การดำรงตำแหน่งทางวิชาการเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของอาจารย์ในระดับอุดมศึกษา เนื่องจากสะท้อนถึงความรู้ ความเชี่ยวชาญ และจริยธรรมทางวิชาชีพ การอบรมเรื่อง “หลักเกณฑ์และการเขียนผลงานทางวิชาการ” โดยศาสตราจารย์ นาวาอากาศโท ดร.สุมิตร สุวรรณ เป็นประเด็นที่มีความสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับอาจารย์รุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นพัฒนาตนเองสู่การขอตำแหน่ง “ผู้ช่วยศาสตราจารย์” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของเส้นทางสายวิชาการ
แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับการขอตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์
จากหลักเกณฑ์ของ ก.พ.อ. (2564) ผู้ขอตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ต้องมีคุณสมบัติและผลงานตามที่กำหนด ได้แก่
• มีประสบการณ์สอนอย่างน้อย 3 หน่วยกิต
• จัดทำเอกสารประกอบการสอน
• ผลงานวิชาการอย่างน้อย 2 เรื่องในระดับ B เช่น งานวิจัย บทความวิชาการ หรือตำรา 1 เล่ม + บทความวิชาการ 1 เรื่อง
นอกจากนี้ ผู้ขอจะต้องเป็น first author หรือ corresponding author อย่างน้อยหนึ่งเรื่อง และผลงานวิชาการจะต้องเผยแพร่ในแหล่งที่ ก.พ.อ. กำหนดเท่านั้น (สุมิตร, 2567)
การประยุกต์ใช้ความรู้จากการอบรมในวิชาชีพอาจารย์
1. การพัฒนาเอกสารประกอบการสอนสู่การเป็นตำราวิชาที่สอน
หลังจากการอบรม ข้าพเจ้าตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาเอกสารคำสอนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทั้งในเชิงเนื้อหา โครงสร้าง และการอ้างอิง โดยปรับให้มีลักษณะของตำรา เช่น เพิ่มหัวข้อวัตถุประสงค์ประจำบท แบบฝึกหัด และการเชื่อมโยงกับงานวิจัย เพื่อเตรียมพร้อมให้สามารถยื่นขอตำแหน่งได้ในอนาคต
2. การผลิตผลงานวิจัยอย่างมีระบบ
การอบรมชี้ให้เห็นว่า งานวิจัยที่สามารถใช้ยื่นขอผศ. ต้องมีคุณภาพตามหลักวิชาการ และเผยแพร่ในวารสารวิชาการที่ผ่านการประเมิน ข้าพเจ้าได้นำแนวทางนี้ไปวางแผนการผลิตบทความวิจัยโดยใช้การเขียนบทที่ 5 ของรายงานวิจัยเป็นจุดเริ่มต้น และขยายเป็นบทความที่ตอบวัตถุประสงค์อย่างชัดเจน พร้อมการอ้างอิงที่เหมาะสม
3. การรักษาจริยธรรมทางวิชาการ
จากเนื้อหาในการอบรม ข้าพเจ้าได้รับความเข้าใจในประเด็นการหลีกเลี่ยงการลอกเลียนผลงาน (Plagiarism) การอ้างอิงให้ถูกต้อง และความจำเป็นในการยื่นขออนุมัติจริยธรรมการวิจัยในกรณีศึกษาที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ โดยข้าพเจ้าได้จัดระบบการอ้างอิงของนักศึกษาในการทำวิจัย และจัดอบรมเรื่อง plagiarism ภายในสาขาวิชาเพื่อสร้างความตระหนักร่วมกัน
4. การวางแผนความก้าวหน้าในสายวิชาการ
ความเข้าใจในโครงสร้างการเติบโตของตำแหน่งทางวิชาการทำให้ข้าพเจ้าสามารถวางแผนพัฒนาผลงานได้อย่างมียุทธศาสตร์ เช่น การกำหนดเป้าหมายการเผยแพร่บทความวิจัย 2 เรื่องภายใน 2 ปี การเริ่มพัฒนาตำรา และการเข้าร่วมงานวิจัยร่วมกับคณะ เพื่อสะสมผลงานที่หลากหลาย
สรุป การอบรมเรื่องการขอตำแหน่งทางวิชาการให้มากกว่าความรู้เชิงระเบียบวิธี แต่ยังเปิดโลกทัศน์ให้กับอาจารย์ในการสร้างผลงานอย่างมีคุณภาพ จริยธรรม และวางแผนพัฒนาตนเองอย่างมีทิศทาง การนำความรู้จากการอบรมมาประยุกต์ใช้กับวิชาชีพอาจารย์อย่างเป็นรูปธรรม จึงเป็นแนวทางที่สามารถขับเคลื่อนให้เกิดความก้าวหน้า ทั้งในระดับบุคคล สาขาวิชา และสถาบันได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ความรู้ที่ได้รับจากการอบรม “หลักเกณฑ์และการเขียนผลงานทางวิชาการเพื่อขอตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์” โดยถ่ายทอดสู่การปฏิบัติงานในสายอาชีพอาจารย์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านการจัดการเรียนการสอน การสร้างผลงานทางวิชาการ การรักษาจริยธรรมทางวิชาชีพ และการวางแผนพัฒนาตนเองเพื่อความก้าวหน้าในตำแหน่งทางวิชาการในอนาคต ดังนั้น ความรู้ที่ได้อบรมในครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าความเข้าใจที่ลึกซึ้งในหลักเกณฑ์การขอตำแหน่งทางวิชาการสามารถขับเคลื่อนคุณภาพการปฏิบัติงานของอาจารย์ในเชิงรุกและยั่งยืน
|