การออกแบบที่จอดรถใต้ดินเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว
ณ มศว. ประสานมิตร
โดย ผศ.จรัสพิมพ์ บุญญานันต์
เมื่อวันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559 ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเยือนมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนอโศกหรือถนนสุขุมวิท 21 อันเป็นทำเลทองแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ สาเหตุก็เนื่องจากได้รับเกียรติให้เข้าร่วมเป็นกรรมการคัดเลือกอาจารย์ดีเด่นแห่งชาติประจำปี พ.ศ. 2559 ในสาขามนุษยศาสตร์และศิลปศาสตร์ แต่ที่จะมาเล่าวันนี้ไม่ใช่เรื่องภารกิจที่กล่าวมาแล้วแต่อย่างใด หากแต่เป็นเรื่องของการแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาดของผู้บริหารมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ในเรื่องของการจัดการที่จอดรถและภูมิทัศน์ภายในมหาวิทยาลัย
ผู้เขียนเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒโดยรถยนต์ เนื่องจากเป็นช่วงเช้าวันเสาร์ดังนั้นสภาพการจราจรจึงไม่ติดขัดมากนัก เมื่อรถเลี้ยวเข้าไปในมหาวิทยาลัยก็ต้องแปลกใจที่มีอุโมงค์ลอดลงไปชั้นใต้ดิน ในใจก็ลังเลว่าตนเองเข้ามาผิดทางหรืออย่างไร แต่เมื่อสอบถามพนักงานที่ตู้รับบัตร จึงทราบว่าที่นี่แหละพื้นที่จอดรถของมหาวิทยาลัยถูกต้องแล้ว หลังจากได้หาที่จอดเรียบร้อยแล้วจึงค้นพบว่าตนเองได้เข้ามาอยู่ภายในที่จอดรถใต้ดินขนาดใหญ่ มีถึงสองชั้น จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ก็ได้ทราบคำตอบว่าที่จอดรถแห่งนี้สามารถจอดรถได้ถึงกว่า 400 คัน สร้างเสร็จประมาณปี พ.ศ. 2553 ผู้เขียนได้มีโอกาสถ่ายรูปมาให้ท่านทั้งหลายได้ชมเป็นกรณีศึกษาสำหรับการออกแบบที่จอดรถใต้ดินในพื้นที่ซึ่งต้องการพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่
ที่จอดรถแห่งนี้ด้านบนออกแบบให้เป็นสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ สำหรับทางเข้าออกของรถยนต์ลงไปสู่ชั้นใต้ดินนั้นมีสองทิศทาง คือจากทางเข้าด้านหน้ามหาวิทยาลัย เรียกได้ว่า เลี้ยวรถเข้ามาก็ต้องลอดอุโมงค์ลงสู่ที่จอดรถกันเลย กับอีกทางหนึ่งเข้ามาจากภายในของมหาวิทยาลัยเอง นอกจากนี้ยังมีบันไดทางขึ้นลงซึ่งเป็นทางเดินเท้าเชื่อมต่อกับที่จอดรถจากสี่ทิศ และมีลิฟท์รวมไปถึงทางลาดสำหรับผู้พิการอีกด้วย ด้านหนึ่งของพื้นที่จัดให้เป็นอาคารพาณิชย์เรียงแถวด้านบนปกคลุมไว้ด้วย สวนหลังคาซึ่งปูสนามหญ้าสีเขียวเชื่อมต่อกับสนามฟุตบอล แสงสามารถส่องลงไปสู่ชั้นใต้ดินได้โดยการทำช่องแสงด้วยบลอคแก้ว (glass block) เรียงเป็นแถวอยู่ด้านหนึ่ง แต่อย่างไรก็ดีสภาพโดยรวมของบริเวณใต้ดินนั้นค่อนข้างมืดต้องอาศัยแสงไฟฟ้าประดิษฐ์เป็นส่วนใหญ่เรียกได้ว่าต้องใช้พลังงานไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมงก็ว่าได้ ดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงนับว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือสามารถที่จะสร้างพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่สำหรับบุคลากรและนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัย สำหรับทำกิจกรรม ทั้งพักผ่อน เล่นกีฬา เป็นพื้นที่เปิดโล่งสีเขียวขนาดใหญ่ที่ไร้ซึ่งรถรามาวิ่งให้เกิดมลภาวะ แต่ในขณะเดียวกันข้อเสียก็คือก็ต้องสูญสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้ามากพอสมควร เพื่อใช้สำหรับระบบไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ และระบบสูบน้ำกรณีที่ฝนตก ด้วยเหตุนี้ทางมหาวิทยาลัยจึงมีการเก็บค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ที่ใช้บริการจอดรถใต้ดิน ผู้เขียนได้ถ่ายภาพมาฝากที่จอดรถใต้ดินแห่งนี้มาฝากท่านผู้อ่านหลายภาพ จะได้นำเสนอดังต่อไปนี้
ภาพที่ 1 ภาพสามมิติ แสดงผังบริเวณของมหาวิทยาลัย จะสังเกตเห็นสนามฟุตบอล ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่จอดรถใต้ดิน ลึกลงไปถึง 2 ชั้น
ภาพที่ 2 สนามฟุตบอล ภายใต้เป็นที่จอดรถ อยู่ท่ามกลางอาคารสูงภายในมหาวิทยาลัย
ภาพที่ 3 บันไดทางขึ้นลงเชื่อมต่อทางเดินเท้ากับที่จอดรถใต้ดิน ตั้งประจำทั้งสี่ทิศ
ภาพที่ 4 ลิฟท์และทางลาดสำหรับให้บริการผู้พิการและการขนของ ณ จุดขึ้นลงที่จอดรถ
ภาพที่ 5 สภาพทั่วไปภายในที่จอดรถ ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าให้แสงสว่างตลอดเวลา
ภาพที่ 6 มีการใช้บลอกแก้วมาที่หลังคา (บริเวณที่ติดผนัง) เพื่อให้แสงธรรมชาติลอดลงมาใต้ดิน
ภาพที่ 7 ลักษณะการใช้บลอกแก้วบริเวณทางเดินเท้า เพื่อให้แสงธรรมชาติลอดลงไปใต้ดิน
ภาพที่ 8 ด้านหนึ่งของพื้นที่ ออกแบบให้เป็นอาคารพาณิชย์และลานเอนกประสงค์
ภาพที่ 9 ส่วนด้านหน้าของพื้นที่อาคารพาณิชย์ ลดระดับจากลานเอนกประสงค์ และทางเดินโดยรอบ
ภาพที่ 10 บันไดและทางลาด เชื่อมโยงลานเอนกประสงค์และอาคารพาณิชย์ กับทางเดินเท้าและอาคารเรียนใกล้เคียง
ภาพที่ 11 บนหลังคาของอาคารพาณิชย์ ทำเป็นสวนหลังคา ปูหญ้าเชื่อมโบงกับสนามฟุตบอลที่อยู่เหนือที่จอดรถ
ภาพที่ 12 ด้านหลังของอาคารพาณิชย์ เชื่อมต่อกับที่จอดรถใต้ดิน
ภาพที่ 13 รางระบายน้ำโดยรอบ (เริ่มมีการชำรุด)
ภาพที่ 14 อุโมงรถยนต์ที่เชื่อมไปยังที่จอดรถใต้ดิน จากภายในมหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ
ภาพที่ 15 ปิดท้ายด้วยภาพน้องหมาเจ้าถิ่นนอนพักผ่อนอย่างสบาย
ผู้เขียนก็ขอจบเรื่องราวไว้ที่ภาพน้องหมาน้อยตัวนี้ก็แล้วกัน หวังว่าบทความสั้นๆนี้จะเป็นกรณีศึกษาที่มีประโยชน์ สำหรับนักศึกษา คณาจารย์ และฝ่ายบริหารต่อไป