รหัสอ้างอิง :
1235
|
|
ชื่อสมาชิก :
พิชิต สิทธิกัน
|
เพศ :
ชาย
|
อีเมล์ :
pichit.bit@mju.ac.th
|
ประเภทสมาชิก :
บุคลากรภายใน [สังกัด]
|
ลงทะเบียนเมื่อ :
14/12/2555 14:26:42
|
แก้ไขล่าสุดเมื่อ :
14/12/2555 14:26:42
|
|
รายการบทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งหมดของ Blog : การคุ้มครองอาสาสมัครวิจัย (HSP)
กรอบจริยธรรมหลัก
- รากฐานมาจาก Nuremberg Code เน้น “ความยินยอมโดยสมัครใจ” อย่างแท้จริงของอาสาสมัคร ไม่มีการบังคับ หลอกลวง หรือกดดัน
- Declaration of Helsinki กำหนดหลักทั่วไป การชั่ง “ความเสี่ยง–ภาระ–ประโยชน์” กลุ่มเปราะบาง และบทบาทคณะกรรมการจริยธรรมวิจัย (REC/IRB)
CIOMS 2016 ย้ำ “คุณค่าทางวิทยาศาสตร์และสังคม” เป็นเหตุผลเชิงจริยธรรมของงานวิจัย และถือว่างานวิจัยที่ไม่แข็งแรงทางวิทยาศาสตร์เป็น “ไม่จริยธรรม”
บทบาท IRB และระดับการทบทวน
- IRB คือคณะอิสระหลายสาขาวิชา ทำหน้าที่คุ้มครองสิทธิ ความปลอดภัย และสวัสดิภาพของอาสาสมัคร โดยทบทวนโครงการ วิธีขอความยินยอม และติดตามต่อเนื่อง
- ระดับการทบทวน: ยกเว้น (exemption) สำหรับกิจกรรมความเสี่ยงแทบไม่มี, แบบเร่งด่วน (expedited) สำหรับ “ความเสี่ยงไม่เกินน้อยที่สุด”, และประชุมเต็มชุด (full board) เมื่อความเสี่ยงเกินน้อยที่สุด
- มติที่เป็นไปได้: รับรอง, ให้แก้ไขก่อนรับรอง, ให้แก้ไขแล้วเสนอใหม่, ไม่รับรอง และกำกับติดตามอย่างน้อยปีละครั้งตามระดับความเสี่ยง
การขอความยินยอม (Informed Consent)
- เป้าหมาย: ให้ผู้เข้าร่วมตัดสินใจโดยสมัครใจหลังได้รับข้อมูลครบ เข้าใจเพียงพอ และไม่มีการกดดัน รวมถึงมีสิทธิถอนตัวได้.
- องค์ประกอบหลัก 3 ประการ: Information, Comprehension, Voluntariness พร้อมกระบวนการที่สงบเป็นส่วนตัว มีเวลาไตร่ตรอง ตอบคำถามครบ และผู้ขอความยินยอมต้องผ่านการรับรองจาก IRB
การประเมิน “ความเสี่ยง–ประโยชน์”
- ความเสี่ยงครอบคลุมมิติทางกาย จิตใจ สังคม และเศรษฐกิจ โดย “ความเสี่ยงไม่เกินน้อยที่สุด” เทียบกับกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือการตรวจตามปกติ
- เกณฑ์การอนุมัติ: ลดความเสี่ยงให้ต่ำที่สุด และความเสี่ยงต้องสมเหตุสมผลกับประโยชน์ ควรทบทวนอัตราส่วนเสี่ยง–ประโยชน์เป็นระยะระหว่างดำเนินวิจัย
- การเพิ่มประโยชน์: แจ้งผลรวมให้ผู้เข้าร่วม/ชุมชน พิจารณาการเข้าถึงหลังสิ้นสุดการทดลอง และการแบ่งปันข้อมูล/ชีวตัวอย่างโดยมีมาตรการคุ้มครอง
งานวิจัย “ใช้ข้อมูลย้อนหลัง/เวชระเบียน”
- ความเสี่ยงหลักคือการรั่วไหลความลับ ส่งผลทางจิตใจ สังคม กฎหมาย จึงต้องออกแบบเก็บ–ใช้เท่าที่จำเป็น จำกัดการเข้าถึง และใช้ anonymization/pseudonymization
- หากไม่มีอ้างอิงตัวบุคคลและความเสี่ยงต่ำ อาจเข้าเกณฑ์พิจารณาแบบเร่งด่วนหรือยกเว้นตามดุลพินิจ IRB
วิจัยพันธุกรรมในมนุษย์
- ประเด็นสำคัญ: ความเป็นส่วนตัวที่เกี่ยวโยงถึงครอบครัว การตีความผลที่มีผลต่อญาติ การเลือกใช้ “broad vs. specific consent” และการคืนผล/ผลบังเอิญ
- ผลดี/ผลเสียที่อาจเกิด: โอกาสวางแผนชีวิตและลดความไม่แน่นอน เทียบกับความเสี่ยงการตีตรา–เลือกปฏิบัติ และผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว ต้องชั่งน้ำหนักอย่างรอบคอบ
สิ่งที่ควรทำต่อในการออกแบบโครงการ
- กำหนด “ข้อมูลเท่าที่จำเป็น” แผนลดความเสี่ยง การเข้ารหัส/ลบตัวระบุ และการกำกับการเข้าถึง
- วางกระบวนการขอความยินยอมที่เข้าใจง่าย มีเวลาพิจารณา และช่องทางตอบข้อสงสัย
- กำหนดเกณฑ์ติดตามความปลอดภัยและทบทวนเสี่ยง–ประโยชน์เป็นวัฏจักรตามคำแนะนำ CIOMS
URL สำหรับอ้างอิงถึงหน้านี้