ตอนที่ 1 : ข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก
รหัสอ้างอิง : 1235
ชื่อสมาชิก : พิชิต สิทธิกัน
เพศ : ชาย
อีเมล์ : pichit.bit@mju.ac.th
ประเภทสมาชิก : บุคลากรภายใน[สังกัด]
ลงทะเบียนเมื่อ : 14/12/2555 14:26:42
แก้ไขล่าสุดเมื่อ : 14/12/2555 14:26:42


ตอนที่ 2 : ประวัติการเขียนบทความของสมาชิก
การทำงานและเครื่องมือหลัก - ใช้ R Studio ร่วมกับไลบรารี Keras และ TensorFlow ในการสร้าง Convolutional Neural Network (CNN) สำหรับจำแนกภาพ เช่น การระบุวัตถุหรือจำแนกประเภทของรูปภาพ - กระบวนการหลัก ได้แก่ การโหลดชุดข้อมูลภาพเข้า R, การปรับขนาดภาพให้เหมาะสม, การออกแบบโครงข่าย CNN โดยกำหนดชั้นต่าง ๆ เช่น Convolutional Layer, Pooling Layer, Activation Function และ Fully Connected Layer - ผู้ใช้งานสามารถปรับพารามิเตอร์ เช่น จำนวนฟิลเตอร์, ขนาดฟิลเตอร์, optimizer, loss function ได้ตามความเหมาะสมกับปัญหา ซึ่งไลบรารี Keras ทำให้การสร้างโมเดลเป็นเรื่องง่าย ไม่ซับซ้อน ประโยชน์ของ Image Recognition ด้วย CNN - จำแนกประเภทภาพ: ระบบสามารถแยกประเภทวัตถุในภาพ เช่น จำแนกตัวเลขบนภาพ MNIST หรือวัตถุในภาพถ่าย - ตรวจจับวัตถุเฉพาะ: ใช้ในการตรวจจับใบหน้า, ป้ายจราจร, โรคจากภาพถ่ายทางการแพทย์ หรือแม้แต่การตรวจจับวัตถุสำหรับอุตสาหกรรม - ลดภาระงานกำกับข้อมูล: CNN สามารถดึงคุณสมบัติสำคัญในภาพโดยไม่ต้องสร้าง features เอง ลดเวลาในการเตรียมข้อมูลสำหรับการเรียนรู้ - ใช้งานร่วมกับงานอื่นได้: สามารถนำโมเดลที่ได้ไปใช้งานบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ หรือทำ Transfer Learning กับโจทย์ที่ซับซ้อนขึ้น ข้อดีสำหรับผู้เริ่มต้นใน R Studio - ง่ายต่อการติดตั้งและใช้งาน ไลบรารี Keras มี API ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานใหม่ - ตัวอย่างโค้ดมากมายที่ช่วยให้เริ่มใช้งานจริงได้โดยไม่ต้องเข้าใจโครงสร้าง Deep Learning ลึกทุกขั้นตอน - สามารถประยุกต์ใช้งานกับข้อมูลจริงในธุรกิจหรือการศึกษาวิจัยได้ทันที ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวิเคราะห์ภาพและการตรวจจับข้อมูลสำคัญในภาพ - Image Recognition ด้วย CNN ใน R Studio จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้เริ่มต้นสามารถนำ Deep Learning มาประมวลผลและจำแนกรูปภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้งานง่าย
กรอบจริยธรรมหลัก - รากฐานมาจาก Nuremberg Code เน้น “ความยินยอมโดยสมัครใจ” อย่างแท้จริงของอาสาสมัคร ไม่มีการบังคับ หลอกลวง หรือกดดัน - Declaration of Helsinki กำหนดหลักทั่วไป การชั่ง “ความเสี่ยง–ภาระ–ประโยชน์” กลุ่มเปราะบาง และบทบาทคณะกรรมการจริยธรรมวิจัย (REC/IRB) CIOMS 2016 ย้ำ “คุณค่าทางวิทยาศาสตร์และสังคม” เป็นเหตุผลเชิงจริยธรรมของงานวิจัย และถือว่างานวิจัยที่ไม่แข็งแรงทางวิทยาศาสตร์เป็น “ไม่จริยธรรม” บทบาท IRB และระดับการทบทวน - IRB คือคณะอิสระหลายสาขาวิชา ทำหน้าที่คุ้มครองสิทธิ ความปลอดภัย และสวัสดิภาพของอาสาสมัคร โดยทบทวนโครงการ วิธีขอความยินยอม และติดตามต่อเนื่อง - ระดับการทบทวน: ยกเว้น (exemption) สำหรับกิจกรรมความเสี่ยงแทบไม่มี, แบบเร่งด่วน (expedited) สำหรับ “ความเสี่ยงไม่เกินน้อยที่สุด”, และประชุมเต็มชุด (full board) เมื่อความเสี่ยงเกินน้อยที่สุด - มติที่เป็นไปได้: รับรอง, ให้แก้ไขก่อนรับรอง, ให้แก้ไขแล้วเสนอใหม่, ไม่รับรอง และกำกับติดตามอย่างน้อยปีละครั้งตามระดับความเสี่ยง การขอความยินยอม (Informed Consent) - เป้าหมาย: ให้ผู้เข้าร่วมตัดสินใจโดยสมัครใจหลังได้รับข้อมูลครบ เข้าใจเพียงพอ และไม่มีการกดดัน รวมถึงมีสิทธิถอนตัวได้. - องค์ประกอบหลัก 3 ประการ: Information, Comprehension, Voluntariness พร้อมกระบวนการที่สงบเป็นส่วนตัว มีเวลาไตร่ตรอง ตอบคำถามครบ และผู้ขอความยินยอมต้องผ่านการรับรองจาก IRB การประเมิน “ความเสี่ยง–ประโยชน์” - ความเสี่ยงครอบคลุมมิติทางกาย จิตใจ สังคม และเศรษฐกิจ โดย “ความเสี่ยงไม่เกินน้อยที่สุด” เทียบกับกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือการตรวจตามปกติ - เกณฑ์การอนุมัติ: ลดความเสี่ยงให้ต่ำที่สุด และความเสี่ยงต้องสมเหตุสมผลกับประโยชน์ ควรทบทวนอัตราส่วนเสี่ยง–ประโยชน์เป็นระยะระหว่างดำเนินวิจัย - การเพิ่มประโยชน์: แจ้งผลรวมให้ผู้เข้าร่วม/ชุมชน พิจารณาการเข้าถึงหลังสิ้นสุดการทดลอง และการแบ่งปันข้อมูล/ชีวตัวอย่างโดยมีมาตรการคุ้มครอง งานวิจัย “ใช้ข้อมูลย้อนหลัง/เวชระเบียน” - ความเสี่ยงหลักคือการรั่วไหลความลับ ส่งผลทางจิตใจ สังคม กฎหมาย จึงต้องออกแบบเก็บ–ใช้เท่าที่จำเป็น จำกัดการเข้าถึง และใช้ anonymization/pseudonymization - หากไม่มีอ้างอิงตัวบุคคลและความเสี่ยงต่ำ อาจเข้าเกณฑ์พิจารณาแบบเร่งด่วนหรือยกเว้นตามดุลพินิจ IRB วิจัยพันธุกรรมในมนุษย์ - ประเด็นสำคัญ: ความเป็นส่วนตัวที่เกี่ยวโยงถึงครอบครัว การตีความผลที่มีผลต่อญาติ การเลือกใช้ “broad vs. specific consent” และการคืนผล/ผลบังเอิญ - ผลดี/ผลเสียที่อาจเกิด: โอกาสวางแผนชีวิตและลดความไม่แน่นอน เทียบกับความเสี่ยงการตีตรา–เลือกปฏิบัติ และผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว ต้องชั่งน้ำหนักอย่างรอบคอบ สิ่งที่ควรทำต่อในการออกแบบโครงการ - กำหนด “ข้อมูลเท่าที่จำเป็น” แผนลดความเสี่ยง การเข้ารหัส/ลบตัวระบุ และการกำกับการเข้าถึง - วางกระบวนการขอความยินยอมที่เข้าใจง่าย มีเวลาพิจารณา และช่องทางตอบข้อสงสัย - กำหนดเกณฑ์ติดตามความปลอดภัยและทบทวนเสี่ยง–ประโยชน์เป็นวัฏจักรตามคำแนะนำ CIOMS