ปรัชญาการศึกษาของมหาวิทยาลัยแม่โจ้และ Life-long learnings
เสนอโดย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุเนตร สืบค้า
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมเกษตร
คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
เนื่องจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ยังไม่เคยประกาศปรัชญาการศึกษาของมหาวิทยาลัยออกมาให้ประชาคมรับรู้ มีแค่เพียงวาทะโอวาทที่ประกาศและเป็นที่รับรู้ของประชาคมทั่วไป คือ “งานหนักไม่เคยฆ่าคน” ถอดเป็นความหมายได้ว่า งานที่ยากลำบาก ปริมาณเยอะ ความกดดันสูง หรืองานที่ต้องใช้เวลามาก เมื่อยิ่งทำ ยิ่งแต่จะได้ผลประโยชน์แก่ตนเอง ได้เงิน ได้งาน และได้ความรู้ บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ส่วนใหญ่จึงมีนิสัยสู้งาน ไม่เกี่ยงงาน (เมื่อเทียบกับบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยใหญ่ ๆ) งานใดที่ยากลำบาก มีความกดดันหรือความเครียดสูง ก็จะไม่ท้อถอย มีความมานะอดทนสูงยิ่ง นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยแม่โจ้อาจจะมีวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ และทรัพยากรทางการศึกษาอื่น ๆ ไม่สมบูรณ์พร้อมเท่ามหาวิทยาลัยใหญ่ ๆ ภาวะขาดแคลนเช่นนี้มักสร้างคนให้มีคุณภาพและมีสมรรถนะสูง เนื่องจากต้องพยายามคิด สร้างสรร ประยุกต์ เพื่อหาวิธีในการแก้ปัญหา ชดเชยภาวะขาดแคลนนั้น คุณลักษณะเช่นนี้ของบัณฑิตมหาวิทยาลัยแม่โจ้จึงเกิดจากวิถีชีวิตในมหาวิทยาลัย หล่อหลอมให้กลายเป็นบัณฑิตที่มีความมานะอดทนและเข้มแข็งในการทำงาน หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า เป็นบัณฑิตประเภท “ไม่เคยตาย เพราะงานหนัก” ซึ่งหลักสูตรเราถอดออกมาเป็นปรัชญาการศึกษา มีวัตถุประสงค์ และส่วนอื่น ๆ ดังนี้
ปรัชญาการศึกษาของหลักสูตร: ผลิตมหาบัณฑิตให้สร้างองค์ความรู้ด้านการเกษตรหรือที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีคุณธรรมและจรรยาบรรณในวิชาชีพ เพิ่มศักยภาพวิถี เกษตรไทยสู่สากล
วัตถุประสงค์ของการศึกษา: เพื่อผลิตมหาบัณฑิตที่มีคุณสมบัติดังนี้ 1. สามารถประกอบอาชีพเป็นนักวิชาการและวิชาชีพที่มีความรู้และความสามารถได้ 2. สามารถสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการ ตลอดจนเชื่อมโยงและบูรณาการ ศาสตร์ที่เชี่ยวชาญกับศาสตร์อื่นได้อย่างต่อเนื่อง และ 3. มีคุณธรรมและจริยธรรมเหมาะสมกับสถานภาพของมหาบัณฑิตทุกประการ
บทบาทหน้าที่ของผู้สอนและผู้เรียน: ผู้สอนมีบทบาทเป็นผู้อำนวยความสะดวก (Infrastructure) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง ด้วยการกระตุ้นผู้เรียน จัดบรรยากาศการเรียนรู้ให้เหมาะสม และมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เรียน สำหรับผู้เรียนจะต้องมีบทบาทในกระบวนการกลุ่ม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียนและผู้สอน กระตือรือร้นในการเรียน เชื่อมโยงความรู้ และสร้างสรรค์ความรู้ด้วยตนเอง
เนื้อหาและกลยุทธ์ในการสอน: กลยุทธ์ในการสอนมีทั้งการพัฒนาด้านพุทธิพิสัย (Cognitive domain) หรือความรู้ (Knowledge) ด้านทักษะพิสัย (Psychomotro) และจิตพิสัย (Affective domain) หรือทัศนคติ (Attitude)
Life-long Learnings
หลักสูตรได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong learner) ตาม European Reference Framework จาก อาจารย์ ดร.ชนันท์ภัสร์ ราษฎร์นิยม คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร หลังจากนั้นหลักสูตรจึงได้พยายามวางกิจกรรมทั้งในและนอกรายวิชาเข้าตามเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งอันที่จริงหลักสูตรก็จัดอยู่แล้วเพื่อบ่มเพาะให้นักศึกษามีความใฝ่รู้ หมั่นแสวงหาความรู้อยู่เสมอ เพื่อส่งเสริมให้เป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong learner) ผ่านรายวิชาและกิจกรรมนอกชั้นเรียน แต่อย่างไรก็ตามหลังจากการประเมินการประกันคุณภาพระดับหลักสูตรไปเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2563 คณะกรรมการตรวจประเมินประกัน แนะนำว่า ควรแนะ Key Competency กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่แสดงพฤติกรรมชัดเจนของบัณฑิตของหลักสูตร ทั้งนี้ Key Competency ผ่านการขับเคลื่อนกิจกรรมในและ/หรือนอกรายวิชามีดังต่อไปนี้
Level
|
Key Competency
|
กิจกรรมใน/นอกรายวิชา
|
L1
|
Communication in mother tongue
|
หลักสูตรมีการพัฒนา “ทักษะการสื่อสารภาษาไทย (การเขียน การอ่าน การพูด และการฟัง)” ในทุกรายวิชา เพื่อให้นักศึกษามีทักษะที่ดี สื่อสารได้ดี เขียนได้ชัดเจน และรับฟังอย่างมีวิจารณญาณ
|
L2
|
Communication in foreign language
|
หลักสูตรฯ มีการพัฒนา “ทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ (การเขียน การอ่าน การพูด และการฟัง)” เพื่อให้นักศึกษามีทักษะที่ดี ฟังและพูดโต้ตอบได้ อ่านรู้เรื่อง และเขียนพอได้
|
L3
|
Mathematics competences and basic science and technology
|
หลักสูตรมีกิจกรรมที่พัฒนาและส่งเสริม “สมรรถนะด้านคณิตศาสตร์ และพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” ผ่าน
รายวิชาหรือกิจกรรมของหลักสูตร
|
L4
|
Digital competence
|
หลักสูตรควรมีกิจกรรมที่พัฒนาและส่งเสริม “สมรรถนะการใช้ดิจิทัล” ผ่านรายวิชา / กิจกรรมของหลักสูตร
|
L5
|
Learning to learn
|
หลักสูตรมีกิจกรรมที่พัฒนาและส่งเสริม “การเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง” ผ่านรายวิชาและกิจกรรม
|
L6
|
Social and civic competence
|
หลักสูตรมีกิจกรรมเพื่อพัฒนาและส่งเสริม “ความเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม” เช่น การอยู่ในกฏระเบียบของสังคม การไม่ทำตัวเป็นภาระของสังคม และมีจิตสาธารณะ
|
L7
|
Sense of initiative and entrepreneurship
|
หลักสูตรควรมีกิจกรรมที่พัฒนาและส่งเสริม “ความคิดริเริ่มและความเป็นผู้ประกอบการ” ผ่านรายวิชาที่ผู้เรียนต้องสามารถบริหารจัดการแหล่งความรู้เพื่อนำมาใช้แก้ปัญหาทางวิชาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนให้ผู้เรียนเชื่อมั่นในพลังสมอง/สติปัญญา (Brain power) ของตนเองต่อการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ด้วยการพานักศึกษาไปทัศนศึกษาดูงานจริง ๆ ที่ เพื่อสร้างบันดาลใจในการเป็นผู้ประกอบการ
|
L8
|
Cultural awareness and expression
|
หลักสูตรควรมีการบ่มเพาะให้บัณฑิตมีการตระหนักรู้ในวัฒนธรรมและการแสดงออกดังต่อไปนี้
- การไม่สร้างข้อมูลเท็จ (Make up data) ส่งเสริมเป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม มีจรรยาบรรณวิชาชีพ และเป็นพลเมืองดีของสังคม
- การอ้างอิงผลงานทางวิชาการของผู้อื่น ส่งเสริมจรรยาบรรณทางวิชาชีพ
- การนำความรู้ในห้องเรียนไปประยุกต์กับภูมิปัญญาชาวบ้านในระหว่างการออกบริการวิชาการแก่สังคม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังคงอนุรักษ์สิ่งที่ดีงามไว้
|