การเตรียมเอนไซม์อาหารสัตว์จากก้อนเพาะเห็ดเก่า เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ได้ของอาหารสัตว์เศรษฐกิจในท้องถิ่น
วันที่เขียน 13/9/2562 14:30:11     แก้ไขล่าสุดเมื่อ 27/4/2567 8:28:00
เปิดอ่าน: 2240 ครั้ง

ก้อนเห็ดหมดอายุเป็นแหล่งของเอนไซม์ กลุ่มย่อยโพลิแซคคาไรด์หลายชนิดที่นำมาใช้เป็นเอนไซม์เสริมในอาหารสัตว์ได้ และจากผลวิเคราะห์ค่ากิจกรรมเอนไซม์ย่อยโพลีแซคคาไรด์ในก้อนเห็ดหมดอายุ 4 ชนิด ได้แก่ เห็ดยานางิ เห็ดนางฟ้า เห็ดขอนขาว และเห็ดลม พบว่า ก้อนเห็ดลมมีกิจกรรมของเอนไซม์เหลือมากที่สุด คือ เซลลูเลส 5.48 อะมัยเลส 5.20 แมนนาเนส และไซลาเนส 16.07 ยูนิต/กรัม น้ำหนักแห้ง และพบว่าการสกัดด้วยระบบวนชะสามารถสกัดเอนไซม์ได้ดีกว่าการสกัดแบบครั้งคราว อัตราการไหล 8 มล./นาที 2 รอบ สกัดเอนไซม์รวมได้ 31.29 ยูนิต/กรัม น้ำหนักแห้ง เอนไซม์หยาบที่ผลิตได้นี้สามารถย่อยพื้นผิวของแกลบได้ ดังนั้นคาดว่าน่าจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในแง่ของการเสริมในอาหารสัตว์เพื่อเพิ่มการย่อยได้ของสัตว์

การเตรียมเอนไซม์อาหารสัตว์จากก้อนเพาะเห็ดเก่าเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ได้ของอาหารสัตว์เศรษฐกิจในท้องถิ่น

           เอนไซม์มักจะนิยมเสริมในอาหารสัตว์ เพื่อให้สัตว์มีสมรรถนะการเจริญที่ดี ช่วยเพิ่มค่าการย่อยได้ของอาหาร (digestibility)  ทำให้สัตว์สามารถดูดซึมสารอาหารไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น และช่วยกำจัดสารต้านโภชนะ (antinutritional factors) ที่ก่อผลเสียต่อการเจริญของสัตว์ได้อีกด้วย มีรายงานวิจัยที่ยืนยันถึงประโยชน์จากการเสริมเอนไซม์ลงไปในอาหารสัตว์เพื่อปรับปรุงสมรรถนะการเจริญของสัตว์เลี้ยง (Marquardt et al., 1996; Alam et al., 2003; Vahjen et al., 2005) ได้แก่ เอนไซม์ xylanase  beta-mannanase  beta-glucanase cellulase protease และ phytase เป็นต้น  ซึ่งส่วนใหญ่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ  ดังนั้นการแสวงหาแหล่งเอนไซม์หาได้ง่าย ราคาถูก จึงควรนำมาศึกษาแนวทางที่จะช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ทุกระดับลดค่าใช้จ่ายได้

        ก้อนเพาะเห็ดที่ผ่านการใช้งานและหมดอายุแล้ว (spent mushrooms) สามารถใช้เป็นแหล่งเอนไซม์อาหารสัตว์ในกลุ่มที่ย่อยสารโพลิแซคคาไรด์ (polysaccharide-degrading enzymes) ได้ ดังนั้นการวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อสำรวจปริมาณเอนไซม์อาหารสัตว์ที่เหลืออยู่ในก้อนเพาะเห็ดที่หมดอายุ โดยเน้นเอนไซม์กลุ่มย่อยโพลิแซคคาไรด์เป็นสำคัญ  รวมทั้งศึกษากระบวนการสกัดเอนไซม์อย่างง่ายแต่มีประสิทธิภาพ เพื่อเกษตรกรสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างสะดวก และสามารถผลิตเอนไซม์ใช้เองได้ ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือทิ้งการเกษตร และลดปัญหาสิ่งแวดล้อม

ผลการทดลองและวิจารณ์ผลจากงานวิจัย 

  •  ผลการเลือกก้อนเห็ดเตรียมเอนไซม์  ก้อนเห็ดลมมีเอนไซม์ย่อยโพลิแซคคาไรดเหลือสูงสุด รวมเอนไซม์ทั้งหมด 42.74 ยูนิต/กรัม น้ำหนักแห้ง  ก้อนเห็ดเห็ดยานางิ มีเอนไซม์เหลืออยู่น้อยที่สุด 4 ยูนิต/กรัม น้ำหนัก
  •  การเปรียบเทียบระบบสกัดเอนไซม์  การสกัดด้วยน้ำเปล่าและสารละลายSodium phosphate buffer ให้ผลได้ (yield) ของเอนไซม์ที่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
  • ผลของอัตราการไหลในระบบต่อปริมาณเอนไซม์ การสกัดแบบวนชะสามารถสกัดเอนไซม์ได้ดีกว่าการสกัดแบบครั้งคราว ด้วยอัตราการไหล 8 ml/ min  สามารถสกัดเอนไซม์ได้ดีที่สุด
  • ผลของจำนวนรอบที่มีต่อปริมาณเอนไซม์ การวนชะ จำนวน 2 รอบ สามารถสกัดเอนไซม์ได้ดีที่สุด
  • การทดสอบย่อยพื้นผิวแกลบด้วยเอนไซม์หยาบ  ลักษณะสัณฐานภายใต้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน พื้นผิวทั้งภายในและภายนอกของแกลบหยาบ มีลักษณะคล้ายถูกกัดกร่อน แสดงถึงการถูกย่อยโดยเอนไซม์

     ปริมาณเอนไซม์ที่สกัดได้เป็นที่น่าพึงพอใจ และเอนไซม์อะมัยเลส ถูกสกัดออกมาน้อยมากเมื่อใช้อัตราการไหลที่ต่ำ เอนไซม์ชนิดอื่นๆ มีความแตกต่างของผลได้เพียงเล็กน้อย อาจมีสาเหตุในระดับโครงสร้างโมเลกุลของเอนไซม์ที่ส่งผลต่อการจับ (affinity) บนอนุภาคก้อนเห็ด ดังนั้นจึงคาดว่าแกลบที่ผ่านการย่อยด้วยเอนไซม์จากก้อนเห็ดหมดอายุเหล่านี้ น่าจะมีค่าการย่อยได้สูงขึ้น และถูกนำไปใช้โดยสัตว์มากขึ้น

สรุปผล  

        ก้อนเห็ดลมหมดอายุ มีเอนไซม์กลุ่มย่อยโพลิแซคคาไรด์หลงเหลือสูงที่สุด มีเอนไซม์รวม 42.74 ยูนิต/กรัม น้ำหนักแห้ง และมีเอนไซม์เซลลูเลส  5.475 อะมัยเลส แมนนาเนส 15.991 และไซลาเนส 16.073 ยูนิต/กรัม น้ำหนักแห้ง ในขณะที่ก้อนเห็ดหมดอายุ ยานางิ มีเอนไซม์น้อยที่สุด 10 ยูนิต /กรัม น้ำหนักแห้ง และการสกัดเอนไซม์โดยใช้ระบบวนชะสามารถสกัดได้มากกว่าการสกัดแบบครั้งคราว มีอัตราการไหลที่ระดับ 8 มล./นาที เป็นระดับที่ดีที่สุดในการสกัด และยังพบว่าเอนไซม์ที่เตรียมจากก้อนเห็ดลม มีศักยภาพที่จะนำไปใช้เสริมในอาหารสัตว์เพื่อเพิ่มการย่อยได้ของสัตว์ต่อไป

 

เอกสารอ้างอิง  

Alam, M.J., M.A.R. Howider, M.A.H. Pramanik and M.A. Haque. 2003. Effect of exogenous enzyme in diet on broiler performance. International Journal of Poultry Science 2: 168-173.

Marquardt, R.R., A. Brenes, Z. Zhang and D. Boros. 1996. Use of enzymes to improve nutrient availability in poultry feedstuffs. Animal Feed Science and Technology 60: 321- 330.

Vahjen, W., T. Busch and O. Simon. 2005. Study on the use of soya bean polysaccharide degrading enzymes in broiler nutrition. Animal Feed Scienceand Technology 120: 259-276.


ความคิดเห็นทั้งหมด (0)
ไม่มีข้อมูลตามเงื่อนไขที่ท่านกำหนด
รายการบทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้หมวดหมู่ : กลุ่มงานช่วยวิชาการ
สรุปรายงานจากการอบรม » การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการอ่านลำดับสายยาวด้วย oxford nanopore sequencing
ทคโนโลยี nanopore เป็นเทคโนโลยีการหาลำดับ DNA และ RNA แบบสายยาวต่อเนื่อง โดยไม่ต้องใช้กระบวนการสังเคราะห์ DNA ต้นแบบ ไม่ทำต้องปฏิกิริยา PCR จึงทำให้การวิเคราะห์ลำเบสต่างๆมีความแม่นยำ รวดเร็ว และประ...
DNA sequencing, nanopore technology     กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร   กลุ่มงานช่วยวิชาการ
ผู้เขียน วริศรา สุวรรณ  วันที่เขียน 17/4/2567 14:00:14  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 27/4/2567 3:28:17   เปิดอ่าน 24  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง
พัฒนาตนเอง-นงคราญ » “การผลิตคราฟต์เบียร์ ขนาด 20 ลิตร"
จากการเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร “อุดมคติ On Tour" เรื่องหัวข้อ “การผลิตคราฟต์เบียร์ ขนาด 20 ลิตร วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ได้รับความรู้เกี่ยวกับการผลิตคราฟต์เบียร์ ...
กลุ่มงานช่วยวิชาการ  การผลิตคราฟต์เบียร์  เบียร์ (ฺBeer)  พัฒนาตนเอง  อบรม  อบรมเชิงปฏิบัติการ     กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร   กลุ่มงานช่วยวิชาการ
ผู้เขียน นงคราญ พงศ์ตระกุล  วันที่เขียน 9/1/2567 14:47:56  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 27/4/2567 0:49:37   เปิดอ่าน 725  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง
การประชุมวิชาการระดับชาติ » งานประชุมวิชาการระดับชาติประจำปี 2566 เรื่อง นวัตกรรมเกษตรอาหาร และสุขภาพ
จากการได้เข้าร่วมประชุมวิชาการระดับชาติซึ่งการจัดการประชุมเพื่อส่งเสริมให้บุคลากรทางการศึกษา วิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านการเกษตร อาหาร สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน...
  กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร   กลุ่มงานช่วยวิชาการ
ผู้เขียน ภานรินทร์ ปรีชาวัฒนากร  วันที่เขียน 4/1/2567 14:54:51  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 26/4/2567 14:57:03   เปิดอ่าน 134  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง