วิทยากร: รองศาสตราจารย์ ดร.กมล บุษบา ภาควิชาคณิตศาสตร์และสถิติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
การพัฒนาผลงานวิชาการและการเขียนบทความวิชาการเพื่อขอตำแหน่งทางวิชาการ
วิทยากรได้ให้คำแนะนำว่า การผลิตผลงานวิชาการควรคำนึงถึงการนำผลงานวิชาการนั้นไปใช้เพื่อขอตำแหน่งทางวิชาการด้วย โดยให้ศึกษาระเบียบและประกาศหลักเกณฑ์การขอตำแหน่งทางวิชาการเป็นต้นแบบ อาทิ ถ้าต้องการขอตำแหน่งทางวิชาในระดับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ควรใช้บทความวิจัยในการยืนขอตำแหน่ง ดังนั้นจึงควรเน้นสร้างผลงานวิจัยมากกว่าผลงานวิชาการอื่น ๆ ผลงานวิจัยที่ดีควรครอบคลุมองค์ประกอบที่สำคัญ ๆ ดังนี้
๑) เป็นงานศึกษาหรืองานค้นคว้าที่มีระเบียบแบบแผนถูกต้องตามหลักวิทยาการวิจัย
๒) เป็นงานวิจัยที่เป็นที่ยอมรับในสาขาวิชานั้น ๆ
๓) เป็นงานวิจัยที่วัตถุประสงค์ที่ชัดเจน
๔) เป็นงานวิจัยที่มีคำตอบหรือข้อสรุปครบถ้วนตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
๕) เป็นงานวิจัยที่แสดงถึงความก้าวหน้าทางวิชาการ หรือเอื้อต่อการนำวิชาการนั้นไปประยุกต์ใช้
อนึ่งเมื่อนำไปเผยแพร่แล้ว ควรมีลักษณะที่สำคัญ ดังนี้
๑) รายงานวิจัย ต้องมีความครบถ้วนสมบูรณ์และชัดเจนตลอดทั้งกระบวนการวิจัย อาทิ การกำหนดประเด็นปัญหา วัตถุประสงค์ การทบทวนวรรณกรรมปริทัศน์ สมมติฐาน การเก็บรวบรวมข้อมูล การพิสูจน์สมมติฐาน การวิเคราะห์ข้อมูล การประมวลสรุปผลและให้ข้อเสนอแนะ การอ้างอิง และอื่น ๆ
๒) บทความวิจัยที่ประมวลสรุปกระบวนการวิจัยในผลงานวิจัยนั้น ให้มีความกระชับและสั้นสำหรับการนำเสนอในการประชุมวิชาการหรือในวารสารทางวิชาการ
ข้อแนะนำสำคัญ: รายงานวิจัยควรระบุถึงประโยชน์ในการนำไปใช้ได้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม
การเขียนตำราทางสถิติ
วิทยากรได้ให้คำแนะนำ ดังนี้
นิยามของตำราว่า “ผลงานวิชาการที่เรียบเรียงขึ้นอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมเนื้อหาสาระของวิชาหรือเป็นส่วนหนึ่งของวิชา หรือของหลักสูตรก็ได้ สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการถ่ายทอดวิชาในระดับอุดมศึกษาในการเรียนการสอนในหลักสูตรระดับอุดมศึกษา เนื้อหาสาระของตำราต้องมีความทันสมัย เมื่อพิจารณาถึงวันที่ผู้ขอยื่นเสนอขอตำแหน่งทางวิชาการ”
รูปแบบของตำรา ควรมีองค์ประกอบที่สำคัญ ดังนี้
๑) เป็นรูปเล่มที่ประกอบด้วย คำนำ สารบัญ เนื้อเรื่อง การอธิบายหรือการวิเคราะห์ การสรุป การอ้างอิงและบรรณานุกรม รวมถึงดัชนีคำ
๒) อาจมีการอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่ทันสมัยและครบถ้วนสมบูรณ์
๓) การอธิบายสาระสำคัญมีความชัดเจน โดยอาจใช้ข้อมูล แผนภาพ ตัวอย่าง หรือกรณีศึกษาประกอบจนผู้อ่านสามารถทำความเข้าใจในสาระสำคัญนั้นได้โดยเบ็ดเสร็จ
ข้อแนะนำสำคัญ: ผู้เขียนสามารถนำตัวอย่างจากหนังสือต่างประเทศ หนังสือภาษาไทย มาประกอบการอธิบายหรือเป็นตัวอย่างได้ แต่ต้องมีการอ้างอิงที่ถูกต้อง เช่น
๑) ถ้ามีการปรับตัวอย่างนั้นให้ดีขึ้น ควรอ้างอิงในรูปแบบ เช่น (ปรับปรุงจาก Hogg and Crag, 1978)
๒) ถ้าไม่มีการปรับปรุงใด ๆ ควรอ้างอิงในรูปแบบ เช่น (Hogg and Crag, 1978)
๓) ควรแยกการอ้างอิงเป็นบท ๆ เนื่องจากจะได้สอดคล้องกับการอ้างอิงในเนื้อหานั้น ไ
๔) คำศัพท์ที่ใช้ ควรอ้างอิงการใช้จากพจนานุกรมของราชบัณฑิตยสถาน
๕) การลำดับเนื้อหาต้องสอดคล้องกัน และต่อเนื่องกัน
การเผยแพร่ตำรา มีหลักเกณฑ์ที่สำคัญ ดังนี้
๑) เผยแพร่ด้วยวิธีการพิมพ์ โดยโรงพิมพ์ หรือ สำนักพิมพ์ หรือ โดยการถ่ายสำเนาเย็บเป็นรูปเล่ม หรือทำในรูปแบบอื่น ๆ
๒) เผยแพร่โดยสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ตัวอย่างเช่น การเผยแพร่ในรูปของซีดีรอม ฯลฯ
๓) ต้องได้รับการตรวจสอบและรับรองการเผยแพร่จากคณะกรรมการของมหาวิทยาลัย คณะ และ/หรือ สถาบันทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชานั้น
๔) ต้องใช้ในการเรียนการสอนมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งภาคการศึกษา