การจัดการและดูแลรักษางานภูมิทัศน์นครซานฟรานซิสโก
เรื่องและภาพโดย อาจารย์จรัสพิมพ์ บุญญานันต์
ตีพิมพ์ลงในวารสารแม่โจ้ปริทัศน์ ปีที่ 7 ฉบับที่ 5 (ก.ย.-ต.ค. 2549) หน้า 34-38
If you’re going to San Francisco. Be sure to wear some flowers in your hair
If you’re going to San Francisco. You ‘re gonna meet some gentle people there
Scott Mc Kenzie
|
เสียงครวญเพลง “San Francisco” อันทรงเสน่ห์ของนักร้องสาวผู้นั้น สะกดใจผู้ฟังแทบทุกคนที่นั่งอยู่ในร้านอาหารเชิงดอยแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ให้หันไปมอง เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผู้เขียนได้ฟังเพลงเก่าเพลงนี้อีกครั้งหนึ่ง และรู้สึกซาบซึ้งดื่มด่ำเป็นพิเศษ ด้วยหวนระลึกถึงความเก๋ไก๋น่ารักของผู้คนและบรรยากาศของเมืองซานฟรานซิสโก ที่พึ่งจากมาได้ไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์
เรื่องที่เล่ามานี้เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2548 เป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องจากการเดินทางไปร่วมโครงการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ ณ มหาวิทยาลัยโอคลาโฮมา สเตท ยูนิเวอร์ซิตี (Oklahoma State University) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม-30 เมษายน พ.ศ. 2548 ที่ผู้เขียนได้เคยนำเสนอไปแล้วในบทความในวารสารแม่โจ้ปริทัศน์ นับว่าเป็นภารกิจที่เป็นทางการและค่อนข้างเคร่งเครียด โดยเฉพาะสำหรับอาจารย์ชาวไทยซึ่งไม่เคยไปสอนที่ต่างประเทศอย่างผู้เขียน ดังนั้นเมื่องานดังกล่าวได้สำเร็จลงด้วยดี ผู้เขียนจึงได้เดินทางต่อไปยังเมืองซานฟรานซิสโก เพื่อแวะเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่าแก่ ณ นครซานฟรานซิสโก (University of California at San Francisco) ผู้เขียนจึงได้ถือโอกาสนี้ในการพักผ่อน ท่องเที่ยว และชมงานด้านภูมิทัศน์ไปพร้อมกัน นับว่าเป็นแผนยิงปืนนัดเดียวได้นกถึง 4 ตัวเลยทีเดียว ดังนั้นเวลา 4 วันสุดท้ายของการเดินทางของผู้เขียน ระหว่างวันที่ 31 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2548 จึงหมดไปอย่างสนุกสนานที่นครซานฟรานซิสโก หนึ่งในบรรดาเมืองที่สวยงามที่สุดของสหรัฐอเมริกา ก็ด้วยเหตุนี้แล
ภาพของนครซานฟรานซิสโกในความคิดคำนึงของผู้เขียน ก่อนที่จะได้มาเยือนสถานที่จริงนั้น เป็นภาพที่ลางเลือนและไม่ประติดประต่อ แน่นอนว่าต้องเป็นภาพของสะพานโกลเด้นเกทอันเลื่องชื่อ (ภาพที่ 1) ถนนคดเคี้ยวบนเนินเขาที่ลาดชัน (ภาพที่ 2) รถรางที่วิ่งขึ้นลงเนินเขา (ภาพที่ 3) และขบวนพาเรดอันยิ่งใหญ่อลังการของกลุ่มนิยมรักร่วมเพศ ก็เพียงเท่านั้น พอได้มาเห็นเข้าจริงๆก็รู้สึกทึ่งในความสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อยของเมืองที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี จำได้ว่าเคยเป็นฉากของภาพยนตร์ชื่อดังของฮอลลีวูด เรื่อง “The Rock” (ภาพที่ 4) นำแสดงโดยพระเอกหล่ออมตะนิรันดร์กาล ชอน คอนเนอรี (Sean Connery) เห็นทีจะต้องลองกลับไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้อีกสักรอบ เพื่อดูฉากของเมือง คราวที่แล้วมัวแต่สนใจคนแสดงมากกว่า
ซานฟรานซิสโกเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนแหลมที่กั้นระหว่างอ่าวซานฟรานซิสโกกับมหาสมุทรแปซิฟิก (ภาพที่ 5) ภูมิประเทศที่มีลักษณะเป็นเนินเขา และเนื่องด้วยพื้นที่ที่มีอยู่จำกัด ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่สร้างบ้านเรือนอยู่บนเนินเขา เกิดเป็นเอกลักษณ์ของเมืองที่โดดเด่นน่าประทับใจ (ภาพที่ 6) น่าตกใจที่เมืองอันสวยงามแห่งนี้ เคยได้รับความเสียหายยับเยินจากแผ่นดินไหว หลายครั้งในประวัติศาสตร์ เช่นในเดือนเมษายนของปี ค.ศ. 1906 เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง วัดได้ 8.25 ริคเตอร์ เป็นเวลานาน 49 วินาที ทำให้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่สร้างความเสียหายรุนแรงกว่าความเสียหายจากแผ่นดินไหวเองเสียอีก (ภาพที่ 7) มีอาคารได้รับความเสียหายถึง 28,000 หลัง มีผู้เสียเสียชีวิตกว่า 3,000 หลัง และอีกประมาณ 225,000 คน ต้องกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย สภาพบ้านเรือนที่สวยงามที่ปรากฏให้เห็นทุกวันนี้ ส่วนมากได้รับการปลูกสร้างขึ้นมาใหม่เมื่อประมาณ 100 ปี ที่ผ่านมานี้เอง จึงได้รับการวางผังเมือง รวมไปถึงวางระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่ทันสมัย ส่งผลให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีของประชากร
ภาพที่ 5 แผนที่ตั้งของเมืองซานฟรานซิสโก
ภาพที่ 6 ลักษณะสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง
ภาพที่ 7 สภาพไฟไหม้ครั้งใหญ่จากแผ่นดินไหว
หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลงานภูมิทัศน์บริเวณพื้นที่ถนนสาธารณะของเมืองได้แก่ กองงานสาธารณะ (Department of Public Works) ซึ่งมีภาระหน้าที่ในการดูแลรักษาและเพิ่มจำนวนพรรณไม้ริมถนนหลากหลายชนิด เพื่อส่งเสริมให้เกิดพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง ซึ่งมีประโยชน์หลายประการ ดังนี้
- ช่วยเพิ่มมูลค่าของที่ดิน
- ช่วยปรับปรุงคุณภาพของอากาศ
- ช่วยในการควบคุมระดับของเสียงในเมือง
- เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่างๆในธรรมชาติ
- ช่วยปรับปรุงสุขภาพจิตของคนในชุมชน (ภาพที่ 8)
- ช่วยเพิ่มคุณภาพและความงามของสภาพแวดล้อม (ภาพที่ 9)
ภาพที่ 8 สวนสาธารณะซานฟรานซิสโกมาริทาม
ภาพที่ 9 ความสวยงามของไม้ดอกในสวนสาธารณะมาริทาม
กองงานสาธารณะปฏิบัติงานด้านการบริหารจัดการ และการดูแลรักษาพื้นที่ถนนสาธารณะตลอดจนพื้นที่ว่างสาธารณะประโยชน์อื่นๆ ภายใต้ระเบียบเทศบัญญัติของเมือง (City Code) ซึ่งแบ่งออกเป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน (ภาพที่ 10) ยกตัวอย่างเช่น งานเกี่ยวกับถนนและทางเท้า ต้นไม้ริมถนน (ภาพที่ 11) การทำความสะอาดถนน การขออนุญาตตั้งโต๊ะกาแฟบนทางเท้า (ภาพที่ 12) การซ่อมแซมช่องท่อบนถนน การเข้าถึงของผู้พิการและทุพพลภาพ ตู้ขายหนังสือพิมพ์บนทางเท้า ห้องน้ำสาธารณะ การขุดรื้อระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน เป็นต้น เรียกได้ว่าวางกฎระเบียบไว้ละเอียดยิบไร้ช่องโหว่ ความสวยงามของภูมิทัศน์เมืองนี้ จึงเป็นความสวยงามอย่างเป็นระเบียบ (ภาพที่ 13-15)ต้นไม้ทุกต้นถูกตัดแต่งเข้ารูปทรงคล้ายๆกันไป บนถนนแต่ละเส้น แทบจะไม่มีใบไหนกระดิกออกนอกลู่นอกทางเลย แน่นอนว่าการตัดแต่งพรรณไม้ที่นี่ต้องปฏิบัติตามเทศบัญญัติของเมืองอย่างเคร่งครัด เป็นต้นว่า หากใครต้องการที่จะปลูกต้นไม้ภายในชุมชน จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนการขออนุญาตจากกองงานสาธารณะ เสียก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าการปลูกต้นไม้เหล่านั้นเป็นไปอย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด สร้างความปลอดภัยภายในพื้นที่สาธารณะ และไม่เกิดความขัดแย้งกับระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่อยู่ใกล้เคียง (ภาพที่ 16) กองงานสาธารณะได้กำหนดแนวทางในการปลูกต้นไม้ไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนาดของต้นไม้ที่จะปลูก ขนาดและลักษณะของกระบะต้นไม้บนทางเท้าสาธารณะ ระยะห่างระหว่างต้นไม้ที่ต้องการปลูกกับองค์ประกอบทางภูมิทัศน์อื่นๆ เช่น ป้าย สัญญานจราจร มิเตอร์จอดรถ เสาไฟฟ้า แนวท่อก๊าซ ท่อน้ำ ท่อไฟฟ้า ท่อระบายน้ำ ท่อดับเพลิง ที่จอดรถประจำทาง และต้นไม้เดิม เป็นต้น แม้แต่การถอนย้ายหรือการตัดต้นไม้ก็ต้องผ่านขั้นตอนการขออนุญาตเช่นเดียวกัน
ภาพที่ 10 ขอบข่ายงานของกองงานสาธารณะ
ภาพที่ 11 ต้นไม้บนทางเท้าริมถนน
ภาพที่ 12 การตั้งโต๊ะกาแฟบนทางเท้าจะต้องขออนุญาตจากกองสาธารณะของเมือง
ภาพที่ 13 สภาพภูมิทัศน์ริมถนนและเส้นทางรถรางในเมือง
ภาพที่ 14 สภาพภูมิทัศน์บริเวณลานหน้าอาคารรัฐสภา
ภาพที่ 15 บริเวณสถานีรถรางบริเวณท่าเรือริมทะเล
ภาพที่ 16 การปลูกและดูแลรักษาต้นไม้บนทางเท้าที่คับแคบ
ความสวยงามเป็นระเบียบของภูมิทัศน์นครซานฟรานซิสโกนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับหน่วยงานภาครัฐแต่เพียงอย่างเดียว หากแต่ยังอาศัยความร่วมมือของคนในชุมชน ที่ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลรักษาพรรณไม้ และองค์ประกอบทางภูมิทัศน์อื่นๆ ในพื้นที่ถนนสาธารณะ เห็นได้จากการรวมกลุ่มกันจัดตั้งองค์กรอาสาสมัครที่ไม่หวังผลกำไร ที่มีชื่อว่า “เพื่อนไม้เมือง” (Friend of the Urban Forest) ได้รับการจัดตั้งขึ้นตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1981 เป็นองค์กรที่ให้การสนับสนุนด้านการเงิน ด้านเทคนิค และให้ความช่วยเหลือในทางปฏิบัติแก่ชาวเมืองซานฟรานซิสโกในเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้
การปลูกต้นไม้
ในแต่ละปี องค์กรเพื่อนไม้เมือง ได้ช่วยสนับสนุนชุมชน ในการดำเนินการปลูกต้นไม้ โดยที่ทางชุมชนเป็นฝ่ายดำเนินการปลูก ในขณะที่ทางองค์กรจะเป็นฝ่ายดำเนินการขออนุญาตปลูกต้นไม้ ทุบรื้อถอนทางเท้าคอนกรีต จัดหาวัสดุอุปกรณ์ ทำการเลือกซื้อและจัดส่งต้นไม้ เมื่อถึงวันปลูกต้นไม้ ทั้งอาสาสมัครและสมาชิกในชุมชนจะทำงานร่วมกัน รับประทานอาหารร่วมกัน ได้พบปะพูดคุย ก่อให้เกิดความสมานฉันท์จากการบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ร่วมกัน
การดูแลต้นไม้
ที่เมืองซานฟรานซิสโกนี้ ในกรณีส่วนใหญ่เจ้าของที่ดิน มีความรับผิดชอบในการดูแลพันธุ์ไม้ริมถนน และรักษาทางเท้าโดยรอบให้อยู่ในสภาพที่ดี (ภาพที่ 17) ถึงแม้ว่าพันธุ์ไม้และทางเท้าเหล่านั้นจะอยู่ในพื้นที่สาธารณะ และอยู่ภายใต้การจัดการและการดูแลรักษาของกองงานสาธารณะ แต่ทางองค์กรเพื่อนไม้เมือง จะเข้าไปช่วยส่งเสริมให้ชาวเมืองตระหนักถึงความรับผิดชอบของตนในการร่วมมือกันดูแลสมบัติสาธารณะ บริการให้ข้อมูลและแหล่งอ้างอิงที่เกี่ยวข้องกับประเด็นปัญหาเรื่องต้นไม้และทางเท้า รวมถึงการให้คำแนะนำและช่วยเหลือในการปฏิบัติจริง ทั้งในด้านการตัดแต่งกิ่ง การค้ำยัน การใส่ปุ๋ย ให้น้ำ และการบำรุงรักษาอื่นๆ (ภาพที่ 18)
ภาพที่ 17 สภาพภูมิทัศน์บริเวณทางเท้าในชุมชน
ภาพที่ 18 การตัดแต่งกิ่งไม้ (Hard Pruning)
การส่งเสริมความร่วมมือภายในชุมชนและการให้ความรู้แก่เยาวชน
องค์กรเพื่อนไม้เมือง มีเป้าหมายในการสร้างเสริมจิตสำนึกในการดูแลรักษาพื้นที่สีเขียวสาธารณะในชุมชน และการตระหนักในความสำคัญของต้นไม้ที่มีต่อเมือง โดยผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย เป็นต้นว่า จดหมายข่าว การจัดประชุมสัมมนากึ่งปฏิบัติการด้านการตัดแต่งกิ่งไม้ และการจัดอบรมผู้นำชุมชน นอกจากนี้ยังจัดโครงการพิเศษสำหรับเยาวชนโดยเฉพาะ ในการอบรมการปลูกและดูแลรักษาต้นไม้ สนับสนุนให้คนรุ่นหนุ่มสาวได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชน
จากกรณีศึกษาด้านการจัดการและดูแลรักษาต้นไม้ในนครซานฟรานซิสโกนี้ ทำให้ผู้เขียนย้อนกลับมาคิดถึงสภาพภูมิทัศน์เมืองใหญ่ๆในประเทศไทย จึงได้เข้าใจแจ่มแจ้งว่าเหตุใดจึงมีปัญหามากมายไว้ให้รอแก้ไข ทั้งเรื่องความชำรุดทรุดโทรม ความไม่สม่ำเสมอของทางเท้า สภาพต้นไม้ที่ขาดการดูแลรักษา และได้รับการตัดแต่งที่ไม่ถูกวิธี การปลูกต้นไม้และการจัดวางองค์ประกอบทางภูมิทัศน์ของถนนที่กีดขวางการเดิน เนื่องจากเทศบัญญัติที่ควบคุมดูแลเรื่องนี้ในบ้านเรา มีเนื้อหาที่ไม่ละเอียดและครอบคลุมอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ยังขาดความร่วมมือประสานงานกันอย่างมีระบบระหว่างหน่วยงานของรัฐ ของเอกชน และคนในชุมชนเอง ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้เกิดพลังที่แข็งแกร่ง ที่สามารถปรับปรุงสภาพแวดล้อมของเมืองให้น่าอยู่อาศัยได้ การเสียสละและอุทิศตนเองของเหล่าเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร รวมทั้งคนในชุมชนภายในนครซานฟรานซิสโก มีบทบาทอย่างมาก ในการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่แต่เดิมเป็นพื้นผิวคอนกรีตอันหยาบกระด้าง ให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวอันอุดมไปด้วยพรรณไม้อันงดงาม
ผู้เขียนอำลาเพื่อนที่น่ารักและนครแห่งสีสันนี้ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 เวลารอบตัวหมุนเวียนเปลี่ยนผัน พาผู้เขียนกลับมาสู่นครเชียงใหม่ จนกระทั่งได้ฟังเพลง “San Francisco” ในร้านอาหารนี้เอง ชั่วขณะนั้นเวลาในห้วงคิดคำนึงจึงได้หยุดนิ่งอีกครั้ง ตราบจนกระทั่งเสียงดนตรีได้สิ้นสุดลง
For those who come to San Francisco. Be sure to wear some flowers in your hair
If you come to San Francisco. Summertime will be a love-in there
Scott Mc Kenzie
|
บรรณานุกรม
- San Francisco Bay Area Map แหล่งที่มา http://www.sfgate.com/maps/
- History (of San Francisco) แหล่งที่มา http://www.sfgov.org/site/ visitor_index.asp?id =8091
- Street Tree Planting Permitting Process แหล่งที่มา http://www.sfdpw.org/ sfdpw