มารยาทในการรับประทานอาหารแบบจีน
ประเทศจีน (ชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐประชาชนจีน) เป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก อีกทั้งในปัจจุบันยังมีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระดับทางการทูต การค้าเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของการท่องเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่ของเรานั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนมากกว่า 1 ล้านคนต่อปี สร้างทั้งงาน และรายได้ให้กับชาวเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในฐานะเจ้าบ้านที่จะต้องเรียนรู้และเข้าใจในวัฒนธรรมของชาวจีน เพื่อการต้อนรับ และการพัฒนาเชิงธุรกิจท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และสิ่งที่มีความสำคัญมากประการหนึ่งคือ ความเข้าใจในวัฒนธรรมการรับประทานอาหาร ซึ่งแต่ละชนชาติต่างมีวัฒธนธรรม และธรรมเนียมที่ถือปฎิบัติแตกต่างกันออกไป
สำหรับมารยาทการรับประทานอาหารแบบจีนเบื้องต้น มีทั้งหมด 10 ข้อ ดังต่อไปนี้
1. ในฐานะแขกผู้มาเยือน ไม่ควรรับประทานหรือดื่มเครื่องดื่มก่อนเจ้าบ้านเด็ดขาด ตามธรรมเนียมของชาวจีนเจ้าบ้านจะเริ่มต้นด้วยการเสิร์ฟอาหารแก่หัวหน้าแขกที่มาเยือนรวมถึงแขกที่นั่งใกล้ๆอีก 1 หรือ 2 คน จากนั้นก็จะกล่าวเชิญให้แขกเริ่มรับประทานอาหารได้ ในตอนนี้เองที่เราจะได้รับอนุญาตให้สามารถตักอาหารได้
2. ชิมอาหารให้ครบทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะ ตามธรรมเนียมจีนถือว่าเป็นเรื่องที่เสียมารยาทมากหากเราจะไม่แตะต้องอาหารจานใดจานหนึ่งเลย เพราะเจ้าภาพจะมองมาที่คุณเพื่อเฝ้าดูปฎิกิริยาที่มีต่ออาหารบนโต๊ะ ดังนั้นการลองชิมอาหารทุกอย่างจึงเป็นการให้เกียรติอย่างหนึ่ง แม้ว่าอาหารที่ว่านั้นจะเป็นแมงป่องทอดขึ้นชื่อหรือซุปงูก็ตาม
3. ถามเพื่อนร่วมโต๊ะก่อนตักอาหารหรือเติมน้ำให้ตัวเองเสมอ เพราะไม่อย่างนั้นคุณอาจถูกมองว่าเป็นพวกตะกละตะกลามที่ไร้มารยาทเอาได้ หากเอาแต่ตักอาหารหรือรินน้ำให้ตัวเองก่อน อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการรินน้ำชาเพิ่มแต่เพื่อนร่วมโต๊ะติดการพูดคุยกันอยู่ ขอแนะนำให้คุณรินน้ำชาให้อีกฝ่ายได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปถามเพื่อขัดการพูดคุยนั้น เพื่อนร่วมโต๊ะจะเห็นการกระทำอันมีน้ำใจนั้นและอาจแสดงออกแทนคำขอบคุณด้วยการพยักหน้าหรือใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางเคาะโต๊ะเบาๆ
4. ไม่ควรยกจานอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะหรือยกจานอาหารส่งต่อให้คนอื่น แม้ว่าอาหารจานนั้นจะอยู่ไกลออกไปอีกฝั่งของโต๊ะ สิ่งที่ควรทำคือ หากเราต้องการเอื้อมไปตักอาหารจานนั้น ควรเก็บปลายตะเกียบหรือปลายช้อนขณะยื่นมือออกไปแล้วค่อยใช้ตักหรือคีบเมื่อถึงจานนั้น ในปัจจุบันโต๊ะรับประทานแบบจีนจึงมีการออกแบบแบบหมุนขึ้นมา
5. กินจนเกลี้ยงจานถือเป็นการดูถูกเจ้าบ้าน เพราะมันอาจถูกแปลความหมายไปว่าเขา/เธอเสิร์ฟอาหารให้น้อยเกินไป ไม่เพียงพอต่อความต้องการของแขกโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนั้นเป็นจานที่สอง แต่ในขณะเดียวกันการเหลืออาหารไว้ในจานเยอะเกินไปก็ถือว่าไม่สุภาพเช่นกัน ดังนั้นควรเหลืออาหารเพียงน้อยไว้ในจานเมื่อรู้สึกอิ่ม เพราะจะเป็นการบอกนัยๆว่าเราไม่ต้องการเติมอาหารแล้วและอาหารนั้นอร่อยมาก
6. ไม่ควรเป็นคนตักอาหารชิ้นสุดท้ายในจานนั้นๆเด็ดขาด ชาวจีนมองว่าเป็นเรื่องโชคร้ายและยังมองอีกว่าคนที่ตักชิ้นสุดท้ายเป็นคนตะกละและหิวตลอดเวลา เพราะหน้าที่ของเจ้าบ้านจะคอยตรวจสอบอาหารทุกจาน และเมื่อจานใดเหลือชิ้นสุดท้ายเจ้าภาพจะเป็นผู้เสนอให้แขกตักชิ้นนั้นก่อนจะนำไปเก็บ
7. อย่าวางตะเกียบไว้บนถ้วย หรือทิ้งไว้ในถ้วยเมื่อทานเสร็จ เพราะถือว่าไม่สุภาพและเป็นเรื่องของโชคร้าย แต่ควรวางไว้บนที่วางตะเกียบ นอกจากนี้การทำตะเกียบตกก็ถือว่าเป็นโชคร้ายเช่นกัน อีกสิ่งที่ไม่ควรทำและถือว่าไม่สุภาพคือการปักตะเกียบไว้บนข้าว เพราะถือว่าตะเกียบถูกใช้ประกอบพิธีกรรมต่างๆ นั้นเอง
8. การเจรจาธุรกิจจะไม่ทำบนโต๊ะอาหาร โดยทั่วไปบนโต๊ะอาหารตามธรรมเนียมจีน เรื่องที่พูดคุยกันจะเป็นเรื่องที่สบายๆ เช่น ศิลปะแบบจีน อาหาร สุขภาพของคนในครอบครัวและการถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ มากกว่าที่จะพูดคุยกันเรื่องการเมืองหรือศาสนา
9. การยกแก้วร่วมยินดีควรใช้สองมือเพื่อแสดงความเคารพ ตามธรรมเนียมจีนการยกแก้วร่วมยินดีอาจเกิดขึ้นทั้งโต๊ะหรือกับแขกคนใดคนหนึ่งบนโต๊ะ การยกแก้วควรใช้ทั้งสองมือเพื่อเป็นการแสดงความเคารพและควรดื่มให้หมดแก้ว หากใช้มือเดียวควรเป็นมือข้างขวา ควรมองตาผู้ร่วมแสดงความยินดีและธรรมเนียมจีนไม่มีการชนแก้ว
10. การเสิร์ฟผลไม้ถือเป็นการปิดท้ายการรับประทานอาหาร ตามปกติแขกมักจะอยู่ต่อไม่นานหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ และอาจอยู่ต่ออีกสักเล็กน้อยเพื่อรับประทานผลไม้ปิดท้าย