ตามที่ข้าพเจ้าเข้าร่วมอบรมการออกแบบการเรียนการสอนตามเกณฑ์ AUN-QA เวอร์ชั่น 4.0 เรื่อง การจัดการเรียนการสอนเพื่อปลูกฝังผู้เรียน มีความคิดใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ การคิดค้นนวัตกรรม เมื่อวันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 10.00-12.00 น. ณ ห้องประชุมฯ 2 อาคารจุฬาภรณ์ฯ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นั้น
ขอรายงานสรุปเนื้อหาและประโยชน์ที่ได้รับ ดังนี้
การจัดการเรียนการสอนที่ส่งผลต่อความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนจะต้องประกอบไปด้วย แรงจูงใจในการเรียนของผู้เรียน การอบรมเลี้ยงดูจากครอบครัว บุคลิกภาพของผู้สอน สมองของผู้เรียน และสภาพแวดล้อมในการเรียนการสอน ซึ่งมีเทคนิคการจัดเรียนการสอนได้หลายรูปแบบ เช่น
- การสอนแบบบรรยาย (Lecture) เป็นวิธีสอนที่อาศัยความสามารถของผู้สอนในการเรียบเรียงเนื้อหาสาระและการใช้เทคนิคในการถ่ายทอดเนื้อหาสาระให้น่าสนใจ
- การสอนแบบสาธิต (Demonstration) เป็นวิธีการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ โดยการแสดงหรือกระทำให้ดูเป็นตัวอย่างพร้อม ๆ กับการบอก อธิบาย ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากการสังเกตกระบวนการขั้นตอนจากการสาธิตนั้น ๆ แล้วให้ผู้เรียนซักถาม อภิปราย และสรุปการเรียนรู้ที่ได้จากการสาธิต
- การสอนแบบใช้การทดลอง (Experiment) เป็นวิธีการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด โดยการให้ผู้เรียนเป็นผู้กำหนดปัญหาและสมมติฐานในการทดลองและลงมือทดลองปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดโดยใช้วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็น เก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล สรุปอภิปรายผลการทดลอง และสรุปการเรียนรู้ที่ได้รับจากการทดลอง
- การสอนแบบนิรนัยและอุปนัย (Deduction and induction) การสอนแบบ นิรนัยเป็นการสอนที่เริ่มจากฎ หรือ หลักการต่าง ๆ แล้วให้ผู้เรียนหาหลักฐานเหตุผลมาพิสูจน์ยืนยัน การสอนแบบอุปนัยเป็นการสอนจากรายละเอียดปลีกย่อยไปหากฎเกณฑ์ กล่าวคือ เป็นการสอนแบบย่อยไปหาส่วนรวมหรือสอนจากตัวอย่างไปหากฎเกณฑ์หลักการ ข้อเท็จจริง หรือข้อสรุป
- การสอนโดยการไปทัศนศึกษา (Field Trip) เป็นวิธีการสอนโดยนำผู้เรียนออกไปศึกษาเรียนรู้ ณ สถานที่ที่เป็นแหล่งความรู้ในเรื่องนั้น
- การสอนแบบกลุ่มย่อย (Small group discussion) วิธีสอนโดยใช้การอภิปรายกลุ่มย่อย คือกระบวนการที่ผู้สอนใช้ในการช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดโดยการจัดผู้เรียนเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ประมาณ 4-8 คน และให้ผู้เรียนในกลุ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็น และประสบการณ์ในประเด็นที่กำหนด และสรุปผลการอภิปรายออกมาเป็นข้อสรุปของกลุ่ม
- การสอนแบบการแสดงบทบาทสมมติ (Role playing) เป็นการสอนผ่านการแสดงออกต่าง ๆ ซึ่งเทคนิคการสอนรูปแบบนี้ นับว่าเป็นการสอนที่สนับสนุนให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและได้ลงมือปฏิบัติร่วมกันระหว่างผู้เรียน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการเรียนรู้สมัยใหม่ ที่มุ่งเน้นตัวผู้เรียนเป็นสำคัญ
- การสอนแบบการแสดงละคร (Dramatization) เป็นการเรียนรู้ที่อาศัยการสื่อสารทุกรูปแบบ ซึ่งก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยน การวิเคราะห์สังเคราะห์
- การสอนโดยใช้สถานการณ์จำลอง (Simulation) เป็นการสอนที่จำลองสถานการณ์จริงมาไว้ในชั้นเรียน โดยพยายามทำให้เหมือจริงที่สุด มีการกำหนดกติกาหรือเงื่อนไข แล้วแบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่มให้เข้าไปเล่นในสถานการณ์จำลองนั้น ๆ
- การสอนแบบทำงานรับผิดชอบร่วมกัน (Cooperative leaning) เป็นการสอนแบบจัดประสบการณ์เรียนรู้ที่ผู้เรียนทำงานร่วมกันและช่วยเหลือกันในชั้นเรียน
- การสอนแบบบูรณาการการเรียนกับการทำงาน (Work- integrated learning) เป็นการสอนแบบ ผสมกลมกลืนระหว่างประสบการณ์ทำงานทางวิชาชีพนอกห้องเรียนกับการเรียนในห้องเรียน ทั้งในรูปแบบการศึกษาวิจัย การฝึกงาน การออกสหกิจศึกษา
- การสอนโดยใช้ปรากฎการณ์เป็นฐาน (Phenomenal based learning) เป็นการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปรากฎการณ์ต่าง ๆ เป็นจุดเริ่มต้นในการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยอาศัย แนวคิดพื้นฐานที่ผู้เรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ได้เอง
- การสอนโดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem- based learning) หมายถึง การสอนที่ให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาจากโจทย์สถานการณ์ต่าง ๆ
ประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานในตำแหน่งหน้าที่ :ได้พัฒนาตนเองในด้านการเรียนการสอนให้มีประสิทฺธิภาพมากยิ่งขึ้น
ประโยชน์ต่อหน่วยงาน (ระดับงาน/หลักสูตร/คณะ) :สามารถวางแผนการจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับเป้าหมายของหลักสูตร