บทนำ
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาการจัดการศึกษา เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม และได้ตระหนักถึงความสำคัญของการผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพในทุกด้านทุกสาขาวิชา ซึ่งปัจจุบันคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ก็ได้เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรี ทั้งหมด 7 สาขาวิชา โดยมีปรัชญา ของคณะวิทยาศาสตร์ คือ “มุ่งสร้างองค์ความรู้ สู่ความเป็นสากลทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้วยการผลิตบัณฑิต ที่ใฝ่รู้ สู้งาน มีคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อเป็นรากฐานสู่การพัฒนาการเกษตรไทย” และมี วิสัยทัศน์ ของคณะวิทยาศาสตร์ คือ “เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตบัณฑิตและสร้างองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาเกษตรไทยให้ยั่งยืน” และในการนี้ทางคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้มีการพัฒนาการเรียนการสอน มุ่งสร้างทักษะ เจตคติที่ทำให้นักศึกษาผ่านหลักสูตรตามเกณฑ์ สามารถมีความคิดเชิงวิทยาศาสตร์ สามารถวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสวงหาความรู้ใหม่ได้ โดยเป็นการเรียนที่ต้องพึ่งพาตนเอง ซึ่งผู้เรียนจะต้องตระหนัก ต้องสนใจเรียนรู้จากระบบข่าวสารต่างๆ สามารถจัดแผนการเรียนด้วยตนเองเพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง
การเรียนรู้ด้วยตนเองเกิดจากความคิดริเริ่มของบุคคลในเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามความต้องการและความสนใจของตนเอง มีการวางแผน วางจุดมุ่งหมายในเรื่องนั้น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการอยู่รอดของมนุษย์ และเป็นกระบวนการที่ทำให้เกิดการศึกษาที่ต่อเนื่องตลอดชีวิต และบุคคลที่มีความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองมีลักษณะดังนี้ คือ การเปิดโอกาสต่อการเรียนรู้ การมีมโนคติของตนเองในด้านการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ มีความคิดริเริ่มและมีอิสระในการเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง มีความรักในการเรียนรู้ การมองอนาคตในแง่ดี และความสามารถในการใช้ทักษะการศึกษาหาความรู้และทักษะการแก้ปัญหา และจากการศึกษาค้นคว้างานวิจัยเกี่ยวกับความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเองตามแนวคิดของนักวิจัยหลายท่าน พบว่า มีปัจจัยบางประการที่มีความสัมพันธ์และส่งผลต่อความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง ได้แก่ การอบรมเลี้ยงดู ความสัมพันธ์กับกลุ่มเพื่อน เจตคติต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง ความมีวินัยในตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ (มรุต ก้องวิริยะไพศาล . 2549 : 2)
จากประเด็นที่เกี่ยวข้องข้างต้น ทำให้ผู้วิจัยสนใจที่จะทำการศึกษาวิเคราะห์เส้นทางของตัวแปรที่มีผลต่อความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เนื่องจากการวิเคราะห์เส้นทาง สามารถอธิบายถึงปัจจัยเชิงสาเหตุต่างๆ ของตัวแปรทั้งทางตรงและทางอ้อมตามรูปแบบเชิงสาเหตุซึ่งสร้างบนพื้นฐานของความรู้ที่ได้จากงานวิจัยต่างๆ และทฤษฏีที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้ทราบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักศึกษานั้นมากหรือน้อยเพียงใด เพื่อให้ผู้สอน ผู้เรียน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้เป็นแนวทางส่งเสริมให้นักศึกษามีความพร้อมที่จะเรียนรู้ด้วยตนเองอยู่ในระดับสูงขึ้น
วัตถุประสงค์ของงานวิจัย
เพื่อศึกษาตัวแปรสาเหตุที่มีอิทธิพลทั้งทางตรง ทางอ้อม ต่อความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักศึกษา
ระเบียบวิธีวิจัย
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ภาคปกติ ที่ลงทะเบียนเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 และตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักศึกษาระดับปริญญาตรี ที่ลงทะเบียนเรียน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จำนวน 82 คน ที่ได้จากการชักตัวอย่างแบบสุ่มเชิงเดียว
ตัวแปรที่ศึกษา
- ตัวแปรอิสระ ปัจจัยที่มีผล
1.1 การอบรมเลี้ยงดู
1.2 ความสัมพันธ์กับกลุ่มเพื่อน
1.3 เจตคติต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง
1.4 ความมีวินัย
1.5 แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์
- ตัวแปรตาม คือ ความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
แบบสอบถาม ที่เกี่ยวกับข้อมูลทั่วไป และแบบสอบถามวัดความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์
การวิเคราะห์เส้นทาง (Path Analysis)
โมเดล ความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเองตามสมมติฐาน
สรุปผลการวิจัย
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาตัวแปรสาเหตุที่มีอิทธิพลทั้งทางตรง ทางอ้อม ต่อความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักศึกษา ดังนั้นผู้วิจัยจึงเสนอผลการวิจัย เป็นดังนี้
ตอนที่ 1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของตัวอย่าง
ตาราง 1 คะแนนเฉลี่ยในการปฏิบัติความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ข้อความ
|
การปฏิบัติ
|
ค่าเฉลี่ย
|
แปลผล
|
การเปิดโอกาสต่อการเรียนรู้
1.การติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแหล่งความรู้จากสื่อต่างๆ
เพื่อได้รับความรู้ใหม่ๆ
2.เมื่อเรียนจบในระดับนี้แล้ว จะหาโอกาสเรียนต่อในระดับสูงขึ้นไปอีก
3.มีความเชื่อว่า การเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต
มโนคติแห่งตนในด้านการเป็นผู้เรียนที่มีประสิทธิภาพ
4.ชอบค้นคว้าหาความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมด้วยตนเอง
5.มีความเชื่อมั่นว่า สามารถเรียนรู้ในเรื่องที่ยากได้
6.มีความเชื่อว่า การเรียนรู้ทำให้พัฒนาตนเองได้ดีขึ้น
ความคิดริเริ่มและอิสระในการเรียนรู้
7.ตัดสินใจเลือกเรียนวิชาต่างๆ ตามที่สนใจเรียนได้
8.มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการเรียนรู้กับผู้อื่น
9.มีการเปลี่ยนแปลงแนวทางและวิธีการต่างๆ ในการค้นคว้าหาความรู้
ความรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง
10.เชื่อในความสามารถว่าจะทำงานได้สำเร็จ
11.มีความพร้อมในการสอบแต่ละครั้ง เพราะได้ดูหนังสือและเตรียมตัวอย่างเต็มที่
12.เมื่อได้รับมอบหมายงานให้รับผิดชอบเกี่ยวกับงานกิจกรรม วิชาที่เรียน มักทำได้ดีและเสร็จก่อนกำหนด
ความรักในการเรียนรู้
13.ชอบและชื่นชมบุคคลที่มีความรู้หลากหลายในสาขาวิชาต่างๆ และเอาเป็นแบบอย่าง
14.กระตือรือร้นในการเรียนรู้ด้วยตนเอง
15.พอใจที่จะศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ
|
3.735
4.313
4.374
3.651
3.422
4.192
4.219
3.842
3.667
3.915
3.395
3.756
4.402
3.829
3.951
|
มาก
มาก
มาก
ปานกลาง
ปานกลาง
มาก
มาก
มาก
ปานกลาง
มาก
ปานกลาง
มาก
มาก
มาก
มาก
|
ตาราง 1 คะแนนเฉลี่ยในการปฏิบัติความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง (ต่อ)
ข้อความ
|
การปฏิบัติ
|
ค่าเฉลี่ย
|
แปลผล
|
ความคิดสร้างสรรค์
16.สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการเรียนรู้ไปประยุกต์เพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ได้
17.สามารถบูรณาการด้านความคิด การพิจารณาแยกแยะความเหมือน ความแตกต่าง และความสัมพันธ์ของแนวคิดต่างๆ ได้
18.สามารถคิดค้นแนวคำตอบของโจทย์ปัญหาได้หลายวิธี
การมองอนาคตในแง่ดี
19.มีความเชื่อว่าการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ทำให้มีความก้าวหน้าในการประกอบอาชีพ
20.นำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปเชื่อมโยงกับเป้าหมายที่ต้องการในอนาคตได้
21.คิดว่าอนาคตของตนเองขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการเรียนรู้ที่ตนเองได้รับมา
ความสามารถใช้ทักษะการศึกษาหาความรู้ และทักษะการแก้ปัญหา
22.เมื่อเกิดปัญหา สามารถเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาให้กับผู้ร่วมงานได้
23.จดบันทึกสรุปในการเรียนแต่ละครั้ง เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับตนเอง
24.เมื่อเผชิญกับปัญหาในการเรียน จะวิเคราะห์หาสาเหตุและหาแนวทางแก้ไขด้วยตนเอง
การอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตย
1.เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับการเรียนวิชาใดวิชาหนึ่ง พ่อ-แม่ หรือผู้ปกครองจะแสดงความห่วงใยและอนุญาตให้ไปอบรม หรือติวกับเพื่อนที่มหาวิทยาลัย
2.เมื่อ พ่อ-แม่ หรือผู้ปกครองทราบว่าผลการเรียนเฉลี่ยลดลงหรือไม่ดี ท่านถามสาเหตุของปัญหาและให้คำปรึกษา
3.เมื่อพาเพื่อนมาเที่ยวที่บ้าน พ่อ-แม่ หรือผู้ปกครองจะให้อิสระและให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการคบเพื่อน
4.พ่อ-แม่ หรือผู้ปกครองให้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในการเลือกเรียนในสาขาวิชาที่ข้าพเจ้าต้องการเรียน
5.เมื่อปรึกษาเกี่ยวกับการคบเพื่อนต่างเพศ พ่อ-แม่ หรือผู้ปกครองจะรับรู้และให้คำปรึกษา
6.เมื่อทำงานผิดพลาด มักจะได้รับคำชี้แนะและแนวคิดจาก พ่อ-แม่ หรือผู้ปกครอง
ความสัมพันธ์กับกลุ่มเพื่อน
1.สามารถขอคำปรึกษาด้านการเรียนกับเพื่อนๆ ได้
2.ในการทำงานกลุ่ม มีความเต็มใจที่ปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่ม
3.ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจ สามารถปรับทุกข์กับเพื่อนๆ ได้
4.เต็มใจให้ความช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน กับเพื่อนๆ
5.พูดจาสุภาพกับเพื่อนๆ ถึงแม้จะมีอารมณ์หงุดหงิด
6.ผลัดกันเป็นผู้นำของกลุ่ม กับเพื่อนๆ เมื่อทำกิจกรรม
|
3.842
3.756
3.407
4.415
4.256
4.281
3.795
3.807
3.819
4.349
4.205
4.133
4.207
4.157
4.337
4.277
4.349
4.195
4.470
3.976
3.963
|
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
|
ตาราง 1 คะแนนเฉลี่ยในการปฏิบัติความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง (ต่อ)
ข้อความ
|
การปฏิบัติ
|
ค่าเฉลี่ย
|
แปลผล
|
เจตคติต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง
1.มีความเชื่อว่ากระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นสิ่งสำคัญ
2.การหาแหล่งความรู้ต่างๆ ด้วยตนเองจะทำให้ได้ความรู้ที่หลากหลาย
3.รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าเมื่อทำรายงานด้วยตนเองได้
4.การรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ของตน จะช่วยปลูกฝังให้เป็นผู้รับผิดชอบต่อเรื่องอื่นๆ ด้วย
5.การให้นักศึกษาเลือกวิธีการเรียนรู้ด้วยตนเอง จะทำให้เรียนรู้ได้ดีขึ้น
6.รู้สึกเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น เมื่อเป็นผู้วางแผนการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ความมีวินัยในตนเอง
ด้านความรับผิดชอบ
1.ทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถแม้ว่าจะไม่ถนัดหรือไม่เคยกระทำมาก่อน
2.สามารถจัดการเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของตนเองได้
ด้านความเชื่อมั่นในตนเอง
3.เลือกเรียนรายวิชาต่างๆ ตามกลุ่มเพื่อนแม้จะรู้ว่าตนเองไม่ชอบก็ตาม
4.มีความมั่นใจในการกระทำสิ่งใดๆ ได้ตามลำพัง
ด้านความเป็นผู้นำ
5.ยินดีที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนๆ เพื่อหาข้อสรุปที่ดีที่สุด ในการตัดสินปัญหาต่างๆ โดยยึดประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง
6.การพูดให้กำลังใจแก่ผู้อื่น เมื่อเขาประสบปัญหาเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง ถึงแม้ตนเองก็ยังไม่สามารถจัดการแก้ไขปัญหาของตนเองให้ลุล่วงได้
ด้านความอดทน
7. ความขยันหมั่นเพียรเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกคนที่หวังจะประสบความสำเร็จในชีวิต
8. การใช้เหตุผลในการแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ใช้ทางออกที่ถูกต้องเสมอไป
ด้านความซื่อสัตย์
9.ไม่นำสิ่งของที่เป็นสาธารณะสมบัติมาครอบครองเป็นสมบัติส่วนตัว
10.ภูมิใจหากสามารถหลีกเลี่ยงจากการถูกลงโทษในความผิดที่ตัวเองได้เป็นผู้กระทำ
|
4.195
4.108
4.275
4.337
4.121
3.975
4.256
4.144
3.012
3.622
4.313
4.265
4.494
3.488
4.457
2.768
|
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
ปานกลาง
ปานกลาง
มาก
มาก
มาก
ปานกลาง
มาก
ปานกลาง
|
ตาราง 1 คะแนนเฉลี่ยในการปฏิบัติความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง (ต่อ)
ข้อความ
|
การปฏิบัติ
|
ค่าเฉลี่ย
|
แปลผล
|
แบบสอบถามวัดแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์
1.ในการสอบถ้ายังไม่ได้คะแนนสูงสุด จะพยายามทำให้ได้
2.จะตั้งความหวังไว้สูงๆ เพื่อที่จะได้ใช้ความพยายามและความสามารถเต็มที่
3.ทุกครั้งที่ได้รับมอบหมายงานให้ทำ จะทำให้สำเร็จถึงแม้ว่าจะยากเพียงใดก็ตาม
4.จะยิ่งพยายามทำงานนั้นให้มากขึ้น เมื่องานนั้นเป็นงานที่ยาก
5.มีความพยายามมากขึ้น เมื่อรู้ตัวว่ามีความรู้ด้อยกว่างเพื่อนๆ
6.งานที่พอใจจะทำอย่างยิ่งคือ งานที่ได้ใช้ความสามารถของตนเองอย่างเต็มที่
|
4.183
3.976
4.110
4.012
4.256
4.476
|
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
มาก
|
จากตาราง 1 พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ มีคะแนนเฉลี่ยในการปฏิบัติความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเองอยู่ในระดับมากทุกด้าน
ตอนที่ 2 สรุปผลวิเคราะห์เส้นทางของตัวแปร
ตาราง 2 แสดงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร
ตัวแปร
|
1
|
2
|
3
|
4
|
5
|
6
|
1.การอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตย
|
1.00
|
|
|
|
|
|
2.ความสัมพันธ์กับกลุ่มเพื่อน
|
0.70
|
1.00
|
|
|
|
|
3.เจตคติต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง
|
0.62
|
0.85
|
1.00
|
|
|
|
4.ความมีวินัยในตัวเอง
|
0.81
|
0.84
|
0.91
|
1.00
|
|
|
5.แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์
|
0.68
|
0.70
|
0.76
|
0.84
|
1.00
|
|
6.ความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง
|
0.45
|
0.63
|
0.74
|
0.67
|
0.75
|
1.00
|
จากตาราง 2 แสดงว่าตัวแปรทุกตัวมีความสัมพันธ์กันสูง ยกเว้น การอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตยกับความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง มีความสัมพันธ์กันปานกลาง เท่ากับ 0.45
ค่าสัมประสิทธิ์เส้นทางของโมเดล ความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ตาราง 3 ค่าสัมประสิทธิ์เส้นทางของโมเดลโครงสร้างตามสมมติฐาน
เส้นทาง
|
ค่าสัมประสิทธิ์เส้นทาง (Pij)
|
P65
P64
P63
P54
P41
P43
P31
P32
P21
|
0.64*
-0.57
0.77*
0.84*
0.41*
0.66*
0.05
0.81*
0.70*
|
จากตาราง 3 แสดงว่าสัมประสิทธิ์เส้นทาง ที่ได้จากการคำนวณโมเดลตามสมมติฐาน พบว่า Pij เกือบทุกค่ามีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ยกเว้น P64 และ P31 แสดงว่า ความมีวินัยในตนเองไม่มีอิทธิพลโดยตรงต่อ ความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง แต่มีอิทธิพลโดยตรงต่อแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ส่วน การอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตยไม่มีอิทธิพลต่อเจตคติต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง แต่มีอิทธิพลโดยตรงต่อความสัมพันธ์กับกลุ่มเพื่อน และมีอิทธิพลโดยตรงต่อความมีวินัยในตนเอง
ตาราง 4 ผลการคำนวณค่าสัมประสิทธิ์เส้นทางของตัวแปรเหตุที่มีอิทธิพลทางตรงและทางอ้อม ต่อความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ตัวแปรเหตุ
|
ผลทางตรง
Direct Effect
|
ผลทางอ้อม
Indirect Effect
|
ผลรวม
Total Effect
|
แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์
|
P65
(0.64)
|
-
0
|
0.64
|
ความมีวินัยในตนเอง
|
-
0
|
P54* P65
(0.84*0.64) = 0.5376
|
0.5376
|
เจตคติต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง
|
P63
(0.77)
|
(P43* P54*P65)
( 0.66*0.84*0.64) = .3548
|
1.1248
|
ความสัมพันธ์กับกลุ่มเพื่อน
|
-
0
|
(P32* P63) + (P32*P43*P54*P65)
(0.81*0.77) + (0.81*0.66*0.84*0.64)
= 0.9111
|
0.9111
|
การอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตย
|
-
0
|
(P21*P32* P63) + (P21*P32*P43*P54*P65) + (P41*P54* P65)
(0.7*0.81*0.77) + (0.7*0.81*0.66*0.84*0.64)+ (0.41*0.84*0.64) = 0.8582
|
0.8582
|
จากตาราง 4 เมื่อพิจารณาผลรวมแสดงว่าตัวแปรเหตุที่มีอิทธิพลต่อความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรียงตามลำดับความสำคัญได้ดังนี้ (1) เจตคติต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง (2) ความสัมพันธ์กับกลุ่มเพื่อน (3) การอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตย (4) แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ และ (5) ความมีวินัยในตนเอง โดยมีค่าอิทธิพลรวมเท่ากับ 1.1248 , 0.9111 , 0.8582 , 0.64 และ 0.5376 ตามลำดับ
เจตคติต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง มีอิทธิพลสูงสุดต่อความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยมีอิทธิพลทางตรงเท่ากับ 0.77 ส่วนอิทธิพลทางอ้อมผ่านความมีวินัยในตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ มีค่าเท่ากับ 0.3548
แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์มีเฉพาะอิทธิพลทางตรงต่อความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเองเท่ากับ 0.64 ส่วน ความสัมพันธ์กับกลุ่มเพื่อน การอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตย และความมีวินัยในตนเองมีเฉพาะอิทธิพลทางอ้อม โดยมีค่าอิทธิพลเท่ากับ 0.9111 ,0.8582 และ 0.5376 ตามลำดับ
อภิปรายผล
จากผลการวิจัยพบว่าตัวแปรเหตุที่มีอิทธิพลต่อความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรียงตามลำดับความสำคัญได้ดังนี้ (1) เจตคติต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง (2) ความสัมพันธ์กับกลุ่มเพื่อน (3) การอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตย (4) แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ และ (5) ความมีวินัยในตนเอง ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของพิสดี มินศิริ ที่ได้ทำวิจัยเรื่อง ปัจจัยบางประการที่ส่งผลต่อความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยพยาบาลเครือข่ายภาคกลางในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข พบว่า เจตคติต่อวิชาชีพพยาบาล ลักษณะมุ่งอนาคต แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ทางการเรียน และตัวแปรด้านสิ่งแวดล้อมทางการเรียน ได้แก่ บรรยากาศการเรียนการสอน ความสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษากับเพื่อน มีความสัมพันธ์กับความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนของนักศึกษา และพบว่าเจตคติต่อวิชาชีพพยาบาลมีความสัมพันธ์สูงที่สุดกับความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง
กิตติกรรมประกาศ
งานวิจัยนี้ได้รับการสนับสนุนจากทุนวิจัยคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556
บรรณานุกรม
เอมอร แก้มกล่ำศรี. 2550. “การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยด้านการจัดการเรียนการ สอนกับความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักศึกษาการศึกษานอกโรงเรียน สายสามัญวิธีเรียนพบกลุ่มระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2548 ในจังหวัดชลบุรี.” วิทยานิพนธ์ปริญญา ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
พิสดี มินศิริ. 2547. “ปัจจัยบางประการที่ส่งผลต่อความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยพยาบาลเครือข่ายภาคกลางในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข.” วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
มรุต ก้องวิริยะไพศาล. 2549. “การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อ ความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต.” วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.