การประเมินค่างานของบุคลากรสายสนับสนุนผู้ปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการ
การกำหนดกรอบตำแหน่ง เป็นการกำหนดตำแหน่งและจำนวนตำแหน่งที่พึงมีในแต่ละหน่วยงาน ที่มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับภารกิจของหน่วยงาน ดังนี้ (1)ต้องเป็นตำแหน่งที่กำหนดไว้ในมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง ซึ่งคำนึงถึงลักษณะงานที่กำหนดไว้ในมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง, ระดับความรับผิดชอบต่องานในด้านการตัดสินใจ ด้านการบังคับบัญชา ด้านความอิสระในการปฏิบัติงานรวมถึงด้านผลกระทบต่างๆของงาน, ระดับความยากง่ายของงานคือเป็นคุณภาพของงานที่พิจารณาจากความรู้ ประสบการณ์ แนวทางในการทำงาน ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความยุ่งยากซับซ้อนของงาน และความหลากหลายของงาน
(2)ไม่มีผลให้มีการเพิ่มงบประมาณหมวดเงินเดือนและค่าจ้าง
(3)ไม่มีผลทำให้อัตรากำลังเพิ่มขึ้น
(4)ต้องคำนึงถึงความมีประสิทธิภาพ ความไม่ซ้ำซ้อนและความประหยัด เพื่อให้สามารถกำหนดกรอบตำแหน่งได้อย่างถูกต้อง เป็นธรรม และสอดคล้องกับภารกิจของหน่วยงาน
การวิเคราะห์งาน Job Analysis เป็นการศึกษาลักษณะงาน ขอบเขต หน้าที่ ความรับผิดชอบ ซึ่งประกอบด้วย
1)การวิเคราะห์โครงสร้าง ภารกิจ ความสัมพันธ์ของตำแหน่ง
๒)การวิเคราะห์ลักษณะงาน หน้าที่ความรับผิดชอบ เป็นการวิเคราะห์กระบวนการทำงาน ขั้นตอนและวิธีการทำงาน ลักษณะงานที่ปฏิบัติ
๓)วิเคราะห์คุณภาพและความยุ่งยากซับซ้อนของงาน เช่นระดับความรับผิดชอบ ระดับการตัดสินใจ ระดับของผลกระทบ ระดับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในงาน ซึ่งเป็นการพิจารณาจาดผลการปฏิบัติงานจริง ได้แก่หน้าที่ความรับผิดชอบ/ขอบเขตของงานตามตำแหน่ง และคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาปฏิบัติงานในตำแหน่ง เป็นต้น
การประเมินค่างาน Job Evaluation เป็นเทคนิคหรือวิธีการที่ใช้ในการกำหนดตำแหน่งที่มีความยากง่าย/คุณภาพต่างๆ และอัตราการจ่ายค่าตอบแทนสำหรับผู้ปฏิบัติงาน “ไม่ใช่ประเมินตัวบุคคล และ ไม่ใช่วัดเชิงปริมาณงาน” เพื่อให้หน่วยงานสามารถกำหนดโครงสร้างได้อย่างเป็นระบบ มีความสมเหตุสมผล มีมาตรฐานและเป็นธรร
- หลักเกณฑ์การประเมินค่างาน Get Started เป็นการประเมินที่ต้องคำนึงถึง 5 ข้อ
1.วิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ขององค์กร
2.หลักเกณฑ์การประเมินค่างาน
3.มาตรฐานกำหนดตำแหน่ง
4.ภาระงานของตำแหน่ง
5.แบบประเมินค่างาน
- หลักเกณฑ์การประเมินค่างานสำหรับระดับชำนาญงาน ชำนาญงานพิเศษ ชำนาญการ และชำนาญการพิเศษ มีองค์ประกอบดังนี้
1.หน้าที่ความรับผิดชอบ (30คะแนน)
2.ความยุ่งยากของงาน (30คะแนน)
3.การกำกับตรวจสอบ (20คะแนน)
4.การตัดสินใจ (20คะแนน)
*ระดับชำนาญการ ต้องได้ 64 คะแนนขึ้นไป **ระดับชำนาญการพิเศษ ต้องได้ 84 คะแนนขึ้นไป
- หลักเกณฑ์การประเมินค่างานสำหรับระดับเชี่ยวชาญ และระดับเชี่ยวชาญพิเศษ มีองค์ประกอบดังนี้
1.ด้านความรู้และความชำนาญงาน (20คะแนน)
2.ด้านการบริหารจัดการ (20คะแนน)
3.ด้านการติดต่อสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ (20คะแนน)
4.ด้านกรอบแนวคิดในการแก้ปัญหา (20คะแนน)
5.ด้านอิสระในการคิด (20คะแนน)
6.ด้านความท้าทายในการแก้ปัญหา (20คะแนน)
7.ด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (20คะแนน)
8.ด้านอิสรภาพในการปฏิบัติงาน (20คะแนน)
9.ด้านผลกระทบจากการปฏิบัติงาน (20คะแนน)
10.ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติของตำแหน่ง (20คะแนน)
รวม 300 คะแนน
*ระดับเชี่ยวชาญ ต้องได้ 170 คะแนนขึ้นไป **ระดับเชี่ยวชาญพิเศษ ต้องได้ 235 คะแนนขึ้นไป
เทคนิคการเขียนประเมินค่างาน มีคำสำคัญในการเขียนประเมินค่างาน ได้แก่ ความยาก(ของงาน), ความยุ่งยากซับซ้อน(ของงาน), ความหลากหลาย(ของงาน), การควบคุม, การกำกับ, ตรวจสอบ และคุณภาพ เป็นต้น ซึ่งมีตัวอย่างแบบฟอร์มดังภาพ หรือสามารถติดต่อสอบถามผู้บรรยาย คุณปัทมา จักษุรัตน์ ได้ที่ 089-555666-1 หรือ jaksurat.p@gmail.com