ในการประชุมวิชาการครั้งนี้ ศาสตราจารย์อีริค ซุย (Professor Eric Tsui) จากมหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลีเทคนิค (Hong Kong Polytechnic University) ได้รับเกียรติเป็นคีย์โน้ต ศาสตราจารย์ท่านนี้มีประสบการณ์ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม โรงงาน Computer Science Corporation ที่ประเทศออสเตรเลียเป็นเวลา 16 ปี โดยเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโปรแกรมระบบผู้เชี่ยวชาญและนวัตกรรม ขณะที่ท่านทำงานในมหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลีเทคนิคในตำแหน่ง President’s Distinguished Professionals Scheme มีความเชี่ยวชาญพิเศษเกี่ยวกับการจัดการความรู้ทางเสิร์จเอ็นจิน (Search Engines), พอร์ทัล (Portals), การจัดการความรู้ส่วนบุคคล สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ส่วนบุคคล และการให้บริการก้อนเมฆความรู้ (Knowledge Cloud services)
ศาสตราจารย์อีริค ซุย ได้กล่าวถึงการจัดการความรู้ที่มีความเกี่ยวข้องกันกับเศรษฐกิจดิจิทัล ไว้ว่า การจัดการความรู้ในยุคดิจิทัลที่มีความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆและฮาร์ดแวร์มีความจำเป็นในการปฏิวัติวงการอุตสาหกรรม การผลิตและการบริการ ในการประชุมครั้งนี้ ท่านได้กล่าวถึงพลังของการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆต่อการผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ ซอฟต์แวร์และการเชื่อมต่อของซอฟต์แวร์ต่าง ๆ การทำงานขนาดใหญ่เพื่อการวางแผนและจัดส่งการให้บริการความรู้ได้อย่างยืดหยุ่นโดยอาศัยการกระจายปัญหาไปยังกลุ่มคนบนโลกออนไลน์ให้ช่วยกันระดมสมอง ความคิด การกระจายงานให้เป็นหน่วยย่อย ๆ และการแก้ไขปัญหาโดยการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร อย่างไรก็ตามเพื่อให้สามารถนำศักยภาพของคลาวด์มาใช้ประโยชน์ การเรียนรู้ที่เป็นทฤษฎีและไม่ใช่ทฤษฎีจะได้จากการวิจัยทางด้านบิ๊กดาต้าเป็นสำคัญ ซึ่งได้กล่าวถึงประโยชน์ที่ได้รับจากบิ๊กดาต้าที่เกิดจากการรวบรวมข้อมูลจากหลากหลายโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่ โรงงานอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ สถานประกอบการเกี่ยวกับสุขภาพและความงาม โรงงามอุตสาหกรรมยานยนต์และสถานประกอบการค้าปลีก บิ๊กดาต้าไม่ได้ประสบความสำเร็จในการใช้วิเคราะห์เท่านั้น แต่ส่งผลให้สามารถประมาณการในอนาคตได้อย่างถูกต้องด้วย อัลกอริทึ่มใหม่ ๆ ถูกพัฒนาขึ้น ซึ่งในการพูดครั้งนี้จะรวมถึงข้อเสนอแนะของการจัดการความรู้ในยุคดิจิทัล
สำหรับหัวข้อสัมมนาที่น่าสนใจ ได้แก่ Frameworks of the Relations of the “Customer Value” for the “Start-Up” business through “E-Service” in the North of Thailand และ Word Cloud of Online Hotel Reviews in Chiang Mai for Customer Satisfaction Analysis ในเรื่องของ Frameworks of the Relations of the “Customer Value” for the “Start-Up” business through “E-Service” in the North of Thailand มีส่วนที่สำคัญคือ ในปัจจุบันมีธุรกิจที่เรียกว่า สตาร์ทอัพ (Start-Up) ที่ได้ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องร้อยละ 90 ของธุรกิจทั้งหมด ทำให้มีอัตราการจ้างงานถึงร้อยละ 60 ของแรงงานทั้งหมด การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากรอบของปัจจัยที่สัมพันธ์กันในการสร้างคุณค่าแก่ลูกค้า โดยการสร้างโมเดลแสดงลำดับของคุณค่าแก่ลูกค้า ที่ประกอบด้วยโครงสร้างองค์กร จิตวิทยาทางสังคม และภาพพจน์หรือยี่ห้อของสตาร์ทอัพ ผ่านทางการเก็บข้อมูลความพึงพอใจของลูกค้าทางการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อพัฒนาธุรกิจทางภาคเหนือของประเทศไทยให้ยั่งยืน
ส่วนในการวิจัยเรื่อง Word Cloud of Online Hotel Reviews in Chiang Mai for Customer Satisfaction Analysis มีวัตถุประสงค์เพื่อวัดระดับความพึงพอใจของลูกค้าที่พักในโรงแรม โดยการใช้โปรแกรมเวิร์ดที่ประมวลผลแบบคลาวด์ในการเก็บข้อมูล จากข้อมูลผู้พักอาศัยในโรงแรม 1,752 คน ถูกเก็บข้อมูลโดย TripAdvisor.com เพื่อเลือกโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ 5 โรงแรม ผลจากงานวิจัยพบว่า ระดับความพึงพอใจที่เป็นมาตรฐาน ได้แก่ การให้บริการของพนักงาน สภาพแวดล้อมของโรงแรม และสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งในห้องพักและห้องน้ำ แต่สิ่งที่ลูกค้าไม่พึงพอใจ ได้แก่ ระบบการจองห้องพักของโรงแรม ดังนั้นการวิจัยนี้ให้ผลที่ชัดเจนขึ้นต่อการวัดระดับความพึงพอใจของลูกค้าที่พักในโรงแรมโดยการใช้เทคนิคคลาวด์