เมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557 ณ สาขาวิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ดิฉันได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการบูรณาการด้านทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมกับการเรียนการสอน ที่ได้รับเกียรติจาก อาจารย์ ดร. อติชาต เกตตะพันธุ์ ภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ท่านได้บรรยายเรื่อง คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์กับโบราณคดีที่วัดอุโมงค์ ซึ่งวัดอุโมงค์เป็นวัดที่มีความโดดเด่นโดยมีจิตกรรมฝาผนังที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศจะมีอายุราว 500-600 ปี เป็นภาพเล่าเรื่องราวในพุทธศาสนา แต่จิตกรรมฝาผนังวัดอุโมงค์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคืออยู่ในรูปแบบ Wall Paper ที่มีลวดลายซ้ำไปมา และมีลักษณะการโค้งของเพดานในอุโมงค์เป็นแบบโค้งวงรีและโค้งฟังก์ชันยกกำลังซึ่งสามารถเขียนแทนได้ด้วยสมการทางคณิตศาสตร์ ซึ่งวิทยากรได้กล่าวถึงประโยชน์ของการวิจัยทางคณิตศาสตร์ที่มีต่อการศึกษาศิลปะและสถาปัตยกรรมไทย ณ. วัดอุโมงค์ เช่น การเข้าใจการก่อสร้างวัดอุโมงค์ได้ดียิ่งขึ้น การสร้างภาพจำลองสามมิติ การบูรณะปฏิสังขรณ์ ความสำคัญในการทำรางวัด การสรางหุ่นจำลอง (Model) อุโมงค์ และเจดีย์ และการสร้างอุโมงค์จำลองขนาดเท่าของจริง โดยท่านได้จัดกิจกรรมทางคณิตศาสตร์ที่วัดอุโมงค์ หลายอย่าง ได้แก่ 1) การวัดความสูงของเจดีย์ โดยใช้ความรู้ทางเรขาคณิต 2) การวัดความกว้างยาวสูงของแต่ละอุโมงค์ โดยใช้ตลับเมตรและลูกดิ่ง 3) การวัดทิศและมุมของแต่ละอุโมงค์ โดยใช้เข็มทิศและที่วัดมุม 4) การใช้คณิตศาสตร์ช่วยคำนวณหาจำนวนดอกไม้ภายในอุโมงค์ 5) การศึกษาลักษณะความโค้งของเพดานของอุโมงค์ ว่ามีลักษณะใกล้เคียงกับโค้งวงกลม วงรี แครีนารี พาราโบลา หรือฟังก์ชันยกกำลัง หรือไม่ ซึ่งจากการได้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับดิฉันอยากจะบูรณาการด้านทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมกับการเรียนการสอนในวิชา คศ 371 การหาค่าเหมาะที่สุด (Optimization) ซึ่งเป็นวิชาที่เน้นวิธีการทางคณิตศาสตร์มาแก้ปัญหาเพื่อหาค่าที่เหมาะสมที่สุดของปัญหา และเพื่อเป็นการให้นักศึกษาได้ตระหนักถึงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของไทย ซึ่งนักศึกษาสามารถนำวิธีการของการหาค่าเหมาะที่สุดไปใช้ประยุกต์ในการแก้ปัญหาหลายเรื่อง เช่น การวิเคราะห์รายรับ-รายจ่าย ของการจัดงานวันลอยกระทง ต. แม่ลาด จ. กำแพงเพชร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547- 2556 การวิเคราะห์จำนวนผู้เสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ การวิเคราะห์จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวชมศิลปวัฒนธรรมของไทย เป็นต้น