เทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนมระบบ CRISPR/Cas มีบทบาทสำคัญในเกษตรกรรมแม่นยำ โดยช่วยปรับปรุงพันธุ์พืชให้แม่นยำ ปลอดภัย และไม่จัดเป็น GMO การนำเทคโนโลยีไปใช้เชิงพาณิชย์ต้องคำนึงถึงทรัพย์สินทางปัญญา เช่น สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ และความลับทางการค้า พร้อมวางแผนการขอสิทธิบัตรอย่างรอบคอบ เช่น กรณีข้อพิพาทระหว่าง Broad Institute และกลุ่ม CVC นอกจากนี้ยังมีการคุ้มครองพันธุ์พืชตาม พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 และการรับรองสิ่งมีชีวิตจากเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนม (Genome Editing; GEd) ในไทย เพื่อส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารและรายได้เกษตรกร
เทคโนโลยีในยุคเกษตรแม่นยำจากนวัตกรรมสู่ทรัพย์สินทางปัญญา การประยุกต์ใช้ในเทคโนโลยีเกษตรกรรมแม่นยำและการขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ ซึ่งครอบคลุมประเภทของ IP เช่น ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า และความลับทางการค้า พร้อมอธิบายขั้นตอนการขอรับสิทธิบัตรตามกฎหมายไทย รวมถึงเงื่อนไขที่ต้องมี เช่น ความใหม่ ขั้นการประดิษฐ์สูงขึ้น และการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรม โดยมีกรณีศึกษาเทคโนโลยี CRISPR ซึ่งเป็นนวัตกรรมการปรับแต่งจีโนมที่มีข้อพิพาทด้านสิทธิบัตรระหว่าง Broad Institute และกลุ่ม CVC (University of California, University of Vienna, Emmanuelle Charpentier) ที่สะท้อนถึงความสำคัญของการวางแผนการขอสิทธิบัตรอย่างรอบคอบในงานวิจัยขั้นสูง ทั้งในด้านการเปิดเผยผลงาน การออกใบอนุญาต และการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ในอุตสาหกรรมสุขภาพและเกษตรกรรม. การพัฒนาพันธุ์พืชด้วย Genome editing : มุมมองจากนักวิจัยและผู้ใช้เทคโนโลยี การใช้เทคโนโลยี Genome Editing โดยเฉพาะระบบ CRISPR/Cas ในการปรับปรุงพันธุ์พืชอย่างแม่นยำและปลอดภัย โดยไม่เหลือ DNA แปลกปลอม จึงไม่จัดเป็น GMO ซึ่งช่วยเพิ่มผลผลิต ทนโรค ทนแล้ง และเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ เช่น GABA และไลโคปีน มีการวิจัยร่วมในประเทศไทยระหว่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และ Biotech-DOA ครอบคลุมพืชหลายชนิด อย่างไรก็ตาม การนำเทคโนโลยีไปใช้เชิงพาณิชย์ต้องคำนึงถึงสิทธิบัตรของระบบและเวกเตอร์ที่ใช้ โดยนักวิจัยควรมีความเข้าใจด้านทรัพย์สินทางปัญญาและทำงานร่วมกับฝ่ายกฎหมายตั้งแต่ต้นโครงการเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมาย. การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในพันธุ์พืช: สิทธิของนักปรับปรุงพันธุ์พืช ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในพันธุ์พืชตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 ซึ่งมุ่งส่งเสริมการปรับปรุงพันธุ์พืชใหม่และการอนุรักษ์พันธุ์พืชพื้นเมือง โดยนักปรับปรุงพันธุ์พืชสามารถยื่นขอจดทะเบียนพันธุ์พืชใหม่ได้ หากพันธุ์นั้นมีคุณสมบัติเด่นชัด สมํ่าเสมอ คงตัว และใหม่ รวมถึงต้องผ่านการตรวจสอบ DUS (หลักเกณฑ์สำคัญในการพิจารณาว่าพันธุ์พืชใหม่สามารถขอจดทะเบียนเพื่อรับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 ได้หรือไม่ โดย DUS ย่อมาจาก: Distinctness (D): พันธุ์พืชต้องมีลักษณะเด่นชัด แตกต่างจากพันธุ์อื่นในชนิดเดียวกัน Uniformity (U): ลักษณะของพันธุ์ต้องมีความสม่ำเสมอในกลุ่มพืชที่ปลูก และ Stability (S): ลักษณะของพันธุ์ต้องคงตัว ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อปลูกซ้ำหลายรุ่น) และการประเมินผลกระทบหากเกี่ยวข้องกับการตัดต่อพันธุกรรม ผู้ทรงสิทธิจะได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการผลิต ขาย ส่งออก และนำเข้า ส่วนขยายพันธุ์ของพันธุ์พืชใหม่ พร้อมข้อยกเว้นบางกรณี เช่น การใช้เพื่อการศึกษา โดยระยะเวลาคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่แตกต่างกันตามประเภทพืช และมีขั้นตอนการจดทะเบียนที่ชัดเจน รวมถึงค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง การรับรองพืชที่พัฒนามาจากเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนม การรับรองสิ่งมีชีวิตที่พัฒนาจากเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนม (Genome Editing: GEd) ตัวอย่างพืชและสัตว์ที่ได้รับการอนุมัติให้จำหน่ายในหลายประเทศ เช่น ข้าวโพดแป้งสูง ผักกาดหอมไม่เปลี่ยนสี มะเขือเทศ GABA มันฝรั่งไม่ดำ แอปเปิลไม่ดำ ปลาโตเร็ว และโคขนสั้นทนร้อน ซึ่งล้วนพัฒนาด้วยเทคโนโลยี CRISPR หรือ TALENs โดยไม่ใส่สารพันธุกรรมจากสิ่งมีชีวิตต่างชนิด (non-transgenic) ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ออกประกาศรับรองสิ่งมีชีวิตจาก GEd เพื่อใช้ในภาคการเกษตร โดยกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับรองอย่างชัดเจนผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมวิชาการเกษตร กรมประมง และกรมปศุสัตว์ พร้อมทั้งเน้นการพิจารณาแบบรายกรณี (case-by-case) โดยอิงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารและรายได้เกษตรกรในยุควิกฤตโลกร้อนและโรคพืชอุบัติใหม่ ที่มา: เอกสารประกอบการสัมมนาทางวิชาการออนไลน์ เรื่อง ทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปรับแต่งจีโนม วันที่ 18 สิงหาคม 2568