ข้าพเจ้าได้เข้าร่วมอบรมหลักสูตร วิธีการวิจัยทางสังคมศาสตร์แบบผสม ซึ่งจัดโดยสมาคมส่งเสริมการวิจัย เมื่อวันที่ 27-28 มิถุนายน 2562 ณ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ โดย รองศาสตราจารย์ ดร. โยธิน แสวงดี เป็นวิทยากร เนื้อหาในการอบรมสรุปคร่าว ๆ ดังนี้
วิธีการวิจัยทางสังคมศาสตร์แบบผสม ส่วนใหญ่จะเริ่มจากการทำวิจัยเชิงปริมาณให้เสร็จสมบูรณ์จนพบปัจจัยที่ให้ผลต่อตัวแปรตามแล้วต้องการสืบค้นต่อด้วยการวิจัยเชิงคุณภาพ อาจใช้วิธีการสนทนากลุ่มแบบเจาะจง หรือการสัมภาษณ์เชิงลึกกับบุคคลที่มีพฤติกรรมตามประเด็นที่สนใจนั้น ๆ ทั้งนี้ในการวิจัยแบบผสมจะให้ความสำคัญกับประชากรและการชักตัวอย่าง เพราะต้องการเน้นในด้านการเป็นตัวแทนอย่างถูกต้องที่สุด และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือข้อตกลงเบื้องต้นของสถิติที่ใช้ในการพยากรณ์ หรือการอ้างอิงที่ตัวอย่างจะต้องมาจากวิธีการชักตัวอย่างโดยอาศัยความน่าจะเป็น เช่นการชักตัวอย่างแบบมีระบบ การชักตัวอย่างเชิงเดี่ยว
สำหรับการเขียนระเบียบวิธีวิจัยจะเริ่มต้นด้วยการเขียนระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณก่อนแล้วตามด้วยเชิงคุณภาพ การรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณส่วนใหญ่จะใช้แบบสอบถาม ส่วนการรวบรวมข้อมูลในเชิงคุณภาพจะใช้แบบสัมภาษณ์โดยมีการทดสอบแนวคำถามที่ใช้เช่นเดียวกับแบบสอบถาม การวิเคราะหืข้อมูลจะต้องมีการตรวจสอบความสอดคล้องของข้อมูลกับข้อสมมติเบื้องต้นของวิธีการทางสถิติ เช่น การตรวจสอบความเป็นอิสระของตัวแปร
ส่วนการเขียนผลการวิเคราะห์และอภิปรายผลจะเป็นการเปรียบเทียบทั้งผลการวิจัยที่เหมือนกันและแตกต่างกัน โดยจะเป็นการอภิปรายในเชิงปริมาณทั้งหมดก่อนให้ชัดเจนแล้วจึงแยกประเด้นที่จะเจาะต่อในเชิงคุณภาพ มาเขียนด้วยการเริ่มต้นประเด้นใหม่หรือหัวข้อใหม่ ปกติจะแยกเป็นตอนใหม่เลยเพื่อต้องการสื่อสารให้เด่น มีการเกริ่นนำว่าลำดับต่อไปจะกล่าวถึงผลการสืบค้นในเชิงคุณภาพที่ประเด็นไหน การเขียนบทสรุปให้เขียนผลในเชิงปริมาณก่อนแล้วย้ำด้วยเชิงคุณภาพ
ในกรณีออกแบบการวิจัยแบบผสมที่เริ่มจากการวิจัยเชิงคุณภาพ จะเริ่มต้นเขียนตั้งแต่คำถามวิจัยที่เป้นรูปแบบของคำถามวิจัยในเชิงคุณภาพ หลังจากนั้นทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง จะไม่มีกรอบแนวคิด ไม่มีนิยามศัพท์ ไม่มีประชากรและกลุุ่มตัวอย่าง แต่เน้นพื้นที่ ที่ใช้ในการศึกษา การสร้างแนวคำถาม การตรวจสอบสามเส้า แล้วจึงตามด้วยการวิจัยเชิงปริมาณ