การจัดการเรียนการสอนรายวิชา ศท๐๓๑ การใช้ภาษาไทย มุ่งเน้นการฝึกทักษะการใช้ภาษาไทย ๔ ทักษะ ได้แก่ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดยมีเป้าหมาย "ฝึกให้นักศึกษาใช้ภาษาไทยในระดับที่สูงกว่าระดับภาษาไม่เป็นทางการ" หรืออาจกล่าวง่าย ๆ ว่า "ฝึกนักศึกษาให้ใช้ภาษาไทยเชิงวิชาการ" ดังนั้น กิจกรรมการฝึกทักษะต่าง ๆ จึงเน้นฝึกให้นักศึกษาใช้ระดับภาษาที่สูงกว่าภาษาพูด
ในส่วนของการฝึกทักษะการพูดนั้น ภาคเรียนนี้ผู้เขียนวางแผนการสอนให้นักศึกษาได้ฝึกการพูดในที่ชุมชน จำนวน ๓ ครั้ง เริ่มต้นจากการพูดเรื่องที่ใกล้ตัวนักศึกษาที่สุด คือการพูดแนะนำตนเองด้วยภาษาระดับกึ่งทางการหรือทางการ โดยให้นักศึกษาเขียนบทพูดด้วยภาษาเขียน จากนั้นตรวจและให้ข้อเสนอแนะเพื่อแก้ไข (นักศึกษาบางคนแก้ไขบทพูด ๒ - ๓ ครั้ง) เมื่อบทพูดผ่านจึงให้ฝึกซ้อมการพูดด้วยการพูดซ้ำ ๆ อย่างน้อย ๑๐ ครั้ง (ไม่ให้ดูบทพูด ไม่จำเป็นต้องพูดเหมือนในบทพูดทุกคำ นักศึกษาอาจสลับเนื้อหาได้บ้าง แต่ต้องพูดให้ครบทุกประเด็นที่มีอยู่ในบท) ซึ่งในขั้นตอนของการฝึกซ้อมการพูดนี้ ได้เน้นย้ำ "ไม่ให้ท่องจำบทพูด" เนื่องจากการท่องจำบทพูดจะเป็นอุปสรรคอย่างมากต่อการพูดในที่ชุมชม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อออกไปยืนพูดต่อหน้าคนจำนวนมาก ความประหม่าอาจทำให้จำบทพูดไม่ได้และไม่สามารถพูดจนจบได้ หรือในบางกรณีที่ท่องจำบทมาพูด เมื่อผู้พูดออกมายืนต่อหน้าผู้ฟังและมีความกังวลใจว่าจะลืมบทหากสบสายตากับผู้ฟังจึงแก้ปัญหาด้วยการมองเพดาน มองหลังห้อง มองนอกหน้าต่าง ซึ่งนอกจากจะเสียบุคลิกภาพแล้ว ยังทำให้การพูดนั้นขาดความน่าสนใจไปด้วย เนื่องจากการสบสายตาผู้ฟังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกว่าผู้พูดกำลังมีปฏิสัมพันธ์ตน
การสอบพูดครั้งที่ ๑ ผู้เขียนต้องการให้นักศึกษาได้เห็นตนเองในขณะที่ยืนพูดอยู่หน้าชั้นเรียน ประกอบกับในภาคเรียนนี้ได้มีโอกาสสอนในห้องเรียนSmart Classroom ของอาคารเรียนรวม ๘๐ ปี จึงบันทึกวีดิทัศน์การสอบพูดของนักศึกษาและนำวีดิทัศน์นั้นไปเผยแพร่ในกลุ่มเฟสบุ๊คที่สร้างขึ้นสำหรับการเรียนการสอนในรายวิชา (แจ้งวัตถุประสงค์ของการเผยแพร่ในกลุ่มว่าเพื่อให้นักศึกษาได้พัฒนาการพูดของตนเองและสั่งห้ามไม่ให้นักศึกษานำไปเผยแพร่ต่อ) จากการสอบถาม ได้รับผลสะท้อนจากนักศึกษาหลากหลายความคิดเห็น อาทิ ตนเองไม่ทราบเลยว่าในขณะที่ยืนพูดตนเองยืนพักเข่า และมีการขยับร่างกายมาก ครั้งหน้าคงต้องระวังมากขึ้น หรือนักศึกษาบางคนกล่าวว่าเห็นตนเองพูดเร็วมากซึ่งครั้งต่อไปคงต้องพูดให้ช้าลง เป็นต้น ซึ่งผู้สอนได้จดบันทึกการสอบพูดครั้งที่ ๑ ไว้เพื่อแจ้งแก่นักศึกษาและเพื่อดูพัฒนาการของนักศึกษาในครั้งต่อไป