รายงานสรุปเนื้อหาและการนำไปใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมการประชุมวิชาการระดับชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ประจำปี 2561
วันที่เขียน 4/1/2562 9:38:25     แก้ไขล่าสุดเมื่อ 25/9/2568 20:52:58
เปิดอ่าน: 36411 ครั้ง

รายงานสรุปเนื้อหาและการนำไปใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมการประชุมวิชาการระดับชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ประจำปี 2561 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม 2561 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยสรุปสาระสำคัญที่ได้จากการเข้าร่วมรับฟังการนำเสนอภาคบรรยาย ในหัวข้อ "Effect of solvents extraction on polyphenolic content and antioxidant activity of Rhizoclonium hieroglyphicum extract"

รายงานสรุปเนื้อหาและการนำไปใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมการประชุมวิชาการระดับชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ประจำปี 2561 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม 2561 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยสรุปสาระสำคัญที่ได้จากการเข้าร่วมรับฟังการนำเสนอภาคบรรยาย ในหัวข้อ "Effect of solvents extraction on polyphenolic content and antioxidant activity of Rhizoclonium hieroglyphicum extract"

 

สรุปเนื้อหาที่ได้

            สารมลพิษ รังสียูวี หรือแม้แต่การเผาพลาญโดยใช้ออกซิเจนของเซลล์ในร่างกายมนุษย์ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ (free radical) ขึ้น อนุมูลอิสระคืออะตอมหรือกลุ่มอะตอมที่มีอิเล็กตรอนเดี่ยว ซึ่งไม่เสียรและมีพลังงานสูง มีความว่องไวในการเกิดปฏิกิริยาสูง ก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ในร่างกาย อนุมูลอิสระเหล่านี้สามารถเข้าไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ต่างๆ รวมถึงทำลายโครงสร้างและทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของเซลล์ ทำให้เกิดความผิดปกติต่างๆ ในร่างกายได้ 

         สารประกอบฟีนอลิก (phenolic) จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ตามธรรมชาติในพืชหลากหลายชนิด โดยการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระนั้นอาจเป็นได้หลายแบบ เช่น การลดพลังงานของสารอนุมูลอิสระ การขัดขวางและการหยุดปฏิกิริยาลูกโซ่ เป็นต้น โมเลกุลของสารต้านอนุมูลอิสระจะเข้าไปทำปฏิกิริยาด้วยการให้อิเล็กตรอนกับอนุมูลอิสระแล้วทำให้ปฏิกิริยาลูกโซ่ของสารอนุมูลอิสระสิ้นสุดลง และไม่เกิดเป็นสารอนุมูลอิสระตัวใหม่ เนื่องจากโมเลกุลของสารต้านอนุมูลอิสระมีความเสถียร ไม่ว่าในโครงสร้างหลังการเกิดปฏิกิริยาจะมีอิเล็กตรอนเดี่ยวหรือคู่ ถือได้ว่าสารต้านอนุมูลอิสระเป็นตัวขจัดปฏิกิริยาลูกโช่ที่จะเข้าไปทำลายโมเลกุลสารในร่างกาย การชะลอและป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ ดังนั้นจึงมีงานวิจัยต่างๆ ให้ความสำคัญในการหาปริมาณหรือแม้กระทั่งสกัดสารประกอบฟีนอลิกในพืชหลากหลายชนิด เพื่อนำมาใช้ประโยชน์เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพและเวชสำอาง 

         ในงานวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาตัวทำละลายที่เหมาะสมในการสกัดสารฟีนอลิกที่สำคัญในสำหร่ายไก (Rhizoclonium hieroglyphicum) ซึ่งนิยมรับประทานในการเป็นอาหารพื้นบ้านในประเทศไทย มีรายงานการพบสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ในกลุ่มสารประกอบฟีนอลิกและโพลีแซคคาไรด์ ในการศึกษานี้ได้นำสาหร่ายไกที่เก็บจากแม่น้ำน่าน มาทำการสกัดด้วยตัวทำละลาย 4 ชนิด ได้แก่ เฮกเซน (แช่ 48 ชั่วโมง) อะซิโตน (แช่ 48 ชั่วโมง) เอทานอล (แช่ 48 ชั่วโมง) และน้ำ (ต้ม 2 ชั่วโมง) แล้วเปรียบเทียบปริมาณสารที่สกัดได้ (%yield) รวมถึงปริมาณสารประกอบฟีนอลิกและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดแต่ละชนิด ในการศึกษานี้พบว่าสารสกัดที่ได้จากน้ำให้ปริมาณสารที่สกัดได้และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด ในขณะที่สารสกัดในเอทานอลมีปริมาณสารฟีนอลิกสูงที่สุด 

         สรุป หลักการในการเลือกตัวทำละลายในการสกัด จะอาศัยหลักการ “like dissolves like” นั่นคือตัวทำละลายที่ใช้ในการสกัดควรต้องมีความเป็นขั้วที่คล้ายคลึงกับสารสำคัญที่ต้องการสกัด เช่น ถ้าต้องการสกัดสารสำคัญที่มีขั้ว ก็ควรใช้ตัวทำละลายที่มีขั้ว ถ้าสารสำคัญไม่มีขั้ว ก็ควรใช้ตัวทำละลายที่ไม่มีขั้วในการศึกษา ในงานวิจัยนี้ สิ่งหนึ่งที่ควรจะเพิ่มเติม คือ การควบคุมสภาวะของการสกัดระหว่างตัวทำละลาย เช่น อุณหภูมิของการสกัด ระยะเวลาของการสกัด เป็นต้น สารสกัดสาหร่ายไกในตัวทำละลายอินทรีย์ ได้แก่ เฮกเซน อะซิโตน และเอทานอล ได้จากการสกัดด้วยการแช่ที่อุณหภูมิห้อง เป็นเวลา 48 ชั่วโมง ในขณะที่ในตัวทำละลายน้ำ ได้จากการสกัดด้วยการต้ม ที่อุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งทำให้ผลการทดลองที่ได้ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้โดยสมบูรณ์

 

ประโยชน์ที่ได้รับต่อตนเองและต่อหน่วยงาน

1. ก่อให้เกิดแนวคิดโจทย์วิจัย และนำมาปรับปรุงวิจัยที่ทำอยู่

2. นำไปใช้ในการพัฒนางานวิจัย การสอน และการให้คำปรึกษาในรายวิชา วท 498 ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง

3. ได้เครือข่ายงานวิจัยและก่อให้เกิดความร่วมมืองานวิจัยระดับหน่วยงาน


ความคิดเห็นทั้งหมด (0)
ไม่มีข้อมูลตามเงื่อนไขที่ท่านกำหนด
รายการบทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้หมวดหมู่ : กลุ่มงานสายวิชาการ
ความรู้จากการเข้าร่วมอบรม/สัมมนา/ประชุมวิชาการ » ทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปรับแต่งจีโนม
เทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนมระบบ CRISPR/Cas มีบทบาทสำคัญในเกษตรกรรมแม่นยำ โดยช่วยปรับปรุงพันธุ์พืชให้แม่นยำ ปลอดภัย และไม่จัดเป็น GMO การนำเทคโนโลยีไปใช้เชิงพาณิชย์ต้องคำนึงถึงทรัพย์สินทางปัญญา เช่น ส...
การรับรองพันธุ์  ทรัพย์สินทางปัญญา  เทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนม (Genome Editing)  พันธุ์พืช     กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร   กลุ่มงานสายวิชาการ
ผู้เขียน ช่อทิพา สกูลสิงหาโรจน์  วันที่เขียน 12/9/2568 17:09:14  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 25/9/2568 12:10:47   เปิดอ่าน 330  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง
การประเมินสมรรถนะอาจารย์ตามกรอบ Thailand PSF » การประยุกต์ใช้ความรู้จากการอบรมเชิงปฏิบัติการ แนวทางการเขียนผลงานด้านการเรียนการสอนเพื่อขอรับการประเมินสมรรถนะอาจารย์ตามกรอบ Thailand PSF
การประเมินสมรรถนะอาจารย์ตามกรอบ Thailand Professional Standards Framework (Thailand PSF) เป็นกระบวนการสำคัญในการรับรองคุณภาพการจัดการเรียนการสอนของอาจารย์ในระดับอุดมศึกษา เพื่อยกระดับมาตรฐานวิชาชีพ...
Thailand PSF  การประเมินสมรรถนะอาจารย์  ผลงานด้านการเรียนการสอน     กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร   กลุ่มงานสายวิชาการ
ผู้เขียน อัณชยารัศมิ์ เนาว์โสภา  วันที่เขียน 4/8/2568 18:18:40  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 25/9/2568 19:18:57   เปิดอ่าน 1216  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง