|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
งานสารบรรณ
»
เข้าร่วมโครงการสัมมนาระบบศูนย์ข้อมูลกลางและระบบการตัดสินใจ
|
โครงการสัมมนาระบบศูนย์กลางข้อมูลมหาวิทยาลัยแม่โจ้และระบบการตัดสินใจ (Data Center of MJU & Dashboard Decision System : DC) ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับประเด็นยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัย ในเรื่องการบริหารจัดการสู่องค์กรที่มีสมรรถนะสูง (High Performance Organization) และพัฒนาระบบสารสนเทศในรูปแบบ Data Center รองรับ Big Data ที่นำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการตัดสินใจของผู้บริหาร ให้มหาวิทยาลัยมีฐานข้อมูลกลาง (Data center) และระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการและการตัดสินใจที่เป็นเลิศ (AI Dashboard) โดยนำข้อมูลสำคัญมาจัดรูปแบบให้เป็น “ข้อมูลดิจิทัลแบบเรียลไทม์” ในวันพุธที่ 2 กันยายน 2563 เวลา 09.30 – 12.00 น. ณ ห้องประชุมข้าวหอมมะลิ อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพ-รัตนราชสุดาฯ มหาวิทยาลัยแม่โจ้
การพัฒนาระบบ Data Center & Dashboard จำนวน 3 ระบบ ดังนี้
1. MJU Dashboard
ใช้แสดงข้อมูลเชิงสถิติ กราฟข้อมูล ตารางข้อมูล การแสดงสถิติในรูปแบบภาพรวมหน่วยงาน/มหาวิทยาลัย แสดงสถิติข้อมูลแยกตามประเภทข้อมูล ข้อมูลด้านบุคลากร ข้อมูลด้านนักศึกษา ข้อมูลด้านการเงิน ข้อมูลด้านผลงานทางวิชาการและด้านงานวิจัย และด้านอื่น ๆ โดยข้อมูลต่าง ๆ ที่นำมาแสดงในระบบจะเป็นการแสดงผลข้อมูลแบบ Real time และเป็นการประมวลผลแบบกระจาย (Distribution)
2. MJU API
ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อใช้เป็นช่องทางในการเชื่อมต่อข้อมูลต่าง ๆ ในระบบฐานข้อมูลภายในมหาวิทยาลัย เพื่อทำให้มีมาตรฐานการใช้ข้อมูล และเพื่อให้เกิดมาตรฐานการทำงานร่วมกันระหว่างนักพัฒนาซอฟต์แวร์
3. MJU Passport
ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อปรับปรุงระบบตรวจสอบสิทธิการเข้าใช้งานระบบต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยให้ดีขึ้น สามารถจัดเก็บสถิติการเข้าใช้งานระบบต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย และอื่น ๆ
|
คำสำคัญ :
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานบริหารงานทั่วไป
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
1252
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
มาลัย เบญจวรรณ์
วันที่เขียน
5/10/2563 16:00:41
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
31/5/2566 5:23:06
|
|
|
|
การเขียนหนังสือราชการ
»
การเขียนหนังสือราชการ
|
การเขียนหนังสือ คือ การเรียบเรียงข้อความตามเรื่องที่จะแจ้งความประสงค์ไปยังผู้รับหรือผู้ที่ต้องทราบหนังสือนั้น หลักการเขียนหนังสือ ผู้เขียนจะต้องรู้และเข้าใจ แยกประเด็นที่เป็นเหตุผลและความมุ่งหมายที่จะทำหนังสือนั้น ๆ โดยตั้งหัวข้อเกี่ยวกับเรื่องที่จะเขียนว่าอะไร เมื่อไร ที่ไหน ใคร ทำไม อย่างไร แยกเป็นข้อ ๆ ไว้ การเขียนให้ “ขึ้นต้นเริ่มใจความที่เป็นเหตุก่อน ต่อไปจึงเป็นข้อความประสงค์และข้อตกลง” ถ้ามีหลายข้อ ให้แยกเป็นข้อ ๆ เพื่อให้ชัดเจนและเข้าใจง่าย หากอ้างถึงกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง หรือเรื่องที่เป็นตัวอย่าง ต้องพยายามระบุให้ชัดเจน การเขียนหนังสือควรใช้ถ้อยคำที่กระชับเข้าใจง่าย ใช้คำธรรมดาที่ให้ความหมายชัดเจน ไม่ควรใช้สำนวนที่ไม่เหมาะสม ระมัดระวังในเรื่องอักขรวิธี ตัวสะกด ตัวการันต์ และวรรคตอนให้ถูกต้อง และที่สำคัญจะต้องระลึกเสมอว่าผู้รับหนังสือจะเข้าใจถูกต้องตามความประสงค์ที่มีหนังสือไป การเขียนหนังสือราชการต้องมีเป้าหมายในการเขียนที่ชัดเจน ถูกต้องตามรูปแบบ เนื้อหากระชับ รัดกุม และมีมาตรฐานในการใช้ภาษา รวมทั้งมีความเป็นระเบียบสวยงาม ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของหน่วยงานนั้น ๆ ด้วย
|
คำสำคัญ :
การเขียนหนังสือราชการ
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานบริหารงานทั่วไป
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
9645
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
สรัญญา อาษาไชย
วันที่เขียน
10/10/2561 16:52:17
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
30/5/2566 9:14:07
|
|
|
|
|
|
|
การจัดทำสำนักงานสีเขียว
»
แนวทางการพัฒนาสำนักงานสู่สำนักงานสีเขียว (Green Office)
|
จากยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ที่มุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัย GO Eco U. หลายหน่วยงานได้ขับเคลื่อนโดยดำเนินโครงการสำนักงานสีเขียว (Green Office) และได้รับรางวัลระดับประเทศ เช่น คณะเศรษฐศาสตร์ สำนักหอสมุด และสำนักงานอธิการบดี ได้รับรางวัล Green Office ระดับ ดีเยี่ยม (G ทอง) เป็นต้น และปัจจุบันมีหลายหน่วยงานเริ่มหรืออยู่ระหว่างจัดทำโครงการสำนักงานสีเขียว เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ดังกล่าว ซึ่งมีหลักการคือ
โครงการสำนักงานสีเขียว Green Office เป็นการส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในสำนักงาน เพื่อลดการใช้พลังงาน ดำเนินกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ลดปริมาณขยะโดยการลดการใช้ การใช้ซ้ำ การนำกลับมาใช้ใหม่ การลดและเลิกใช้สารเคมีอันตราย รวมทั้งการจัดซื้อ จัดจ้าง สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
หลักการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมภายในสำนักงานอย่างเป็นระบบ ประกอบด้วยเกณฑ์ทั้งหมด 7 หมวด คือ
หมวด 1 การบริหารจัดการองค์การ (Organization Management)
หมวด 2 การดำเนินงาน Green Office (Operation of Green Office)
หมวด 3 การใช้พลังงานและทรัพยากร (Energy and Resource)
หมวด 4 การจัดการของเสีย (Waste and Waste water Management)
หมวด 5 สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกสำนักงาน (Indoor & Outdoor Environmental)
หมวด 6 การจัดซื้อและจัดจ้าง (Green Procurement)
หมวด 7 การประเมินประสิทธิภาพและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Continual Improvement)
|
คำสำคัญ :
Green Office แนวทางพัฒนา สำนักงานสีเขียว
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานบริหารงานทั่วไป
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
6327
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
จงรักษ์ บัวลอย
วันที่เขียน
6/6/2561 16:44:58
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
29/5/2566 23:15:54
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
การจัดการความรู้คณะกรรมการกลุ่มเลขานุการคณะฯ
»
พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารงานพัสดุภาครัฐฯ
|
จากการเข้าร่วมสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง “สวัสดี พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารงานพัสดุภาครัฐฯ” จัดโดยสมาคมนักบริหารพัสดุแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 16-17 ธันวาคม 2559 ซึ่ง ณ ขณะนั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติเห็นชอบรับหลักการ ร่าง พ.ร.บ.ฯ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2559 และปัจจุบันพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วันนับแต่วันประกาศ พระราชบัญญัตินี้มีวัตถุประสงค์ให้การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุของหน่วยงานของรัฐก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตามหลักการ "คุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตรวจสอบได้" โดยจะใช้แทนบทบัญญัติที่เกี่ยวกับพัสดุ การจัดซื้อจัดจ้าง หรือการบริหารพัสดุ ในกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ ข้อบัญญัติ และข้อกำหนดใดๆ ของหน่วยงานของรัฐที่มีอยู่เดิม ซึ่งรวมถึง ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549
เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เพื่อให้การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐมีกรอบการปฏิบัติงานที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานกลางเพื่อให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งนำไปใช้เป็นหลักปฏิบัติ โดยมุ่งเน้นการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนให้มากที่สุด เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม มีการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการใช้งานเป็นสำคัญซึ่งจะก่อให้เกิดความคุ้มค่าในการใช้จ่ายเงิน มีการวางแผนการดำเนินงานและมีการประเมินผลการปฏิบัติงานซึ่งจะทําให้การจัดซื้อจัดจ้างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมทั้งเพื่อให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล มีการส่งเสริมให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐซึ่งเป็นมาตรการหนึ่งเพื่อป้องกันปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ประกอบกับมาตรการอื่น ๆ เช่น การจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะทำให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ อันจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสาธารณชนและก่อให้เกิดผลดีกับการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐให้เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป
|
คำสำคัญ :
พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารงานพัสดุภาครัฐฯ
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานบริหารงานทั่วไป
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
6023
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
จงรักษ์ บัวลอย
วันที่เขียน
16/3/2560 11:13:53
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
30/5/2566 23:53:28
|
|
|
|
การจัดการความรู้คณะกรรมการกลุ่มเลขานุการคณะฯ
»
KMQA : Secretariat Working Group
|
การจัดการความรู้ของคณะกรรมการกลุ่มเลขานุการคณะ หัวหน้าสำนักงานคณบดี หัวหน้าสำนักงานผู้อำนวยการ มีการดำเนินกิจกรรมในรูปแบบของคณะกรรมการ ซึ่งมีหน้าที่ผลักดันให้มีการจัดกิจกรรมการจัดการความรู้ของกลุ่ม
ในปี 2559 จึงมีแนวคิดการดำเนินกิจกรรมโดยการสร้างเครือข่ายพัฒนางานประกันคุณภาพการศึกษาร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่จัดการเรียนการสอนภายใน (16 หน่วยงาน) และภายนอกมหาวิทยาลัย โดยใช้กระบวนการจัดการความรู้ เพื่อค้นหาแนวปฏิบัติที่ดีในแต่ละองค์ประกอบ และบ่งชี้ความรู้ในเรื่อง การประกันคุณภาพการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2558 (KMQA : Secretariat Working Group) เพื่อค้นหาความเด่นชัดและแนวปฏิบัติที่ดี“In The Search for Being Bold & Best Practices” โดยมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนางาน พัฒนาคน และการพัฒนาองค์กร
คณะกรรมการกลุ่มฯ มีความมุ่งมั่นในการจัดการความรู้ให้ครอบคลุมกระบวนการจัดการความรู้ ตั้งแต่การบ่งชี้ความรู้ การแสวงหาและจัดระบบ การกลั่นกรองและปรับใช้ การเข้าถึงและจัดเก็บ การเผยแพร่แบ่งปันและเรียนรู้ โดยการหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรม และมีการจัดกิจกรรมและถอดองค์ความรู้ จำนวน 5 ครั้ง ประกอบด้วย
ครั้งที่ 1 การผลิตบัณฑิต (เจ้าภาพหลัก : คณะเศรษฐศาสตร์)
ครั้งที่ 2 การวิจัย (เจ้าภาพหลัก : คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบสิ่งแวดล้อม)
ครั้งที่ 3 การบริการวิชาการ และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม (เจ้าภาพหลัก : วิทยาลัยบริหารศาสตร์)
ครั้งที่ 4 การบริหารจัดการ (เจ้าภาพหลัก : คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ)
ครั้งที่ 5 สรุปกิจกรรมและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “แนวทางการจัดทำต้นทุนหลักสูตร” และ “การบันทึกข้อมูล CHE QA Online (เจ้าภาพหลัก : คณะบริหารธุรกิจ)
|
คำสำคัญ :
คณะกรรมการกลุ่มเลขานุการคณะ
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานบริหารงานทั่วไป
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
2911
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
จงรักษ์ บัวลอย
วันที่เขียน
1/9/2559 13:38:44
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
31/5/2566 1:06:30
|
|
|
งานสารบรรณ
»
หลักการเขียนหนังสือราชการที่ดี และเทคนิคการเขียนหนังสือราชการ
|
หลักการเขียนหนังสือราชการที่ดี
1. หนังสือราชการเป็นเครื่องสื่อความหมายหรือสื่อความเข้าใจ จึงต้องเขียนให้ผู้รับเข้าใจความหมาย
2. หนังสือราชการเป็นเครื่องสื่อความต้องการ จึงต้องเขียนให้บรรลุจุดประสงค์
3. หนังสือราชการเป็นตัวแทนการติดต่อ จึงต้องเขียนให้เป็นผลดี
เทคนิคการเขียนหนังสือราชการ
1. เขียนหนังสือให้ถูกต้อง การเขียนหนังสือราชการให้ถูกต้อง จะต้องคำนึงถึงการเขียนให้ถูกแบบ ถูกเนื้อหา ถูกหลักภาษ ถูกความนิยม และถูกใจผู้ลงนาม
2. เขียนหนังสือให้ชัดเจน การเขียนหนังสือราชการให้ชัดเจน จะต้องเขียนให้ชัดเจนในเนื้อหา ชัดเจนในจุดประสงค์ และชัดเจนในวรรคตอน เป็นต้น
3. เขียนหนังสือให้รัดกุม การเขียนหนังสือราชการให้รัดกุม จะต้องเขียนให้มีความเดียว และครอบคลุมเนื้อหา
4. เขียนหนังสือให้กะทัดรัด การเขียนหนังสือราชการให้กะทัดรัดต้องไม่ใช้คำฟุ่มเฟือย ไม่ใช้คำซ้ำ และไม่เขียนวกวน
|
คำสำคัญ :
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานบริหารงานทั่วไป
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
2938
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
มาลัย เบญจวรรณ์
วันที่เขียน
24/8/2559 11:07:38
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
30/5/2566 23:59:06
|
|
|
สรุปเนื้อหาและการนำไปใช้ประโยชน์จากการเข้าอบรม
»
เทคนิคการบริการด้วยใจเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในองค์กร
|
สรุปเนื้อหาและการนำไปใช้ประโยชน์ของการเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “ เทคนิคการบริการด้วยใจเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร ” ในระหว่างวันที่ 16 – 17 ธันวาคม 2558 ดังต่อไปนี้
วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2558
1. การสร้างทัศนคติบวกและ Service Mind ในการบริการด้วยใจที่ยั่งยืน
1.1 สร้างความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติของงานบริการ
1.2 การสร้างจิตสำนึกและทัศนคติทางบวกต่อตนเองและผู้มาใช้บริการ
1.3 การปรับ Mindset เพื่อสร้างหัวใจบริการสู่การพัฒนาศักยภาพของการให้บริการที่
รวดเร็วและน่าประทับใจ
1.4 วิธีเปลี่ยนกรอบความคิดเพื่อเอาชนะความเบื่อหน่ายในการให้บริการ
1.5 Workshop
2. การพัฒนาศักยภาพและค้นความแข็งแกร่งของตนเองเพื่อคุณภาพงานบริการระดับ
มืออาชีพการค้นหาจุดแข็งของตนเอง
2.1 การค้นหาจุดแข็งของตนเอง
2.2 การสร้างเสน่ห์ในการบริการ
2.3 การพัฒนาทักษะการให้บริการด้วยเทคนิค Service Value & Staff Value
2.4 Cass study Workshop
-2-
3. กลยุทธ์การพิชิตใจผู้รับบริการ เพื่อสร้างความประทับใจสู่การบริการที่เป็นเลิศด้วย
2 อุปนิสัย คือ
3.1 การสร้างนิสัยไม่เอาเปรียบผู้อื่น (Win – Win)
3.2 การมีนิสัยเข้าใจผู้อื่นก่อนที่จะให้ผู้อื่นเข้าใจเรา (Proactive Service)
4. เทคนิคการเอาชนะกับดักการบริการด้วยกลยุทธ์แนวใหม่ “ EQ+1 ”
4.1 เทคนิคและวิธีการควบคุมอารมณ์ขณะให้บริการ
4.2 Workshop & Case study
โดย อาจารย์ณัฐกานต์ อร่ามวิทย์ : นักวิชาการอิสระ และมีประสบการณ์ทำงาน
กับผู้บริหารระดับสูงทั้งภายในประเทศและต่างประเทศกว่า 10 ปี ในองค์กรชั้นนำของโลกและได้รับการจัดอันดับใน Fortune 500
วันที่ 17 ธันวาคม 2558
1. เทคนิคการใช้ Service Mind เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ด้วยสูตรสำเร็จ C–A–R-E
C = Communication / Commitment / Comfort
A = Ability / Active
R = Readiness / Respect / Response
E = Enthusiasm / Extra Touch
2. การตอบโจทย์ได้ตรงใจของผู้รับบริการและลูกค้า / Workshop
3. การพัฒนาบุคลิกภาพเพื่อการให้บริการอย่างมืออาชีพ
4. การใช้ศิลปะการสื่อสารในการบริการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ต่อหน้าและทาง
โทรศัพท์
5. Workshop & Role Play Session
|
คำสำคัญ :
เทคนิคการบริการด้วยใจเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในองค์กร
|
กลุ่มบทความ :
กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
|
หมวดหมู่ :
กลุ่มงานบริหารงานทั่วไป
|
สถิติการเข้าถึง :
เปิดอ่าน
2872
ครั้ง | แสดงความคิดเห็น
0
ครั้ง
|
ผู้เขียน
สุรพล จิโน
วันที่เขียน
18/3/2559 9:43:28
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
30/5/2566 15:53:49
|
|
|