มีการสมัครสมาชิกหรือรับบริจาคจะดำเนินการลงทะเบียนในระบบเช็คอินการ์ดทุกฉบับและดำเนินการสร้างข้อมูลตัวเล่ม (item) เป็นปัจจุบัน
|
คำสำคัญ :
item ข้อมูลตัวเล่มวารสาร วารสารล่วงเวลา
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานห้องสมุด
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
83
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
จิณาภา ใคร้มา
วันที่เขียน
18/6/2567 9:31:15
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
16/7/2567 10:38:21
|
|
|
|
คู่มือ
»
การตรวจสอบทะเบียนวารสาร
|
วารสารจัดเป็นทรัพยากรสารนิเทศประเภทหนึ่งที่นับได้ว่ามีความสำคัญและความจำเป็นสำหรับผู้ใช้บริการอย่างมาก วารสารเป็นสิ่งพิมพ์ที่ให้ข้อมูล ให้ความรู้ทางวิชาการที่หลากหลาย มีความทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งมีเนื้อหาประกอบด้วยงานเขียนและงานวิจัยของนักวิชาการ นักวิจัยประเภทต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ คำนึงถึงความสำคัญและความจำเป็นของสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทนี้ จึงได้มีการ จัดสร้างรายการบรรณานุกรมทะเบียนวารสารภาษาไทย และวารสารภาษาอังกฤษ และในปัจจุบันนี้ มีการจำกัดในเรื่องงบประมาณในการจัดซื้อจัดหา และวารสารมีการหยุดพิมพ์เป็นจำนวนมาก มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดพิมพ์จากการพิมพ์ตัวเล่มปรับเปลี่ยนเป็นแบบออนไลน์เป็นจำนวนมาก
จากความสำคัญดังกล่าวข้างต้น ฝ่ายพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ ที่มีหน้าที่ในความรับผิดชอบเกี่ยวกับเทคนิคการบริหารจัดการด้านทะเบียนวารสาร เพื่อให้บริการวารสารให้เป็นปัจจุบันและทันสมัย ทั้ง 2 รูปแบบ คือ บริการตัวเล่มวารสาร และ บริการวารสารฉบับออนไลน์ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการปรับปรุงทะเบียนวารสารให้สอดคลองกับการให้บริการในโลกปัจจุบัน
วัตถุประสงค์
เพื่อปรับปรุงสถานะและรายละเอียดของรายการทะเบียนวารสารที่ให้บริการให้ตรงกับความเป็นจริงและเป็นปัจจุบัน
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
ทำให้ผู้ปฎิบัติงานห้องสมุดและผู้ใช้บริการ ได้รับทราบสถานะของทะเบียนวารสารได้ตรงกับความเป็นจริงและเป็นสถานะของปัจจุบันแต่ละรายชื่อ
ขอบเขต
ตรวจสอบรายการบรรณานุกรมทะเบียนวารสารภาษาไทย ให้เป็นปัจจุบันโดยตรวจสอบจากไฟล์เอกสารใน Google Drive “รายชื่อวารสารและสิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง” กับโปรแกรมห้องสมุดอัตโนมัติ ALIST ในระบบวารสารและสิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง โดยตรวจสอบสถานะของวารสารที่จำหน่ายออกและวารสารที่จัดทำเป็นแบบออนไลน์
|
คำสำคัญ :
ทะเบียนวารสาร สถานะของวารสาร
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานห้องสมุด
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
91
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
จิณาภา ใคร้มา
วันที่เขียน
18/6/2567 9:09:58
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
16/7/2567 9:55:23
|
|
|
|
คู่มือ
»
การสร้างรายการบรรณานุกรมบทความออนไลน์
|
ในปัจจุบัน วารสารมีการจัดพิมพ์ออกเป็น 2 รูปแบบ คือจัดพิมพ์เป็นรูปเล่ม และการจัดพิมพ์เป็นแบบออนไลน์ ฝ่ายพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ มีหน้าที่ในการจัดหาวารสารทั้งสอง 2 รูปแบบ เพื่อให้บริการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการให้บริการแบบตัวเล่ม ต้องมีการคัดเลือกวารสารที่สอดคล้องกับหลักสูตรที่เปิดสอนเพื่อให้บริการ โดยมีการจัดทำดรรชนีบทความวารสาร ซึ่งบางสำนักพิมพ์ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดทำวารสารเป็นแบบออกไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวารสารวิชาการ ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทางฝ่ายได้รับมีการประชุมเพื่อแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบในการจัดทำดรรชนีบทความวารสารทั้งฉบับที่เป็นรูปเล่มและออนไลน์ เป็นประจำทุกปี
สำหรับปีปัจจุบันนี้การจัดทำดรรชนีบทความของวารสารฉบับออนไลน์ ขึ้นเป็นปีแรก ทางฝ่ายพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ ได้มีการประชุมเพื่อสรุปประเด็นเป็นแนวทางปฏิบัติในการสร้างรายการบรรณานุกรมบทความวารสารฉบับออนไลน์ขึ้น
|
คำสำคัญ :
บทความออนไลน์ บรรณานุกรมบทความ
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานห้องสมุด
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
77
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
จิณาภา ใคร้มา
วันที่เขียน
18/6/2567 8:51:02
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
16/7/2567 10:38:36
|
|
|
คู่มือ
»
การลดขั้นตอนการให้บริการหนังสือพิมพ์
|
การลดขั้นตอนการให้บริการหนังสือพิมพ์
ควายหมายของหนังสือพิมพ์
หนังสือพิมพ์ คำจำกัดความในพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.2484 ว่า “หนังสือพิมพ์ เป็นสิ่งพิมพ์ที่มีชื่อจ่าหน้าเช่นเดียวกัน ออกหรือเจตนาจะออกตามลำดับเรื่อยไป มีกำหนดระยะเวลาหรือไม่ก็ตาม มีข้อความต่อเนื่องหรือไม่ก็ตาม”
หนังสือพิมพ์ หมายถึง สิ่งพิมพ์ที่รายงานข้อเท็จจริงและเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น ในแต่ละวัน รวมทั้งเนื้อหาสาระอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ตลอดจนการโฆษณา มีวาระการวางจำหน่ายที่แน่นอน แต่เดิมนิยมจำหน่ายเป็นรายวัน ปัจจุบันหนังสือพิมพ์รายสามวันก็เป็นที่นิยมของผู้อ่านมาก การจัดพิมพ์หนังสือพิมพ์จะใช้กระดาษชนิดเดียวกันตลอดเล่ม ตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้ายโดยไม่มีการเย็บเล่ม
หนังสือพิมพ์ หมายถึง สื่อสิ่งพิมพ์รายงานข่าว และข่าวสาร เพื่อให้ความรู้ ความบันเทิงและเสนอข้อเขียนเชิงวิพากษ์ วิจารณ์เสนอข้อคิดเห็นต่างๆ ในรูปของบทนำ หรือบทบรรณาธิการ (Editorial) บทความ (Article) ตลอดจน คอลัมน์ (Column) เพื่อให้แง่มุมความคิด และการเตือนภัย แก่ผู้อ่านซึ่งเป็นประชาชนทั่วไปเป็นสำคัญ
สรุปได้ว่า หนังสือพิมพ์ คือสิ่งพิมพ์ที่รายงานข้อเท็จจริง รายงานเหตุการณ์สำคัญ ให้ความรู้ ความบันเทิง มีการเสนอแนะหรือเขียนเชิงวิพากษ์ วิจารณ์ มีการเตือนภัยต่าง ๆ แก่ประชาชนทั่วไป และยังมีโฆษณาประชาสัมพันธ์ เป็นการเสนอของแต่ละท้องถิ่น ในแต่ละวัน
ฝ่ายพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ มีหน้าที่ในการจัดซื้อ จัดหา ทรัพยากรสารสนเทศประเภทต่าง ๆ ได้แก่ หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ วิดีทัศน์ เพื่อ ให้บริการกับผู้มาใช้บริการ
การลดขั้นตอนการให้บริการหนังสือพิมพ์ในที่นี้จะกล่าวถึงการลงทะเบียนหนังสือพิมพ์ที่สำนักหอสมุดจัดซื้อมาเพื่อให้บริการ ซึ่งการจัดซื้อหนังสือพิมพ์จะต้องมีการดำเนินงานเกี่ยวข้องดังนี้คือ 1) ติดต่อร้านค้าหรือตัวแทนจำหน่าย 2) ขออนุมัติซื้อหนังสือพิมพ์ 3)พัสดุดำเนินการติดต่อจัดซื้อหนังสือพิมพ์ตามรายชื่อที่ขออนุมัติ 4) รอรับหนังสือพิมพ์ 5) ลงทะเบียนรับหนังสือพิมพ์ 6)ประทับตราห้องสมุด 7) ส่งหนังสือพิมพ์ให้งานบริการนำออกให้บริการ 8) เก็บหนังสือพิมพ์ที่สิ้นกระแสการให้บริการไว้ที่ห้องล่วงเวลาหนังสือพิมพ์ 9)สิ้นเดือนตรวจสอบจำนวนหนังสือพิมพ์ว่าตรงกับใบส่งของเพื่อแจ้งพัสดุให้ดำเนินการจ่ายเงินตามใบส่งของ 10) มัดหนังสือแยกตามรายชื่อและเรียงลำดับตามวันที่ 11) จัดเก็บไว้ให้เป็นระเบียบเพื่อรอการจำหน่าย เนื่องจากหนังสือพิมพ์ของสำนักหอสมุดที่จัดซื้อมาจะเก็บไว้เพื่อให้บริการเป็นเวลา 2 เดือน
|
คำสำคัญ :
การลดขั้นตอนการลงทะเบียนหนังสือพิมพ์
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานห้องสมุด
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
33
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
จิณาภา ใคร้มา
วันที่เขียน
17/6/2567 16:15:05
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
13/7/2567 15:54:54
|
|
|
คู่มือ
»
การจำหน่ายออกวารสาร
|
การจำหน่ายออกวารสาร
ฝ่ายพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้
จิณาภา ใคร้มา
นักเอกสารสนเทศชำนาญการพิเศษ
สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีแนวทางในการบริหารจัดการทรัพยากรสารสนเทศประเภทวารสารออกจากห้องสมุด เนื่องจากปัจจุบันสภาพทางกายภาพของห้องสมุดมีจำนวนวารสารที่ให้บริการที่ซ้ำและวารสารเก่า ทำให้พื้นที่ในการจัดเก็บไม่เพียงพอ จึงมีโนบายในการจำหน่ายออกวารสารจำนวนดังกล่าว
วารสารเป็นสิ่งพิมพ์ออกมาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นทรัพยากรสารสนเทศที่มีความสำคัญของห้องสมุดประเภทหนึ่ง ที่มีการเผยแพร่ความรู้ ความคิด เสนอความเคลื่อนไหวและพัฒนาการของวิชาการในสาขาวิชาการต่าง ๆ อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ในวารสารจะประกอบด้วย บทความวิชาการ ข้อมูล สถิติ รายงานสถานการณ์ความเลื่อนไหวของประเทศ เป็นการประชาสัมพันธ์หน่วยงาน ซึ่งทุกห้องสมุดจะต้องจัดซื้อ จัดหา ทรัพยากรสารสนเทศประเภทวารสารมาไว้เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ซึ่งกิจกรรมการจำหน่ายออกวารสาร ถือได้ว่าเป็นหนึ่งภาระงานของฝ่ายพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ
ความหมาย
วารสาร หมายถึง สิ่งพิมพ์ที่มีกำหนดออกเป็นประจำ เช่นรายสัปดาห์ ปักษ์ เดือน รายสองเดือน รายสามเดือน รายสี่เดือน รายหกเดือน หรือรายปี มีเนื้อหาให้ความรู้เชิงวิชาการ
การจำหน่าย หมายถึง ขาย จ่าย แจก เอาออกจากบัญชี
การจำหน่ายออกวารสาร หมายถึง การนำวารสารออกจากห้องสมุดโดยการ ขาย แจกหรือบริจาค โดยวารสารดังกล่าวจะต้องมีนโยบายการนำออกจากผู้บริหาร หรือมติที่ประชุมกรรมการบริหารสำนักหอสมุด
วัตถุประสงค์ของการจำหน่ายวารสารออก
1. เพื่อพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการทรัพยากรสารสนเทศประเภทวารสารให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ
2. เพื่อให้มีพื้นที่ในการจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศประเภทวารสารเพียงพอกับปริมาณตัวเล่มวารสาร
|
คำสำคัญ :
จำหน่ายออกวารสาร
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานห้องสมุด
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
99
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
จิณาภา ใคร้มา
วันที่เขียน
17/6/2567 16:05:52
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
16/7/2567 11:14:53
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ความรู้จากการเข้าร่วมอบรม/สัมมนา/ประชุมวิชาการ
»
การเผยแพร่ความรู้ที่ได้จากการเข้าร่วมประชุมวิชาการระดับชาติวิจัยรำไพพรรณี ครั้งที่ 17 เนื่องในวโรกาสคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ครบ 119 ปี เรื่อง “งานวิจัยและนวัตกรรมสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG Bio-Circular-Green Economy”
|
ตามที่คณะวิทยาศาสตร์ ได้อนุญาติให้ข้าพเจ้า นางอัจฉรา แกล้วกล้า ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เข้าร่วมการประชุมวิชาการระดับชาติวิจัยรำไพพรรณี ครั้งที่ 17 เนื่องในวโรกาสคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ครบ 119 ปี เรื่อง “งานวิจัยและนวัตกรรมสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG Bio-Circular-Green Economy” เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ (อาคาร 36) มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จังหวัดจันทบุรี (ในรูปแบบออนไลน์) นั้น
บัดนี้ ข้าพเจ้าได้เข้าร่วมการประชุมวิชาการระดับชาติวิจัยรำไพพรรณี ครั้งที่ 17 เนื่องในวโรกาสคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ครบ 119 ปี เรื่อง “งานวิจัยและนวัตกรรมสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG Bio-Circular-Green Economy” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น จึงขอรายงานสรุปเนื้อหาและประโยชน์ที่ได้รับ ดังนี้
1. สรุปเนื้อหาที่ได้รับจากการเข้าประชุม/อบรม ฯลฯ
1.1 เข้ารับฟังการบรรยายพิเศษ เรื่อง “แนวทางการนำทรัพย์สินทางปัญญา ผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ.2564" โดย ดร.สรรพวรรธ วิทยาศัย ผู้จัดการหน่วยจัดการทรัพย์สินทางปัญญา และถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการได้ผลงานทางวิชาการแล้วนำผลงานนั้นไปใช้ประโยชน์ ที่ผ่านมาต้องมีการทำข้อตกลงในแต่ละขั้นตอนที่มีภาคเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เป็นอุปสรรคต่อหน่วยงานมหาวิทยาลัย และผู้วิจัยเป็นอย่างมาก สำหรับในปัจจุบันมหาวิทยาลัย จะต้องมีการจัดทำระบบในการเปิดเผยผลงานวิจัย ซึ่งทางมหาวิทยาลัย และผู้วิจัยต้องตัดสินใจว่าจะเป็นเจ้าของผลงานหรือไม่ภายในระยะเวลา 1 ปี และต้องมีการยื่นรายงานการขอนำไปใช้ประโยชน์ภายในระยะเวลา 2 ปี ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติการใช้สัญญาทุนภาครัฐ ดังนั้นทางมหาวิทยาลัยต้องมีระบบ หน่วยงาน และแผนในการเตรียมข้อมูลว่าแต่ละงานวิจัยมีความคุ้มค่าการใช้ประโยชน์หรือไม่ เรียกว่า การจัดการทรัพย์สินทางปัญญา และ การจัดสรรประโยชน์ ตัวอย่างของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีระเบียบระบุไว้ว่างานวิจัยใดที่มีการนำไปใช้ในการเรียนการสอน งานวิจัยนั้นเป็นทรัพย์สินของทางมหาวิทยาลัย ประเภทของทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศไทย มี 2 รูปแบบ คือ การจดทะเบียนให้ได้สิทธิ์ และการจดแจ้งสิทธิ์ ดังนี้
ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม จดทะเบียนให้ได้สิทธิ์ จดแจ้งสิทธิ์
- เครื่องหมายการค้า √
- ความลับทางการค้า/ความรู้ทางเทคนิค √
- แบบผังภูมิวงจรรวม √
- สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ √
- สิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร √
- งานอันเป็นลิขสิทธิ์ √
- พืชพันธุ์ √
การบริหารกระบวนการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ และการขึ้นทะเบียนในสิทธิ์หรือแจ้งสิทธิ์จะต้องมีความสอดคล้องและมีการวางแผน หากเผยแพร่ผลงานทางวิชาการไปก่อนหน้าแล้ว อาจไม่สามารถขึ้นทะเบียนในสิทธิ์หรือแจ้งสิทธิ์ได้ ข้อควรระวังในการทำแผนการใช้ประโยชน์ภายหลังการเปิดเผยผลงานทางวิชาการ คือ แผนการใช้ประโยชน์ควรมีเทคนิคการเขียนให้สามารถทำได้ หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ผลลัพธ์สูง หากเปอร์เซ็นต์ผลลัพธ์ต่ำ หรือทำได้น้อยกว่าแผน จะทำให้ผลงานที่เป็นทรัพย์สินนั้นไม่สามารถอ้างสิทธิ์ได้
1.2 เข้ารับฟังการปาฐกถาพิเศษโดย ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวทช.) ในหัวข้อเรื่อง “งานวิจัยและนวัตกรรมสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้วยโมเดลเศษฐกิจ BCG (Bio-circular-Green Economy)” โดยได้บรรยายเกี่ยวกับการนำ BCG มาใช้เพื่อพัฒนาประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านั้นจะมีโปรแกรมเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่อการพัฒนาประเทศของทุกประเทศ ประกาศโดยสหประชาชาติ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ต่อมาได้มีการพัฒนามาเป็นโปรแกรม BCG เพื่อตอบสนองต่อการท้าทายในปัจจุบันจนถึงอนาคต โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ประเด็นท้าทาย สิ่งที่พบหรือปรากฏการณ์
Digital disruption ครั้งที่ 1 internet ครั้งที่ 2 mobile internet ครั้งที่ 3 internet of think ครั้งที่ 4 AI and Robotic
Geopolitical Risk ตะวันออกกลาง จีน vs ไต้หวัน รัสเซีย vs ยูเครน
Healthcare crisis SARs>Ebola>Covid-19
Recession Inflation>Oil price>GDP drop
Climate Change Natural disasters Activist vs Protester Regulatory uncertainly Business risks
ประเด็นท้าทายเหล่านี้มีประโยชน์ในการขับเคลื่อนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในปัจจุบัน เช่น การเกิด covid-19 นำสู่ความก้าวหน้าทางการแพทย์ และ internet conference โดยรัฐบาลได้มีการตอบสนองต่อประเด็นท้าทายเหล่านี้ในหลายๆ นโยบาย เช่น นโยบายการเงินสีเขียว การสร้างข้อตกลงใน APEC Economy ร่วมกับนานาประเทศ เป็นต้น การทำแผน BCG model ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. 2565 เรียกว่า แผนปฏิบัติการการพัฒนาประเทศด้วยโมเดลทางเศรษฐกิจ โดยตั้งเป้าหมายไว้ในปี 2570 ในด้านต่าง ๆ ดังนี้ การเพิ่มอัตราการเจริญทางเศรษฐกิจ การลดความเหลือมล้ำ การรักษาธรรมชาติ และการพึ่งพาตนเอง ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการขับเคลื่อน รัฐบาลได้วางกลไกการขับเคลื่อนส่วนหนึ่งผ่านทาง สวทช. ในการเอาความรู้ทางด้านการวิจัยมาสนับสนุน BCG ซึ่งทรัพยากรด้านบุคคลมีมากถึง 2,901 คน ซึ่งอยู่ในระดับปริญญาเอกถึง 67% และมีการวางแผนให้สอดคล้องกับ BCG มีเป้าหมายเพื่อยกระดับให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีรายได้เพิ่มมากขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสิ่งแวดล้อมที่ดีในอนาคต
1. ประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานในตำแหน่งหน้าที่
1.1 ได้รับความรู้และประสบการณ์จากการเข้าร่วมการประชุมวิชาการฯ
1.2 ได้รับความรู้เกี่ยวกับงานวิจัยในด้านต่างๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในด้านการเรียน การสอน และการทำงานวิจัย
1.3 เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในผลงานการวิจัยระหว่างบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ
2. ประโยชน์ต่อหน่วยงาน (ระดับงาน/หลักสูตร/คณะ)
จากการเข้าร่วมประชุมวิชาการ และฟังการบรรยายในหัวข้อเรื่องต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลงานวิจัยใหม่ๆ ของนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญ ความรู้ที่ได้จากการฟังบรรยาย ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อหลักสูตรและคณะ และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ทั้งในด้านการเรียนการสอน โดยได้นำความรู้ที่ได้จากการฟังบรรยายดังกล่าวมาประยุกต์และถ่ายทอดให้แก่นักศึกษาและผู้ร่วมงาน ใช้ในการเรียนการสอนและงานวิจัย นอกจากนั้นยังได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และความรู้ต่างๆ กับนักวิจัยที่เชี่ยวชาญ ซึ่งทำให้เกิดประโยชน์ต่อหลักสูตรและคณะเป็นอย่างยิ่งโดยจะช่วยทำให้การปฏิบัติงานได้อย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพต่อไป
|
คำสำคัญ :
|
กลุ่มบทความ :
บทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั่วไป
|
หมวดหมู่ :
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
129
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
อัจฉรา แกล้วกล้า
วันที่เขียน
31/3/2567 11:09:58
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
16/7/2567 9:49:16
|
|
|
|
|
|