ความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงนิเวศวิทยา
วันที่เขียน 17/3/2559 10:36:51     แก้ไขล่าสุดเมื่อ 24/4/2567 14:07:58
เปิดอ่าน: 3216 ครั้ง

การศึกษาข้อมูลทางนิเวศวิทยา มีการศึกษาจากข้อมูลตัวอย่างที่มาจากประชากรที่เป็นพืชและสัตว์ ข้อมูลมีลักษณะหลากหลาย เพื่อทำให้เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของข้อมูล จึงต้องมีการสร้างตัวแบบเพื่อใช้ในการประมาณความชุก (พบ / ไม่พบ) และ ความอุดมสมบูรณ์ (พบมากน้อยเพียงใด) รวมถึงการแสดงผลลัพธ์โดยใช้แผนภาพที่เหมาะสม

          เนื้อหาในการสัมมนาในครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 การรับฟังการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติ Professor Don McNeil และ ส่วนที่ 2 การฝึกปฏิบัติการ โดยใช้โปรแกรม R ในการนำข้อมูลด้านนิเวศวิทยามาวิเคราะห์ผลทางสถิติ โดยข้อมูลที่นำมาใช้ในการสัมมนาครั้งนี้คือข้อมูลของสิ่งมีชีวิต    ในคลองนาทับ ในช่วงเดือนมิถุนายน 2548 – ตุลาคม 2558 โดยเก็บข้อมูลทุก ๆ 2 เดือน รวมมีข้อมูลทั้งสิ้น 62 ตัวอย่าง และเก็บทั้งหมด 10 จุด ดังนั้นจะมีข้อมูลทั้งหมด 620 ตัวอย่าง

โดยเนื้อหาที่ได้รับจากการบรรยายจะแบ่งเป็น การอธิบายลักษณะของข้อมูล (โดยใช้ข้อมูลของแพลงก์ตอน (Plankton)) โดยใช้สถิติเชิงพรรณา และหาความสัมพันธ์ของตัวแปรต่าง ๆ  การสร้างตัวแบบ(โดยใช้ข้อมูลของแพลงก์ตอน (Plankton)) และการประยุกต์ใช้ข้อมูลกับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ โดยใช้ข้อมูลปลา และ ลูกปลา (Fish and Fish Larvae) และ สิ่งมีชีวิตหน้าดิน (Benthon and Further Issues)

 

ในส่วนของการอธิบายลักษณะของข้อมูล (โดยใช้ข้อมูลของแพลงก์ตอน (Plankton)) โดยใช้สถิติเชิงพรรณา

          ในส่วนนี้จะศึกษาข้อมูลของแพลงก์ตอน โดยจะมีการศึกษาทั้งแพลงก์ตอนพืช จำนวน 52 ชนิดและ แพลงก์ตอนสัตว์ จำนวน 87 ชนิด รวมทั้งหมด 139 ชนิด โดยจะศึกษาความชุก (Prevalence) และ ความอุดมสมบูรณ์ (abundance) โดยในการอธิบายลักษณะข้อมูลจะประกอบด้วยหลาย ๆ ส่วน ดังนี้

 

  1. การพิจารณาการแจกแจงของจำนวนแพลงก์ตอน โดยพิจารณาจากฮิสโทแกรม
  2. การพิจารณาการแจกแจงของจำนวนของจำนวนแพลงก์ตอนแต่ละชนิด โดยพิจารณาจาก Quantile- Quantile(QQ) Plots

 

ในส่วนของหาความสัมพันธ์ของตัวแปรต่าง ๆ จะใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เชิงเส้นของเพียร์สัน ดังนี้

  1. การพิจารณาความสัมพันธ์ของตัวแปรเชิงปริมาณ 2 ตัวแปร (ดูความสัมพันธ์ของความชุก ของแพลงก์ตอน 2 ชนิด) จาก Scatter Plot

   2. พิจารณาความสัมพันธ์เชิงเส้นของความหนาแน่นของแพลงก์ตอน ในแต่ละคู่ (หลังจากที่แปลงข้อมูลด้วยค่า log(1+ความหนาแน่นแล้ว)) ด้วย Scatter Plot Matrix

   3.พิจารณาความสัมพันธ์เชิงเส้นของความหนาแน่นของแพลงก์ตอน ในแต่ละคู่ ด้วย Bubbleplot Correlation Matrix

 

ในส่วนของการสร้างตัวแบบ 

          ในส่วนนี้จะสร้างตัวแบบ 2 ตัวแบบ คือ ตัวแบบของความชุก (Prevalence) ซึ่งจะมีคำตอบ 2 คำตอบ คือ พบ(1) / ไม่พบ(0)  ซึ่งจะใช้ตัวแบบ Logistic Model  และ ความอุดมสมบูรณ์ (abundance) จะนับเป็นจำนวนตัวต่อลูกบาศก์เมตร (พบมากน้อยเท่าใด) โดยใช้ตัวแบบการวิเคราะห์การถดถอยเชิงเส้น 

          โดยก่อนที่จะทำการสร้างตัวแบบจะทำการจัดกลุ่มแพลงก์ตอนโดยใช้ Factor Analysis เพื่อลดจำนวนตัวแบบก่อน แล้วค่อยไปสร้างตัวแบบทีละกลุ่ม

 

สำหรับการสร้างตัวแบบ (Models)

          สำหรับการสร้างตัวแบบของความชุก (Prevalence) ของแพลงก์ตอน ด้วย Logistic Model

          สำหรับการสร้างตัวแบบของความอุดมสมบูรณ์ (abundance) โดยใช้ตัวแบบการวิเคราะห์การถดถอยเชิงเส้น

 

โดยมีตัวแปรตามคือความชุก และ ตัวแปรอิสระคือ เดือน(Month), ปี(Year), จุดที่เก็บตัวอย่าง(Site Upstream), ความชุกของแพลงก์ตอนพืช(PhytoPlankton) และ ความเค็มของน้ำ(Salinity)

จากนั้นหาช่วงความเชื่อมั่น และ ทดสอบสมมติฐานว่าตัวแปรอิสระใดจะมีอิทธิพลต่อตัวแปรตาม   

 

สำหรับการประยุกต์ใช้ข้อมูลกับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ  

จะใช้ข้อมูลความชุก และความสมบูรณ์ของปลา และ ลูกปลา (Fish and Fish Larvae) และ ข้อมูลความชุก และความสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตหน้าดิน (Benthon and Further Issues)

          โดยจะมีการอธิบายสถิติเชิงพรรณนา การหาความสัมพันธ์ของตัวแปรต่าง ๆ  และการสร้างตัวแบบเช่นเดียวกับข้อมูลแพลงก์ตอน

 

ด้านการนำไปใช้ประโยชน์

          หลังจากการเข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ สามารถนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนในรายวิชา สต324 การวิเคราะห์การถดถอย ซึ่งจะมีเนื้อหาการวิเคราะห์การถดถอย และ Logistic Regression โดยใช้เป็นตัวอย่างให้นักศึกษา ในส่วนของการทำวิจัยจะใช้ความรู้ที่ได้รับตั้งแต่กระบวนการอธิบายข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา การหาความสัมพันธ์ของตัวแปรต่าง ๆ และการสร้างตัวแบบ เพื่อให้ผลงานวิจัยมีความเหมาะสมและถูกต้องมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการประยุกต์ใช้ความรู้จากการ ฝึกปฏิบัติการเพื่อให้การนำเสนอมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยใช้การนำเสนอด้วยแผนภาพทั้งหลาย เช่น Quantile- Quantile(QQ) Plots, Scatter Plot Matrix และ Bubbleplot Correlation Matrix แทนการนำเสนอด้วยค่าทางสถิติเพียงอย่างเดียว

 

คำสำคัญ :
กลุ่มบทความ :
หมวดหมู่ :
แชร์ :
https://erp.mju.ac.th/acticleDetail.aspx?qid=492
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)
ไม่มีข้อมูลตามเงื่อนไขที่ท่านกำหนด
รายการบทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้หมวดหมู่ : กลุ่มงานสายวิชาการ
Data Science คืออะไร และนำมาใช้ประโยชน์อย่างไร » Data Science คืออะไร และนำมาใช้ประโยชน์อย่างไร
Data Science หรือ วิทยาการข้อมูล หมายถึง การนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ โดยครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บข้อมูล (Collect) การจัดการข้อมูล (Manage) การวิเคราะห์ข้อมูล (Analyze) ไปจนถึงขั้นตอนการนำข้อมูลมาช...
Data Science  วิทยาการข้อมูล     กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร   กลุ่มงานสายวิชาการ
ผู้เขียน ธวัชชัย เพชรธาราทิพย์  วันที่เขียน 24/4/2567 13:27:01  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 24/4/2567 13:36:25   เปิดอ่าน 1  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง
การเผยแพร่ความรู้ที่ได้จากการเข้าร่วมประชุมวิชาการ/อบรม/สัมมนา » การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ครั้งที่ 5 มหาวิทยาลัยแม่โจ้
การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ครั้งที่ 5 ในวันที่ 28 มีนาคม 2567 เวลา 08.00 - 17.00 น. ณ ห้องเอกภพวิทยา ชั้น G อาคารจุฬาภรณ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งจัดโดย...
ChatGPT  การประชุมวิชาการ  เทคโนโลยี  วิทยาศาสตร์  สิ่งแวดล้อม     กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร   กลุ่มงานสายวิชาการ
ผู้เขียน พิกุล ศรีดารัตน์  วันที่เขียน 11/4/2567 15:19:10  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 24/4/2567 9:34:29   เปิดอ่าน 24  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง
รายงานสรุปเนื้อหาและการนำไปใช้ประโยชน์จากการเข้าอบรม สัมมนาหรือประชุมวิชาการ » รายงานสรุปเนื้อหาและการนำไปใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมและนำเสนอผลงาน การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ครั้งที่ 5
รายงานสรุปเนื้อหาและการนำไปใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมและนำเสนอผลงาน การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ครั้งที่ 5
รายงานสรุปเนื้อหา     กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร   กลุ่มงานสายวิชาการ
ผู้เขียน ศิริพร สมุทรวชิรวงษ์  วันที่เขียน 2/4/2567 16:14:15  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 21/4/2567 16:56:52   เปิดอ่าน 41  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง