รายงานสรุปเนื้อหาและการนำไปใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมประชุมวิชาการประจำปี 2558 เมื่อวันที่ 8-9 ธันวาคม 2558 ณ ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมนานาชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตามหนังสือขออนุญาตเดินทางไปราชการ เลขที่ ศธ 0523.4.9.1/ 318 ลงวันที่ 25 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ดังนั้น จึงขอนำเสนอสรุปเนื้อหาและการนำไปใช้ประโยชน์ของการเข้าร่วมประชุมวิชาการ ดังต่อไปนี้
ในงานประชุมได้เข้าร่วมรับฟังการเสนอผลงานทางวิชาการ ดังนี้
เรื่อง การแสดงออกของโปรตีนตอบสนองต่ออุณหภูมิสูงขนาดเล็ก (OsHSP18) จากข้าวไทยในแบคทีเรีย Escherichia coli
ยีนโปรตีนตอบสนองต่ออุณหภูมิสูงขนาดเล็ก (small heat shock protein genes; sHsps) ของพืชมีการแสดงออกมากขึ้นที่อุณหภูมิสูง ในงานวิจัยนี้ได้โคลนยีนโปรตีนตอบสนองต่ออุณหภูมิสูงขนาด 18 กิโลดาลตัน class I (OsHsp18) จากข้าวไทย และศึกษาการแสดงออกของยีนในแบคทีเรีย E. coli พบว่า โปรตีน OsHsp18 อาจเป็นพิษต่อเซลล์แบคทีเรีย ทำให้เซลล์แบคทีเรียไม่สามารถเพิ่มจำนวนเซลล์รอดชีวิตในอุณหภูมิสูงได้
เรื่อง การวิเคราะห์การแสดงออกและลำดับเบสบางส่วนของยีน OsDFR ในข้าวขาวและข้าวสี
ในประเทศไทยมีการกระจายของข้าวพันธุ์ต่าง ๆ ที่มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีดำ แดง และขาว ซึ่งเกิดจากรงควัตถุที่พบในข้าวสี คือ แอนโทไซยานินและโปรแอนโทไซยานิดิน มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ยีน OsDFR มีรหัสสร้างเอนไซม์ dihydroflavonol 4-reductase (DFR) ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญในวิถีการสังเคราะห์แอนโทไซยานินและโปรแอนโทไซยานิดิน งานวิจัยนี้ พบว่า ในข้าวดำมีการแสดงออกของยีน OsDFR โดยพบในเมล็ดสูงกว่าในใบ ส่วนข้าวขาวอาจมีการแสดงออกของยีนแต่มีระดับต่ำ ซึ่งอาจเกิดจากการกลายพันธุ์ของยีนในข้าวขาว
เรื่อง การพัฒนาการถ่ายยีนเข้าสู่เอ็มบริโอของเมล็ดข้าวโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงร่วมกับแรงดันสูญญากาศช่วยใน Agrobacterium-mediated transformation
ในงานวิจัยนี้ได้ใช้เทคนิค sonication-assisted Agrobacterium-mediated transformation (SAAT) ร่วมกับ vacuum infiltration-assisted Agrobacterium-mediated transformation (VIAAT) ในการถ่ายยีนเข้าสู่เอ็มบริโอของเมล็ดข้าวพันธุ์ กข41 พบว่า การถ่ายยีนด้วยวิธีนี้มีประสิทธิภาพ และเป็นทางเลือกสำหรับการถ่ายยีนโดยไม่ต้องผ่านการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อพัฒนาข้าวดัดแปลงพันธุกรรมสำหรับใช้ในการศึกษาบทบาทและหน้าที่ของยีน และปรับปรุงพันธุ์ข้าวให้ดีขึ้นต่อไปได้
เรื่อง การตรวจหาสารเควอซิตินในสารสกัดสมุนไพรด้วยเทคนิค HPLC-ELSD
สารเควอซิตินอยู่ในกลุ่มฟลาโวนอยด์ มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านเนื้องอก และต้านจุลินทรีย์ ในงานวิจัยนี้ ได้ตรวจหาสารเควอซิตินจากพืชสมุนไพร 3 ชนิด ได้แก่ สมอไทย ฟักข้าว และโกฐน้ำเต้า พบว่า สารสกัดหยาบจากสมอไทยมีปริมาณสารเควอซิตินสูงที่สุด รองลงคือ โกศน้ำเต้า และไม่พบสารเควอซิตินในสารสกัดจากฟักข้าว
เรื่อง การผลิตก๊าซชีวภาพจากฟางข้าวโดยกระบวนการย่อยสลายในสภาวะไร้อากาศแบบแห้ง
การศึกษาการผลิตก๊าซชีวภาพจากฟางข้าวในสภาวะไร้อากาศแบบแห้ง พบว่า สารอินทรีย์ในฟางข้าวสามารถย่อยสลายและเปลี่ยนเป็นก๊าซมีเทนได้สูงถึงร้อยละ 50.18 การผลิตก๊าซชีวภาพจากฟางข้าวในสภาวะไร้อากาศ พบว่า ระยะการหมัก 30 วัน ได้ปริมาณก๊าซทั้งหมด 263.21 ล./กก.
ในการเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ทำให้ได้รับความรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้าของงานวิจัย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการนำมาพัฒนาการเรียนการสอน และการทำงานวิจัยต่อไป