การวิเคราะห์ข้อมูลเทคนิค Predictive Modeling เพื่อสนับสนุนการวิจัยเชิงประยุกต์โดยซอฟต์แวร์ RapidMiner Studio 7 และ R (ขั้นปานกลางและสูง)
ตัวอย่างหน้าจอโปรแกรม Rapidminer7
(ที่มา: https://docs.rapidminer.com/studio/releases/img/rm7_process.png)
ตัวอย่างหน้าจอ R-studio
(ที่มา: http://www.rstudio.com/images/screenshots/rstudio-windows.png)
ซึ่งเทคนิคการจำแนกประเภทข้อมูลหรือที่เรียกว่า Predictive Modeling เป็นเทคนิคที่นิยมใช้กันมากในการวิเคราะห์ข้อมูลและการทำงานวิจัยเชิงประยุกต์ ซึ่งกระบวนการจำแนกประเภทข้อมูลจะแบ่งเป็นสองส่วนคือ (1) การนำข้อมูลสอน (training data) มาสร้างโมเดลและวัดประสิทธิภาพของโมเดล และ (2) การนำโมเดลที่ได้ไปใช้ทำนาย (predict) เพื่อหาคำตอบให้กับข้อมูลใหม่ โดยการสร้าง โมเดลนั้นมีหลายๆ เทคนิค เช่น
1. เทคนิค Decision Tree ซึ่งสร้างโมเดลในรูปแบบของ Tree เพื่อช่วยตัดสินใจ
2. เทคนิค Naïve Bayes ซึ่งสร้างโมเดลโดยใช้การคำนวณความน่าจะเป็นจากโอกาสที่เกิดขึ้นมาแล้วใน training data
3. เทคนิค K Nearest Neighbours ซึ่งสร้างโมเดลโดยการเปรียบเทียบความคล้ายคลึงกับข้อมูล training data
4. เทคนิค Neural Network เป็นการสร้างโมเดลที่ใช้สมการคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนในลักษณะที่คล้ายกับการทำงานของสมองมนุษย์
5. เทคนิค Support Vector Machines มีข้อดีโดยการแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถแบ่งข้อมูลด้วยโมเดลเส้นตรงได้
ทว่าในหลายๆครั้งการประยุกต์ใช้เทคนิค Predictive Modeling แบบทั่วไปอาจจะไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ดีเนื่องจากข้อมูลจริงมีความท้าทายในหลายๆ เรื่อง เช่น
- ข้อมูลที่ใช้ในการเรียนรู้มีจำนวนข้อมูลในแต่ละคลาสคำตอบแตกต่างกันเป็นอย่างมาก หรือเรียกว่าเป็น Imbalanced data เช่น ข้อมูลของลูกค้าในธนาคารที่มีการฉ้อโกง (fraud) จะมีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับลูกค้าปกติ แต่สิ่งที่เราต้องการหา คือ การทำนายว่าการใช้งานของลูกค้าคนใดบ้างที่เกิดการฉ้อโกงขึ้น หรือ ข้อมูลการตอบรับโปรโมชันต่างๆ
- ข้อมูลมีจำนวนแอตทริบิวต์ที่เยอะและบางครั้งมีความซ้ำซ้อนและไม่จำเป็นอยู่ เช่น การสกัดข้อความต่างๆ เพื่อนำมาสร้างโมเดลจะมีคำแตกต่างกันมาก แต่บางคำอาจจะเกิดไม่บ่อยนักทำให้ข้อมูลส่วนใหญ่มีค่าความถี่ของค่าเป็น 0
ในหลักสูตรนี้จะเน้นการปรับปรงประสิทธิภาพของการสร้างโมเดลการจำแนกประเภทข้อมูลเพื่อให้มีประสิทธิภาพขึ้นโดยใช้ ซอฟต์แวร์ RapidMiner Studio 7 ที่เรียนรู้ได้ง่ายและเพิ่มประสิทธิภาพโดยการเชื่อมต่อกับภาษา R อีกด้วย โดยในหลักสูตรนี้ผู้เข้าร่วมอบรมจะได้เรียนรู้
- หลักการสร้างโมเดลเพื่อจำแนกประเภทข้อมูลแบบพื้นฐานต่างๆ และการวัดประสิทธิภาพของโมเดล
- การเขียนโปรแกรมภาษา R เบื้องต้นเพื่อการแสดงกราฟและการสร้างโมเดลต่างๆ
- การจัดการข้อมูลที่เป็นลักษณะ Imbalance โดยการ sampling แบบต่างๆ
- การจัดการข้อมูลที่มีแอตทริบิวต์ที่เยอะเกินความจำเป็นและซ้ำซ้อนกัน ด้วยวิธีการ Attribute Selection แบบต่างๆ
- การเพิ่มประสิทธิภาพของโมเดลด้วยการใช้หลายๆ เทคนิคร่วมกันทำงาน ด้วยวิธี Ensemble แบบต่างๆ
- การค้นหาพารามิเตอร์ (parameter) ของแต่ละเทคนิคที่เหมาะสมด้วยวิธีการ optimization