ทำไมต้องไปศึกษาวิจัยที่ขั้วโลกใต้
วันที่เขียน 27/5/2560 8:36:19     แก้ไขล่าสุดเมื่อ 26/9/2568 8:52:48
เปิดอ่าน: 3807 ครั้ง

ทวีปแอนตาร์กติก หรือขั้วโลกใต้มีพื้นที่ประมาณ 14 ล้านตารางกิโลเมตรหรือใหญ่กว่าประเทศไทยประมาณ 27 เท่า โดยประมาณร้อยละ 98ของพื้นที่ทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยแผ่นน้ำแข็ง (ice sheet) ที่มีความหนาเฉลี่ยประมาณ 2,450 เมตร ทวีปแอนตาร์กติกเป็นบริเวณที่ไม่มีมนุษย์อาศัยอย่างถาวร มีเพียงคณะสำรวจของหลายประเทศที่เข้าพื้นที่เพื่อศึกษาวิจัยประมาณ 4,000 คนต่อปี พื้นที่นี้ถือได้ว่าเป็นบริเวณที่มีอากาศหนาวที่สุดในโลก เนื่องจากมีการระเหยของน้ำน้อย และมีอากาศที่ค่อนข้างแห้งมาก ประกอบกับไม่ได้รับความอบอุ่นจากมหาสมุทร อุณหภูมิต่ำสุดที่ตรวจวัดได้คือ -93.2 C ส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยของน้ำทะเลบริเวณมหาสมุทรแอนตาร์กติกอยู่ระหว่าง -1.8 ถึง 3.5 C โดยปกติบริเวณเขตขั้วโลกทั้งเหนือและใต้เป็นสถานที่ที่เปราะบางจากกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก เนื่องมาจากกระบวนการหมุนของโลกที่ทำให้ผลจากกิจกรรมนั้นๆ ส่วนใหญ่มารวมกันและปรากฏอยู่บริเวณแกนหมุนของโลก ขั้วโลกจึงจัดเป็นพื้นที่ที่อ่อนไหวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมโลก และเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับตรวจวัดสุขภาพสิ่งแวดล้อมโลก นอกจากนี้ขั้วโลกยังทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมให้กับโลกผ่านกระบวนการไหลเวียนของกระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็น โดยกระแสน้ำเย็นจากขั้วโลกเป็นเครื่องมือทำความเย็นให้กับโลก ขณะที่กระแสน้ำอุ่นเป็นเครื่องมือระบายความร้อนในพื้นที่ต่างๆ มายังขั้วโลก เนื่องจากทวีปแอนตาร์กติกอยู่ห่างไกลจากทวีปอื่น และมีความหนาวเย็นอย่างมาก ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ รวมถึงมนุษย์เข้ามาตั้งถิ่นฐานภายในแผ่นดินหรือตัวทวีป ดังนั้นปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีตจึงถูกบันทึกรักษาไว้ภายใต้ผืนน้ำแข็งเป็นอย่างดี ด้วยเหตุผลดังกล่าวทวีปแอนตาร์กติกจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการศึกษาวิจัย โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมของโลก ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถไขปริศนาของอดีต ทราบถึงปัจจุบัน และสามารถคาดการณ์ถึงอนาคตของระบบนิเวศ รวมถึงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่แห่งนี้และของโลกด้วย

คำสำคัญ :
กลุ่มบทความ :
หมวดหมู่ :
แชร์ :
https://erp.mju.ac.th/acticleDetail.aspx?qid=685
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)
ไม่มีข้อมูลตามเงื่อนไขที่ท่านกำหนด
รายการบทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้หมวดหมู่ : กลุ่มงานสายวิชาการ
ความรู้จากการเข้าร่วมอบรม/สัมมนา/ประชุมวิชาการ » ทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปรับแต่งจีโนม
เทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนมระบบ CRISPR/Cas มีบทบาทสำคัญในเกษตรกรรมแม่นยำ โดยช่วยปรับปรุงพันธุ์พืชให้แม่นยำ ปลอดภัย และไม่จัดเป็น GMO การนำเทคโนโลยีไปใช้เชิงพาณิชย์ต้องคำนึงถึงทรัพย์สินทางปัญญา เช่น ส...
การรับรองพันธุ์  ทรัพย์สินทางปัญญา  เทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนม (Genome Editing)  พันธุ์พืช     กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร   กลุ่มงานสายวิชาการ
ผู้เขียน ช่อทิพา สกูลสิงหาโรจน์  วันที่เขียน 12/9/2568 17:09:14  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 26/9/2568 8:14:52   เปิดอ่าน 333  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง
การประเมินสมรรถนะอาจารย์ตามกรอบ Thailand PSF » การประยุกต์ใช้ความรู้จากการอบรมเชิงปฏิบัติการ แนวทางการเขียนผลงานด้านการเรียนการสอนเพื่อขอรับการประเมินสมรรถนะอาจารย์ตามกรอบ Thailand PSF
การประเมินสมรรถนะอาจารย์ตามกรอบ Thailand Professional Standards Framework (Thailand PSF) เป็นกระบวนการสำคัญในการรับรองคุณภาพการจัดการเรียนการสอนของอาจารย์ในระดับอุดมศึกษา เพื่อยกระดับมาตรฐานวิชาชีพ...
Thailand PSF  การประเมินสมรรถนะอาจารย์  ผลงานด้านการเรียนการสอน     กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร   กลุ่มงานสายวิชาการ
ผู้เขียน อัณชยารัศมิ์ เนาว์โสภา  วันที่เขียน 4/8/2568 18:18:40  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 25/9/2568 21:04:20   เปิดอ่าน 1218  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง