สรุปเนื้่อหาและการนำไปใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ประจำปี 2561
วันที่เขียน 14/1/2562 15:18:05     แก้ไขล่าสุดเมื่อ 21/11/2567 21:16:31
เปิดอ่าน: 3111 ครั้ง

ได้เข้าร่วมประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ประจำปี 2561 ได้รับความรู้จากการร่วมรับฟังการเสวนา เรื่อง ดิจิทอลพลิกโลกเกษตร ยังได้รับฟังการนำเสนอผลงานวิจัยในหัวข้อต่าง ๆ ได้แก่ เรื่อง สมาร์ทฟาร์มเห็ดแม่โจ้ เรื่อง การจัดการองค์ความรู้ในสวนสมุนไพรโดยการประยุกต์ใช้คิวอาร์โค้ด เรื่อง องค์ประกอบฟีนอลิกและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของใบดาหลาเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในเครื่องสำอาง เรื่อง ผลิตภัณฑ์วุ้นมะพร้าวในน้ำกระเจี๊ยบแดงและการเก็บรักษา นอกจากนี้ ยังได้รับฟังการบรรยายในสาขาสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ เรื่อง ทักษะศตวรรษที่ 21 สำหรับนิสิตนักศึกษาระดับปริญญาบัณฑิตสาขาวิชาสื่อสารการแสดงในสถาบันอุดมศึกษาที่เน้นการวิจัยขั้นสูง และยังได้ความรู้จากผลงานวิจัยภาคโปสเตอร์ ได้แก่ เรื่อง ผลกระทบของการใช้ถ่านชีวภาพร่วมกับการจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้งในดินปลูกข้าวต่อการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสมบัติบางประการของดินเมื่อเปรียบเทียบกับการจัดการน้ำแบบขังน้ำ เรื่อง การคัดเลือกแบคทีเรียที่มีความสามารถในการย่อยสลายเซลลูโลสจากดินป่า และเรื่อง การศึกษาปริมาณสารประกอบฟีนอลิกในงาขี้ม้อนที่เพาะเลี้ยงร่วมกับ Pseudomonas aeruginosa ซึ่งทำให้ได้รับความรู้ที่จะสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาเกี่ยวกับงานวิจัยและงานสอนได้ต่อไป

รายงานสรุปเนื้อหาและการนำไปใช้ประโยชน์จากการเข้าอบรม  สัมมนา หรือประชุมวิชาการ

          ได้เข้าร่วมประชุมวิชาการมหาวิทยาลัยแม่โจ้  ประจำปี 2561  ระหว่างวันที่   11-12 ธันวาคม 2561  ณ  อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา  มหาวิทยาลัยแม่โจ้  จังหวัดเชียงใหม่  ได้รับความรู้จากการร่วมรับฟังการเสวนา เรื่อง ดิจิทอลพลิกโลกเกษตร  โดยพันเอก  รองศาสตราจารย์ ดร. เศรษฐพงศ์  มะลิสุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญ และที่ปรึกษาด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ซึ่งวิทยากรกล่าวถึง  การทำการเกษตรยุคดิจิทอล ซึ่งเป็นการทำการเกษตรสมัยใหม่ หรือเรียกว่า เกษตรอัจฉริยะ (smart farm หรือ intelligent farm) โดยการนำเทคโนโลยี  เครื่องจักร หุ่นยนต์ และอื่น ๆ ที่มีความแม่นยำสูงเข้ามาปรับปรุงและประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการเกษตร  ซึ่งเป็นการพัฒนาให้ไทยก้าวไปสู่ประเทศดิจิทอลตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และวิทยากรยังกล่าวถึงยุคเทคโนโลยีแห่งอนาคตเป็นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence, AI) ซึ่งจะเข้ามาช่วยการให้เกิดการเรียนรู้และสนับสนุนกิจกรรมที่มนุษย์ต้องการให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น  และจะเป็นยุคที่มีการนำเทคโนโลยีทางด้านจีโนมิกส์มาเกี่ยวข้องกับการเกษตรและอาหาร  นอกจากนี้ วิทยากรยังกล่าวว่า หลักสูตรทางด้านการศึกษาที่เปิดสอนนักศึกษาควรเป็นหลักสูตรที่ตอบสนองต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย

          นอกจากนี้  ยังได้รับฟังการนำเสนอผลงานวิจัยภาคบรรยายในหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้

  • เรื่อง สมาร์ทฟาร์มเห็ดแม่โจ้ โดยอาจารย์สุภักตร์  ปัญญา ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้คือ สมาร์ฟาร์ม

เห็ดแม่โจ้นำเทคโนโลยีระบบควบคุมและแจ้งเตือนอัจฉริยะ  ผ่านระบบอินเทอเนตโดยอัตโนมัติส่งไปยังสมาร์ทโฟนเพื่อให้ทราบถึงสถานะปัจจัยสิ่งแวดล้อมภายในโรงผลิตเห็ดโดยติดตั้งเซนเซอร์วัดความชื้น  และควบคุมระบบการเปิดปิดน้ำ นอกจากนี้ ยังมีระบบจัดเก็บบันทึกข้อมูลความชื้นและอุณหภูมิตลอดระยะเวลาการผลิตเห็ด  ผลการวิจัย พบว่า ระบบสมาร์ทฟาร์มเห็ดแม่โจ้ที่สร้างขึ้น  สำหรับใช้ในการผลิตเห็ดหลินจือสามารถนำมาใช้ได้ผลดี  และมีระดับความพึงพอใจอยูในระดับมาก 

  • เรื่อง การจัดการองค์ความรู้ในสวนสมุนไพรโดยการประยุกต์ใช้คิวอาร์โค้ดโดย สมชาย

อารยพิทยา  ซึ่งพบว่า การจัดการองค์ความรู้ในสวนสมุนไพรโดยประยุกต์ใช้คิวอาร์โค้ด  สามารถสืบค้นข้อมูลต่าง ๆ ของพันธุ์ไม้  สมุนไพรในสวนสมุนไพรเฉลิมพระเกียรติจากอุปกรณ์โทรศัพทย์เคลื่อนที่ได้

  • เรื่อง องค์ประกอบฟีนอลิกและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของใบดาหลาเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบใน

เครื่องสำอางโดย ณัฐวุฒิ  หวังสมนึก  พบว่า ใบดาหลามีปริมาณสารกลุ่มฟีนอลิกทั้งหมดเท่ากับ 246.52 มิลลิกรัมของกรดแกลลิกต่อกรัมของสารสกัด โดยมี isoquercitin, catechin และ gallic acid เป็นชนิดเด่น  ส่วนฤทธิ์ทางชีวภาพ พบว่า สารสกัดใบดาหลามีประสิทธิภาพขจัดอนุมูลเอบีทีเอสและดีพีพีเอชได้  ซึ่งแสดงให้เห็นว่าใบดาหลาเป็นแหล่งสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางบำรุงผิว

  • เรื่อง ผลิตภัณฑ์วุ้นมะพร้าวในน้ำกระเจี๊ยบแดงและการเก็บรักษา โดย จารุวรรณ  มณีศรี

พบว่า สูตรที่ใช้อัตราส่วนของกระเจี๊ยบแดงแห้งต่อน้ำและความเข้มข้นของน้ำตาลที่ 1:100/13 % และ 1:150/13 % (w/v) เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคมากที่สุด  และคุณภาพในระหว่างการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส  ระยะเวลา 4 สัปดาห์  พบว่า ในช่วง 14 วันแรก มีค่าพีเอชลดลง ปริมาณของแข็งที่ละลายเพิ่มขึ้น ค่าความสว่างเพิ่มขึ้น แต่คุณภาพของผลิตภัณฑ์หลังจาก 14 วัน มีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก และคุณภาพด้านเนื้อสัมผัสของชิ้นวุ้นมะพร้าว  พบว่า ค่าความแข็งแรงและความยืดหยุ่นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่ออายุการเก็บรักษานานขึ้น  และพบว่า เมื่อเก็บรักษาเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ปริมาณจุลินทรีย์ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน  จึงสามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย

นอกจากนี้  ยังได้รับฟังการบรรยายในสาขาสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ เรื่อง ทักษะศตวรรษที่ 21 สำหรับนิสิตนักศึกษาระดับปริญญาบัณฑิตสาขาวิชาสื่อสารการแสดงในสถาบันอุดมศึกษาที่เน้นการวิจัยขั้นสูง  โดยธนสิน  ชุตินธรานนท์  พบว่า  ทักษะศตวรรษที่ 21 ที่มีความจำเป็นสูงสุด ประกอบด้วย 3 ทักษะ ได้แก่ ทักษะการสื่อสาร  คุณธรรมจริยธรรม  ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาน  ตามลำดับ  เมื่อนิสิตนักศึกษาสำเร็จการศึกษาในสาขาดังกล่าวแล้วควรเป็นบัณฑิตผู้มีคุณลักษณะ 3 ประการ ได้แก่ 1) เป็นนักการสื่อสารที่มีคุณภาพ  2) มีจรรยาบรรณและวิจารณทัศน์ และ 3)  มีความรู้ด้านการใช้ตัวเลขวิเคราะห์เชิงปริมาณในระดับพื้นฐาน

 

และยังได้ความรู้จากผลงานวิจัยภาคโปสเตอร์ ดังนี้

  • เรื่อง ผลกระทบของการใช้ถ่านชีวภาพร่วมกับการจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้งในดินปลูก

ข้าวต่อการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสมบัติบางประการของดินเมื่อเปรียบเทียบกับการจัดการน้ำแบบขังน้ำ โดยชฎาภา  ใจหมั้น  พบว่า การใช้ถ่านชีวภาพร่วมกับการจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้ง ช่วยลดปริมาณการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากดินภายใต้การปลูกข้าว และยังส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสมบัติบางประการของดิน ซึ่งสามารถใช้เป็นแนวทางในการลดการใช้น้ำในการปลูกข้าว และลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้

- เรื่อง การคัดเลือกแบคทีเรียที่มีความสามารถในการย่อยสลายเซลลูโลสจากดินป่า    โดยขวัญจรัส เชิงปัญญา พบว่า ได้แบคทีเรียที่มีกิจกรรมเอนไซม์เอนโดกลูคาเนส และเซลโลไบโอไฮโดรเลส และเบต้า-กลูโคซิเดสดีที่สุด   ซึ่งแบคทีเรียที่คัดเลือกได้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการย่อยสลายวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรต่อไป

- เรื่อง การศึกษาปริมาณสารประกอบฟีนอลิกในงาขี้ม้อนที่เพาะเลี้ยงร่วมกับ Pseudomonas aeruginosa โดยศรีกาญจนา    พบว่า   ใบงาขี้ม้อนที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อมีปริมาณสารประกอบ

ฟีนอลิกสูงกว่าใบงาขี้ม้อนจากแปลงปลูก   และยังตรวจพบปริมาณ Rosmarinic acid สูงสุดเท่ากับ 0.78 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักแห้ง   ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระบบการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชสามารถส่งเสริมการผลิตสารประกอบฟินอลิกในใบงาขี้ม้อนได้

         ซึ่งได้นำความรู้ที่ได้รับมาพัฒนาการเรียนการสอนในรายวิชาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้มีความทันสมัยมากขึ้น เช่น วิชา ชว 330 จุลชีววิทยา  ชว432  การเก็บรักษาเชื้อจุลินทรีย์  ชว 433 การจำแนกแบคทีเรีย และวิชา ทช 530 เทคโนโลยีชีวภาพทางด้านจุลินทรีย์   รวมทั้งนำมาพัฒนาในรายวิชา วท 498 การเรียนรู้อิสระ  วิทยานิพนธ์ และดุษฎีนิพนธ์  อีกด้วย

                                                                                                สมคิด  ดีจริง

                                                                                            11 มกราคม 2562

           

คำสำคัญ :
กลุ่มบทความ :
หมวดหมู่ :
แชร์ :
https://erp.mju.ac.th/acticleDetail.aspx?qid=919
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)
ไม่มีข้อมูลตามเงื่อนไขที่ท่านกำหนด
รายการบทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้หมวดหมู่ : กลุ่มงานสายวิชาการ
การเบิกค่าใช้จ่ายโครงการอย่างไร ภายใต้ระเบียบใหม่ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ » การเบิกค่าใช้จ่ายโครงการอย่างไร ภายใต้ระเบียบใหม่ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้
การบริหารจัดการงบประมาณคณะวิทยาศาสตร์ ภายใต้ระเบียบใหม่ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ประจำปีงบประมาณ 2567 ได้มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดเพื่อเอื้อต่อการทำงาน และเพื่อให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับทราบแนวปฏิ...
  กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร   กลุ่มงานสายวิชาการ
ผู้เขียน นลิน วงศ์ขัตติยะ  วันที่เขียน 28/9/2567 16:33:52  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 21/11/2567 13:36:43   เปิดอ่าน 106  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง