“การประเมินค่างานของบุคลากรสายสนับสนุนผู้ปฏิบัติงานในห้องปฎิบัติการ”
การกำหนดกรอบตำแหน่ง
ในการกำหนดระดับตำแหน่งให้สูงขึ้น ตำแหน่งนั้นต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบ คุณภาพและความยุ่งยากของงานเพิ่มมากขึ้นภายใต้เงื่อนไขที่ว่า เป็นตำแหน่งที่กำหนดไว้ในมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง ไม่มีการเพิ่มงบประมาณหมวดเงินเดือนและค่าจ้างประจำ ไม่มีผลทำให้อัตรากำลังเพิ่มขึ้น และต้องคำนึงถึงความมีประสิทธิภาพ ไม่ซับซ้อนและประหยัด ดังนั้นในการกำหนดตำแหน่งให้สูงขึ้น เช่น ชำนาญงาน ชำนาญงานพิเศษ ชำนาญการ ชำนาญการพิเศษ เชี่ยวชาญและเชี่ยวชาญพิเศษ หน่วยงานจะต้องมีการวิเคราะห์ภารกิจของหน่วยงาน และประเมินค่างาน เพื่อให้สามารถกำหนดกรอบตำแหน่งได้อย่างถูกต้อง เป็นธรรม และสอดคล้องกับภารกิจของหน่วยงาน
องค์ประกอบในการพิจารณากำหนดระดับตำแหน่งคือ ลักษณะงานที่ต้องสอดคล้องกับมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง ระดับความรับผิดชอบ และระดับความยากง่ายของงาน
ประเภทตำแหน่ง (ตามประกาศของ ก.พ.อ. พ.ศ. 2553)
- ประเภทผู้บริหาร มี 2 ระดับ คือ ผู้อำนวยกอง/เทียบเท่า และผู้อำนวยการสำนักงานอธิการบดี/วิทยาเขต
- ประเภทวิชาชีพเฉพาะหรือเชี่ยวชาญเฉพาะ มี 5 ระดับ ตามลำดับ คือ ปฏิบัติการ ชำนาญการ ชำนาญพิเศษ เชี่ยวชาญ เชี่ยวชาญพิเศษ (วุฒิบรรจุปริญญาตรี ขึ้นไป)
- ประเภททั่วไป มี 3 ระดับ ตามลำดับ คือ ปฏิบัติการ ชำนาญงาน ชำนาญงานพิเศษ (วุฒิบรรจุต่ำกว่าปริญญาตรี)
การประเมินค่างาน
เป็นวิธีการที่ใช้ในการกำหนดตำแหน่งและอัตราการจ่ายค่าตอบแทนสำหรับผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่งต่างๆ ขององค์กร เป็นการเปรียบเทียบความสำคัญ ความยากและคุณภาพของงานในตำแหน่งต่างๆ การประเมินค่างานนั้น จะต้องเข้าใจลักษณะงานที่ปฏิบัติ คำนึงถึงงานของตำแหน่งเท่านั้น มีมาตรฐาน ไม่มีอคติ วิเคราะห์งานและตีค่าของตำแหน่งงานอย่างเป็นธรรม และมีการตรวจสอบเพื่อความเที่ยงตรงและแม่นยำในการประมินค่างาน โดยองค์ประกอบพื้นฐานที่แสดงถึงหน้าที่ความรับผิดชอบ คุณภาพและความยุ่งยากของงาน 3 ด้าน ได้แก่
- ด้านความรู้และทักษะที่จำเป็นในงาน (Know-How) ความรู้ความชำนาญ การบริหารจัดการ การสื่อสารและปฏิสัมพันธ์
- ด้านความสามารถในการแก้ปัญหา (Problem solving) กรอบของอำนาจและอิสระในความคิด ความท้าทายในการคิดแก้ปัญหา
- ด้านความรับผิดชอบ (Accountability) อิสระในการปฏิบัติงาน ผลกระทบจากการปฏิบัติงาน
กระบวนการก่อนประเมินค่างาน คือการวิเคราะห์งาน (Job analysis) ซึ่งจะประกอบด้วย
- การวิเคราะห์โครงสร้าง ภารกิจ ความสัมพันธ์ของตำแหน่ง เป็นการจัดแบ่งงานและภาระงานในหน่วยงาน ตามสายการบังคับบัญชาและ มีความสัมพันธ์ของตำแหน่งต่างๆ
- การวิคราะห์ลักษณะงาน หน้าที่ความรับผิดชอบ เป็นการวิเคราะห์กระบวนการทำงาน ขั้นตอนและวิธีปฏิบัติงานและลักษณะงานที่ปฏิบัติ
- การวิคราะห์คุณภาพและความยุ่งยากซับซ้อนของงาน ระดับความรับผิดชอบ ระดับการตัดสินใจ และระดับของผลกระทบ และระดับความเสี่ยง
องค์ประกอบในการประเมินค่างาน
- ระดับปฏิบัติการ: หน้าที่และความรับผิดชอบ ความยุ่งยากของงาน การกำกับตรวจสอบ และการตัดสินใจ
- ระดับหัวหน้าหน่วยงาน: หน้าที่และความรับผิดชอบ ความยุ่งยากของงาน การกำกับตรวจสอบ การตัดสินใจ และการบริหารจัดการ
**สิ่งที่ไม่นำมาพิจารณาในการประเมินค่างาน ได้แก่ ความอาวุโส ความขยัน ปริมาณงาน ประสิทธิภาพของผู้ปฏิบัติงาน วุฒิการศึกษาที่ไม่เกี่ยวข้อง และบุคลิกลักษณะบุคคล**
**แต่สิ่งที่เป็นหลักสำคัญของตำแหน่ง คือ ลักษณะหน้าที่ความรับผิดชอบ คุณภาพของงาน และความรู้ความสามารถที่ต้องการ**
สิ่งที่ต้องเตรียมในการประเมินค่างาน
- วิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ขององค์กร
- หลักเกณฑ์การประเมินค่างาน
- มาตรฐานกำหนดตำแหน่ง
- ภาระงานของตำแหน่ง และแบบประเมินค่างาน
หลักเกณฑ์การประเมินค่างาน สำหรับตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะหรือเชี่ยวชาญเฉพาะระดับชำนาญงาน ชำนาญงานพิเศษ ชำนาญการ และชำนาญการพิเศษ (ประกาศ ก.พ.อ. พ.ศ. 2553)
องค์ประกอบหลักการประเมินงาน:
- หน้าที่ความรับผิดชอบ (30 คะแนน)
- ความยุ่งยากของงาน (30 คะแนน)
- การกำกับตรวจสอบ (20 คะแนน)
- การตัดสินใจ (20 คะแนน)
- รวมคะแนน 100 คะแนน
เกณฑ์การตัดสิน: ระดับชำนาญการ ต้องได้คะแนน 64 คะแนนขึ้นไป และระดับชำนาญการพิเศษต้องได้คะแนน 84 คะแนนขึ้นไป
หลักเกณฑ์การประเมินค่างาน สำหรับตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะหรือเชี่ยวชาญเฉพาะระดับเชี่ยวชาญและระดับเชี่ยวชาญพิเศษ (ประกาศ ก.พ.อ. พ.ศ. 2553)
องค์ประกอบหลักการประเมินงาน:
- ด้านความรู้และชำนาญงาน (40 คะแนน)
- ด้านการบริหารจัดการ (20 คะแนน)
- ด้านการติดต่อสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ (20 คะแนน)
- ด้านกรอบแนวคิดในการแก้ปัญหา (40 คะแนน)
- ด้านอิสระในการคิด (20 คะแนน)
- ด้านความท้าทายในการแก้ปัญหา (20 คะแนน)
- ด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (40 คะแนน)
- ด้านอิสระในการปฏิบัติงาน (20 คะแนน)
- ด้านผลผลกระทบจากการปฏิบัติงาน (40 คะแนน)
- ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติของตำแหน่ง (40 คะแนน)
- รวมคะแนน 300 คะแนน
เกณฑ์การตัดสิน: ระดับเชี่ยวชาญ ต้องได้คะแนน 170 คะแนนขึ้นไป และระดับชำนาญการพิเศษ ต้องได้คะแนน 235 คะแนนขึ้นไป
การเขียนภาระงานของตำแหน่ง
ลำดับแรกจะต้องกำหนดงานที่รับผิดชอบของตำแหน่ง จากนั้นนำมาจัดกลุ่มและเรียงลำดับความสำคัญ และกำหนดผลลัพธ์ที่ต้องการ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย โดยมีการใช้ Key word ที่เหมาะสม และใช้คำกริยาให้ถูกต้องเพื่อเป็นการเพิ่มความสำคัญหรือเพิ่มความแตกต่างของลักษณะงานในตำแหน่งเดิมปัจจุบันและภาระงานในตำแหน่งใหม่