ในการฝึกอบรม และเรียนรู้ เรื่อง “Skill Mapping รุ่นที่ ๓” โดยวิทยากรบรรยาย ได้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร.สุรินทร์ คำฝอย
จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ณ วันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๕ ผ่านระบบ Zoom Meeting เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๑.๐๐ น. โดยสรุปเนื้อหาที่ได้จากการอบรม ดังนี้
๑. สรุปเนื้อหาที่ได้รับจากการเข้าประชุม/อบรม ฯลฯ
จากโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมายอยู่ตลอดเวลา แต่การศึกษานั้นกลับสวนทาง คือ มีการปรับเปลี่ยน หรือเปลี่ยนแปลงน้อยมากเมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน
โดยมนุษย์เราถ้าไม่มีการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกสมัยใหม่ จะส่งผลให้เราไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งการศึกษาในบ้านเราก็เช่นกัน ต้องมีการปรับเปลี่ยนตัวเอง
เพื่อให้ทันต่อความต้องการของตลาดแรงงาน /ผู้ใช้บัณฑิต เป็นต้น
ซึ่งในการเรียนรู้ในสมัยใหม่นี้ ย่อมแตกต่างจากสมัยก่อน โดยที่ต้องสร้างเนื้อหา กระบวนการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมต่อผู้เรียน เนื่องจากในยุคปัจจุบันมีข้อมูล
สารสนเทศต่าง ๆ มากมาย จึงต้องมีการนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน โดยตั้งเป้าทีความต้องการของตลาดแรงงาน/ผู้ใช้บัณฑิตเป็นหลัก
เพราะสถาบันอุดมศึกษามีหน้าที่สร้าง/ผลิตบัณฑิตเพื่อเข้าสู่ตลาดแรงงาน ดังนั้นการที่ตลาดแรงงานจะยอมรับสาถบันอุดมศึกษาได้นั้น ต้องดูที่ผลผลิตที่ตัวบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันนั้น ๆ
ว่ามีคุณภาพ และสามารถตอบโจทย์ตลาดแรงงานได้มาก น้อยเพียงใด และโจทย์ที่สำคัญที่สถาบันอุดมศึกษาจะต้องนำมาพิจารณา ก็คือ การสร้างบัณฑิตให้มีทักษะ (Skill)
ในด้านต่าง ๆ ทั้ง Hard Skill และ Soft Skill เพื่อให้บัณฑิตที่จบใหม่ได้เข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างมีคุณภาพ ซึ่งทางสถาบันอุดมศึกษา จึงต้องนำประเด็น ความต้องการใน Skill ด้านต่าง ๆ
นำมาประกอบการพิจารณาเพื่อนำมาพัฒนา/ปรังปรุงหลักสูตรฯ ให้มีความทันสมัย และตอบโจทย์ของตลาดแรงงานได้ โดยที่ในอนาคตหน้าที่ของสถาบันอุดมศึกษาต้องมีการสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่ได้มาซึ่งความรู้
สร้างทักษะจากประสบการณ์ในการแก้ปัญหาจริง มีการสร้างระบบการศึกษาที่เอื้อต่อการเรียนรู้ทั้งใน/นอกสถาบัน และเรียนรู้ตลอดเวลา/ตลอดชีวิต ได้
ดังนั้นทางสถาบันอุดมศึกษาจำเป็นต้องมีการสร้าง Half-Life of Skills ความจำเป็นที่จะต้อง Reskill และ Upskill
สรุปท้ายสุดแล้ว สถาบันอุดมศึกษาจำเป็นที่ต้องมีการสำรวจความต้องการของตลาดแรงงาน/สถานประกอบการ/ผู้ใช้บัณฑิต ว่าต้องการบัณฑิตที่มีทักษะทางด้านใดเป็นพิเศษ เพื่อนำมาพัฒนา/ปรับปรุงหลักสูตร/เนื้อหารายวิชาให้สอดคล้องกับความต้องการของทักษะในตลาดแรงงาน
๒. ประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานในตำแหน่งหน้าที่
๒.๑ ได้รับความรู้เกี่ยวกับเกณฑ์การสร้าง Skill Mapping
๒.๒ สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้จากการอบรมไปประยุกต์ใช้ในการเขียน/พัฒนาในส่วนของเนื้อหารายวิชาในหลักสูตรที่ปรับปรุงใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๓. ประโยชน์ต่อหน่วยงาน (ระดับงาน/หลักสูตร/คณะ)
๓.๑ สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้จากการอบรมมาประยุกต์ใช้ในจัดทำ Skill Mapping ในคำรายวิชาต่าง ๆ ในหลักสูตรที่ปรับปรุงใหม่
๓.๒ สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ นำมาปรับใช้ในการพัฒนารายวิชาในหลักสูตรฯ และนำมาปฏิบัติได้จริงเพื่อให้เกิดทักษะด้านต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ