เปรียบเทียบเครื่องมือ AI ระหว่าง ChatGPT กับ Copilot ใช้ในงานอันไหนดีกว่ากัน
วันที่เขียน 23/9/2568 16:26:13     แก้ไขล่าสุดเมื่อ 25/9/2568 21:19:13
เปิดอ่าน: 23 ครั้ง

เครื่องมือ AI ใช้ในการทำงานและการเรียนการสอน

ปัจจุบันในยุคที่เทคโนโลยีก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว การทำงาน การเรียนการสอนและการใช้ชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การมีเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนในชีวิตประจำวันกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือ Microsoft Copilot และ ChatGPT สองผู้ช่วยอัจฉริยะที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการทำงานและการใช้ชีวิตของเราในรูปแบบที่แตกต่างกัน Microsoft Copilot เปรียบเสมือนเพื่อนร่วมงานที่พร้อมจะยื่นมือช่วยในทุกขั้นตอนของการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเอกสาร การวิเคราะห์ข้อมูล หรือการตอบกลับอีเมล ทุกสิ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้การทำงานในแอปพลิเคชันของ Microsoft ง่ายขึ้น ในขณะที่ ChatGPT เสมือนเพื่อนสนทนาที่ไม่รู้จักเหนื่อย พร้อมจะตอบคำถาม ให้คำปรึกษา หรือแม้กระทั่งสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้กับเรา แม้ว่าทั้ง 2 เครื่องมือ นี้จะถูกสร้างขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน แต่ทั้งคู่กลับมีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือการทำให้ชีวิตของเราดีขึ้น ง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะในที่ทำงานหรือในชีวิตส่วนตัว วันนี้ขอสรุป Microsoft Copilot และ ChatGPT มีความแตกต่างกันอย่างไร? การเปรียบเทียบระหว่าง Microsoft Copilot และ ChatGPT Microsoft Copilot และ ChatGPT เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่พัฒนาโดย OpenAI แต่มีวัตถุประสงค์และการใช้งานที่แตกต่างกัน นี่คือการเปรียบเทียบระหว่างทั้ง2 เครื่องมือ วัตถุประสงค์และการใช้งาน Microsoft Copilot: วัตถุประสงค์: ออกแบบมาเพื่อช่วยในการทำงานภายในแอปพลิเคชัน Microsoft 365 เช่น Word, Excel, PowerPoint, Outlook และ Teams โดยการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการเขียน การวิเคราะห์ การจัดการข้อมูล และการสื่อสาร การใช้งาน: Copilot ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันที่ผู้ใช้คุ้นเคย ช่วยในการเขียนเอกสาร สร้างงานนำเสนอ วิเคราะห์ข้อมูลในสเปรดชีต และจัดการอีเมลหรือตารางนัดหมาย ChatGPT: วัตถุประสงค์: ออกแบบมาเพื่อใช้ในการสนทนาและการตอบคำถามในหลากหลายหัวข้อ โดยสามารถใช้ในแชทบอท การสนทนาเชิงเทคนิค การให้คำแนะนำ และการตอบสนองต่อการสอบถามทั่วไปอย่างอิสระและเป็นธรรมชาติ การใช้งาน: ChatGPT สามารถใช้ในการสนทนาผ่านแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ช่วยในการตอบคำถาม การสร้างบทสนทนาที่เหมือนจริง การให้คำปรึกษา และการช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เทคโนโลยีพื้นฐาน Microsoft Copilot: ใช้เทคโนโลยี AI จากโมเดล GPT-4 (หรือ GPT-4o) ของ OpenAI ผสานเข้ากับข้อมูลภายในระบบ Microsoft Graph เพื่อทำงานเฉพาะเจาะจงในแอปพลิเคชัน Microsoft ได้รับการออกแบบให้ทำงานกับข้อมูลภายในแอปพลิเคชัน เช่น เอกสาร ตารางสเปรดชีต สไลด์นำเสนอ และอีเมล โดยการใช้งาน AI เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ChatGPT: ใช้โมเดล GPT-4 (และมีการพัฒนาต่อเนื่อง เช่น GPT-4.5/o3/o4-mini) ของ OpenAI ในการสนทนาและตอบคำถาม โดยถูกฝึกฝนด้วยข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตในวงกว้าง เพื่อการใช้งานที่ยืดหยุ่นในบริบทต่างๆ สามารถนำไปใช้ในหลายบริบท เช่น แชทบอท บริการลูกค้า การให้คำปรึกษา การสร้างเนื้อหา การพัฒนาโปรแกรม การสร้างรูป และอื่น ๆ ความสามารถหลัก Microsoft Copilot: - ช่วยเขียนเอกสาร: ช่วยในการเขียนและปรับปรุงเอกสารใน Word - วิเคราะห์ข้อมูล: ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างกราฟใน Excel - สร้างงานนำเสนอ: ช่วยสร้างและปรับแต่งสไลด์ใน PowerPoint - จัดการอีเมลและตารางเวลา: ช่วยจัดการและตอบกลับอีเมลใน Outlook - สนับสนุนการประชุม: ช่วยบันทึกและสรุปการประชุมใน Teams ChatGPT: - การสนทนา: สามารถสนทนาในหัวข้อที่หลากหลายและเป็นธรรมชาติ - การตอบคำถาม: ตอบคำถามและให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง - การให้คำปรึกษา: ช่วยให้คำแนะนำและคำปรึกษาในเรื่องต่าง ๆ - การสร้างเนื้อหา: สร้างเนื้อหาใหม่ ๆ เช่น บทความ เรื่องสั้น หรือโพสต์โซเชียบ - การแปลภาษา: ช่วยแปลภาษาระหว่างคู่ภาษาต่าง ๆ การรวมเข้ากับระบบ Microsoft Copilot: ผสานรวมโดยตรงกับแอปพลิเคชันในชุด Microsoft 365 ซึ่งทำให้ Copilot สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกในสภาพแวดล้อมการทำงานที่ผู้ใช้คุ้นเคย ChatGPT: สามารถผสานรวมกับแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ผ่าน API หรือการใช้งานในแชทบอทและบริการออนไลน์ ประโยชน์ของการใช้ Microsoft Copilot - เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: ช่วยเขียนเอกสาร วิเคราะห์ข้อมูล และสร้างงานนำเสนอได้เร็วขึ้น - ลดข้อผิดพลาด: ตรวจสอบและแก้ไขเอกสารอัตโนมัติ ลดข้อผิดพลาดในการทำงาน - ประหยัดเวลา: จัดการอีเมล ตารางนัดหมาย และงานต่าง ๆ ได้รวดเร็วและสะดวก - ส่งเสริมการสร้างสรรค์: ช่วยสร้างเนื้อหาและไอเดียใหม่ ๆ อย่างง่ายดาย - เพิ่มความร่วมมือในทีม: ทำให้การทำงานร่วมกันในทีมราบรื่นและมีประสิทธิภาพ - ปรับปรุงการเรียนรู้: ช่วยให้ผู้ใช้เรียนรู้การใช้งานแอปพลิเคชัน Microsoft 365 ได้ง่ายขึ้น ข้อดี Microsoft Copilot - ประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น: ช่วยทำงานในแอป Microsoft 365 ได้เร็วและมีคุณภาพมากขึ้น เช่น การเขียนเอกสาร การวิเคราะห์ข้อมูล และการสร้างสไลด์นำเสนอ - ลดข้อผิดพลาด: ตรวจสอบและแก้ไขงานอัตโนมัติ ลดความเสี่ยงในการทำงานผิดพลาด - ประหยัดเวลา: จัดการอีเมลและตารางนัดหมายได้รวดเร็ว ทำให้มีเวลามากขึ้นสำหรับงานที่สำคัญ - เพิ่มความสร้างสรรค์: ช่วยพัฒนาไอเดียใหม่ ๆ และปรับปรุงงานนำเสนอให้ดูดีขึ้น - ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน: ช่วยให้ทีมทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ - ใช้งานง่าย: ผสานรวมกับแอป Microsoft 365 ที่คุ้นเคย ทำให้ผู้ใช้เริ่มต้นใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องเรียนรู้ใหม่มากนัก ประโยชน์ของการใช้ ChatGPT - เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูล การเขียนเนื้อหา หรือการแก้ปัญหา - ลดภาระงานของบุคลากร: ในการบริการลูกค้าหรือการให้คำปรึกษา ช่วยลดภาระงานของบุคลากรที่เกี่ยวข้อง - ส่งเสริมการเรียนรู้: ช่วยนักเรียนและครูในการศึกษาและการสอน ทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น - การใช้งานที่ยืดหยุ่น: สามารถปรับใช้ในหลากหลายบริบท ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาทั่วไป การให้คำปรึกษา การสนับสนุนลูกค้า หรือการสร้างเนื้อหา ข้อดี ChatGPT - ความสามารถในการสนทนาที่เหมือนจริง: ทำให้การสนทนากับ AI รู้สึกเป็นธรรมชาติและคล่องตัว - การตอบสนองที่รวดเร็ว: สามารถตอบคำถามหรือให้คำแนะนำได้ทันที - การเรียนรู้และปรับตัว: สามารถเรียนรู้จากการสนทนาก่อนหน้าและปรับปรุงการตอบสนองในอนาคต *************************************************** จะเลือกใช้งาน Microsoft Copilot หรือ ChatGPT เครื่องมือใดดีกว่ากัน ? คำตอบคือขึ้นอยู่กับ เป้าหมาย และ รูปแบบการทำงาน เลือก Microsoft Copilot ถ้า… -ทำงานอยู่ใน ระบบนิเวศของ Microsoft 365 เช่น Word, Excel, PowerPoint, Outlook และ Teams เป็นประจำ -ต้องการ เพิ่มความเร็ว และ ลดความยุ่งยาก ในการจัดการเอกสาร งานนำเสนอ การวิเคราะห์ข้อมูล และการประชุม -ต้องการ ผู้ช่วยที่เข้าใจบริบท ของข้อมูลภายในองค์กร เช่น เอกสารใน OneDrive หรืออีเมลใน Outlook -ทำงานเป็นทีม และต้องการเครื่องมือที่ สนับสนุนการทำงานร่วมกัน อย่างเป็นระบบ เลือก ChatGPT ถ้า… -ต้องการ แชทหรือโต้ตอบในเรื่องทั่วไป อย่างยืดหยุ่น ไม่จำกัดเฉพาะงานสำนักงาน -ทำงานเกี่ยวกับ การสร้างเนื้อหา เช่น เขียนบทความ โพสต์โซเชียล หรือไอเดียการตลาด -ต้องการ ผู้ช่วยสร้างไอเดีย หรือ ขยายความคิด ในการทำงานสร้างสรรค์ เช่น แต่งเรื่อง แต่งเพลง หรือคิดคำโฆษณา -ต้องการ ใช้งานข้ามแพลตฟอร์ม ผ่านมือถือ เว็บไซต์ หรือระบบ API ต่างๆ สามารถใช้งานร่วมกันได้ไหม? ได้! ผู้ใช้จำนวนมากเลือกที่จะ ใช้ทั้งสองเครื่องมือควบคู่กัน เช่น ใช้ ChatGPT เพื่อระดมไอเดียหรือวางโครงสร้างเนื้อหาเบื้องต้น จากนั้นค่อยนำไอเดียนั้นไป แต่งเสริม ตกแต่ง หรือวิเคราะห์เพิ่มเติมด้วย Microsoft Copilot ภายใน Word, Excel หรือ PowerPoint การผสมผสานนี้จะช่วยให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากทั้งสองแพลตฟอร์มทั้ง ความยืดหยุ่น จาก ChatGPT และ ความลึกและแม่นยำในบริบทองค์กร จาก Microsoft Copilot ********สรุป************* แม้ว่า Microsoft Copilot และ ChatGPT จะมีรากฐานเทคโนโลยี AI เดียวกัน แต่ทั้งสองก็ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน Microsoft Copilot: เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน Microsoft 365 โดยการใช้ AI เพื่อช่วยในงานประจำวัน เช่น การเขียน การวิเคราะห์ข้อมูล และการจัดการตารางเวลา ChatGPT: เน้นการสนทนาและการให้ข้อมูลในหลากหลายบริบท สามารถนำไปใช้ในแชทบอท การบริการลูกค้า หรือการสร้างเนื้อหาในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งสองเครื่องมือนี้มีความสามารถที่แตกต่างกัน แต่ใช้เทคโนโลยี AI ที่คล้ายกันในการประมวลผลภาษาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการสื่อสารอีกด้วย

คำสำคัญ :
กลุ่มบทความ :
หมวดหมู่ :
แชร์ :
https://erp.mju.ac.th/acticleDetail.aspx?qid=1618
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)
ไม่มีข้อมูลตามเงื่อนไขที่ท่านกำหนด
รายการบทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้หมวดหมู่ : กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
การใช้ AI ในการพัฒนางานวิจัย » การใช้ AI ในการพัฒนางานวิจัย
การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ในกระบวนการวิจัยมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำของงานวิจัยในหลากหลายสาขา AI สามารถช่วยสนับสนุนการเก็บ วิเคราะห์ และประมวลผลข...
ปัญญาประดิษฐ์     กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร   กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
ผู้เขียน ศิรินภา อ้ายเสาร์  วันที่เขียน 11/8/2568 14:41:55  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 25/9/2568 21:15:07   เปิดอ่าน 681  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง
การพัฒนาระบบสารสนเทศ » Generative Ai และ Promt สำหรับการสรุปบทความวิจัย
การสรุปบทความวิจัยโดยใช้ Generative AI ต้องอาศัยแนวทางการทำงานที่เป็นระบบและการออกแบบ Prompt ที่ชัดเจนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ ด้านล่างนี้คือแนวทางการทำงานและตัวอย่างการออกแบบ Prompt สำหรับการ...
Generative AI  Promt  การสรุป  บทความวิจัย     กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร   กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
ผู้เขียน สมนึก สินธุปวน  วันที่เขียน 8/8/2568 22:21:28  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 25/9/2568 18:01:25   เปิดอ่าน 283  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง