ตามนโยบายและแนวทางในการกำกับมาตรฐานความปลอดภัยห้องปฏิบัติการของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้กำหนดมาตรฐานการวิจัยไว้หลายด้าน ได้แก่ มาตรฐานการวิจัยในมนุษย์ มาตรฐานการดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ มาตรฐานความปลอดภัยทางชีวภาพ มาตรฐานจริยธรรมสำหรับผู้ประเมินโครงการวิจัย ผลงานทางวิชาการและผลงานวิจัย มาตรฐานการเผยแพร่ผลงานวิจัยและผลงานทางวิชาการ จริยธรรมนักวิจัย และมาตรฐานความปลอดภัยห้องปฏิบัติการ
มาตรการส่งเสริมให้เกิดการยกระดับความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการของ วช. จะใช้กลไกการจัดสรรทุนวิจัย คือ การกำหนดให้มีการลงทะเบียนห้องปฏิบัติการ และให้แนบเอกสารความปลอดภัยทุกครั้ง เพื่อประกอบการพิจารณาการขอทุนวิจัย ดังนั้นห้องปฏิบัติการจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้เองและเพื่อขอทุนวิจัยในอนาคต โดย วช. ได้แนะนำเครื่องมือในการบริหารจัดการความปลอดภัยห้องปฏิบัติการ มีดังนี้
1. ENoP ฐานข้อมูลความรู้และเผยแพร่กิจกรรมด้านมาตรฐานความปลอดภัยห้องปฏิบัติการ
(http://labsafety.nrct.go.th/)
2. ESPReL ฐานความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาความปลอดภัยห้องปฏิบัติการ เพื่อใช้เป็นแหล่งสืบค้นข้อมูล ประชาสัมพันธ์การจัดการประชุม อบรม และแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ (http://esprel.labsafety.nrct.go.th/home.asp)
วิธีการใช้งาน ESPReL ฐานความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาความปลอดภัยห้องปฏิบัติการ
ข้อควรปฏิบัติ
1) อ่านคำอธิบายการกรอก checklist เพื่อให้ทราบขอบเขต วัตถุประสงค์ และความหมายของแต่ละข้อกำหนดที่จะใช้ในการสำรวจสถานภาพให้ชัดเจน
2) สมาชิกให้ห้องปฏิบัติการทุกระดับควรประชุมทำความเข้าใจ และลงความเห็นร่วมกันในการตอบคำถามแต่ละข้อ แล้วจึงลงบันทึกข้อมูลในเวปไซต์
การใช้งาน ESPReL
1) ลงทะเบียน ESPReL checklist ได้ที่ http://esprel.labsafety.nrct.go.th/home.asp ซึ่งเป็นฐานความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาความปลอดภัยห้องปฏิบัติการ เพื่อใช้เป็นแหล่งสืบค้นข้อมูล ประชาสัมพันธ์การจัดการประชุม อบรม และแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ
2) กรอกข้อมูลที่เป็นความจริง ทีละข้อใน checklist
3) ดูการประเมินผลในรายงาน โดยจะแสดงออกมาเป็นคะแนน และกราฟเส้นหรือกราฟแท่ง
4) การประเมินผลในแต่ละครั้งจะถูกบันทึกข้อมูลไว้ และนำมาเปรียบเทียบกับการ checklist ครั้งล่าสุด ซึ่งจะทำให้ห้องปฏิบัติทราบถึงการพัฒนาที่เกิดขึ้น
การใช้ ESPReL checklist จึงเป็นการยกระดับห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ให้มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยตามเกณฑ์กำหนดของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยเริ่มประเมินสถานภาพห้องปฏิบัติการ โดยใช้เครื่องมือ ESPReL , วิเคราะห์ผล Gap analysis และวางแผนกิจกรรมยกระดับความปลอดภัย ตามความสำคัญ งบประมาณ และระยะเวลา
ประโยชน์จากการทำ ESPReL Checklist
1) ทำให้ผู้ใช้ตระหนักถึงความปลอดภัยเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการ
2) ได้สำรวจสถานภาพความปลอดภัยห้องปฏิบัติการด้วยตนเอง
3) ทราบถึงสภานภาพองค์ประกอบความปลอดภัย ทราบจุดแข็ง จุดอ่อนในแต่ละองค์ประกอบ
4) ได้แนวทางการพัฒนากิจกรรมเพื่อยกระดับความปลอดภัยที่เหมาะสม
3. ChemInvent ระบบจัดการข้อมูลสารเคมี (http://cheminvent.labsafety.nrct.go.th/)
เป็นโปรแกรมที่สามารถจัดการข้อมูลของสารเคมี ทั้งชนิด ปริมาณนำเข้า ปริมาณคงเหลือ สถานที่เก็บ ค่าใช้จ่าย และข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมี รองรับการใช้งานได้หลากหลาย โดยผู้ใช้งานสามารถ เพิ่ม/ลด/ปรับปรุง ข้อมูลสารเคมีได้เอง
1) เข้าสู่โปรแกรม ChemInvent ได้ที่ http://cheminvent.labsafety.nrct.go.th/
2) เข้าสู่เมนูหลัก กรอกรายละเอียดข้อมูลสารเคมีให้ครบถ้วน
3) สามารถพิมพ์ 1D Barcode หรือ 2D Barcode ติดข้างดวด เพื่อใช้ตรวจสอบคุณสมบัติของสารเคมีขวดดังกล่าวได้
ประโยชน์ของโปรแกรม ChemInvent
1) สามารถจัดการข้อมูลของสารเคมี ทั้งชนิด ปริมาณที่นำเข้า ปริมาณคงเหลือ สถานที่เก็บ ค่าใช้จ่าย ตลอดจนข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมี
2) มีระบบการบันทึกและจัดเก็บข้อมูลซึ่งสามารถใช้งานได้บนระบบออนไลน์
3) สามารถตรวจสอบและติดตามความเคลื่อนไหวของข้อมูลสารเคมีต่างๆได้ตลอดเวลา
4) สามารถออกรายงานสรุปการใช้งานโปรแกรมและข้อมูลสารเคมีได้
4. NRMS การบริการจัดการเกี่ยวกับมาตรการจัดสรรทุนวิจัยที่เกี่ยวกับความปลอดภัยห้องปฏิบัติการ (http://www.nrms.go.th/)