New Mood Therapy
วันที่เขียน 18/1/2554 11:13:35     แก้ไขล่าสุดเมื่อ 26/4/2567 15:41:41
เปิดอ่าน: 5662 ครั้ง

กำจัดต้นตอความเครียด

     หยุดยาวช่วงสงกรานต์ รู้สึกความเครียดจะเข้ารบกวนจิตใจ ทำให้เทศกาลที่สำคัญของคนไทยในปีนี้ จะไม่ครึกครื้นเหมือนหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา ความวุ่นวายในบ้านเมืองของเรา เมื่อไหร่จะสงบเสียที.... พอดีผู้เขียนได้พบบทความดี ๆ ใน วารสาร CAT Magazine  ฉบับเดือนเมษายน  2553  ก็เลยขออนุญาตหยิบยกมาเผยแพร่ เพื่อให้ผู้อ่านได้ลดวิธีคิดที่จะกำจัดต้นตอความเครียด....แ ละหากคุณผู้อ่านมีนิสัยทางความคิดเข้าข่าย 10 ข้อต่อไปนี้ ก็ไม่ต้องตกใจไป เพียงแค่พยายามปรับมุมมอง มีเหตุผลตามสมควร และคิดว่าทุกสิ่งเป็นไปได้ให้มากขึ้น ต้นตอความเครียดที่ฝังตัวอยู่ก็จะค่อย ๆ ลดลง คนเราเขาว่ามีความเครียดบ้างเป็นสิ่งทีดี แต่ไม่ควรให้ความเครียดเข้าครอบงำชีวิต เพราะจะทำให้คุณกลายเป็นมนุษย์เครียดตลอดเวลาจนแก้ไม่หาย

 New Mood Therapy

  1. ไม่ขาวก็ดำ  ทุกอย่างในโลกมีแค่สองสีเท่านั้น  คนที่มีนิสัยแบบนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “สุดโต่ง” เป็นคนประเภทที่ไม่มีคำว่าตรงกลาง เจออะไรแย่ ๆ ก็จะมองว่ามันแย่อย่างสุด  ๆ แล้วก็จะฝังใจอยู่กับเรื่องนั้นไม่ยอมเปลี่ยน ซึ่งเป็นสัญญาณที่อันตรายมาก เพราะเราไม่ควรคิดหรือมองอะไรแต่เพียงด้านเดียว ควรมองให้รอบและมองอย่างเป็นกลางจะดีที่สุด
  2. คิดเอง สรุปเอง เครียดเอง พวกนี้เป็นพวกที่ชอบตั้งสมมติฐาน และคิดผลสรุปเอาไว้ในใจเสร็จสรรพ โดยที่เหตุการณ์ยังไม่ทันจะได้เกิด อย่าลืมว่าชีวิตคนเราไม่ใช่การทดลองวิทยาศาสตร์ ที่จะได้มีผลลัพธ์ออกมาตายตัวเสมอ การที่คุณคิดเอาเองว่าทุกอย่างจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ จะทำให้เครียดไปก่อนซะเปล่า ๆ
  3. คำว่า “คิดบวก” ไม่เคยอยู่ในสมอง  คนประเภทนี้ก็เป็นอันตรายอีกเช่นกัน เพราะคนที่มีนิสัยแบบนี้ไม่ว่าจะทำอะไรได้ดี หรือมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้น  ฉันก็ยังยืนยันที่จะมองในแง่ร้ายไว้ก่อน ซึ่งเป็นการก่อความเครียดโดยไม่จำเป็นอย่างที่สุด หัดคิดบวกเข้าไว้แล้วคุณจะรู้ว่าโลกนี้ยังมีอะไร ๆ ที่สวยงามอีกเยอะ
  4. ไม่เคยมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นในโลก คนที่คิดอย่างนี้นับว่าอันตรายกว่าประเภทที่ชอบคิดแง่ลบเสียอีก เพราะถ้ามีเรื่องอะไรดี ๆ เกิดขึ้น คนในกลุ่มนี้ก็จะมองว่ามันมีข้อผิดพลาดอะไรซักอย่าง หรือไม่ก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญ พูดง่าย ๆ ก็คือ ขนาดเรื่องที่ไม่มีอะไรก็ยังสามารถมองให้กลายเป็นเรื่องเลวร้ายได้นั่นเอง
  5. ด่วนสรุปไปซะทุกเรื่อง  คนในกลุ่มนี้แบ่งได้สองประเภท คือ ประเภทแรกเป็นพวกที่ชอบ อ่านใจคนอื่น เป็นนิสัยของคนที่คิดมาก ชอบตีความคำพูดของคนอื่นในทางไม่ดีไปหมด เช่น ถ้ามีคนมาชมคุณว่า ทำไมพักนี้ดูสวยผิดหูผิดตา ไปทำอะไรมาหรือเปล่าเนี่ย  คนที่จัดอยู่ในประเภทนี้ ก็จะคิดไปก่อนเลยว่า เขาต้องแอบคิดว่าฉันไปทำศัลยกรรมมาแน่ ๆ เลย  อย่างนี้เป็นต้น  อีกประเภทคือ คนที่ชอบทำตัวเป็นหมอดูให้กับตัวเอง ติดตรงที่ชอบทำนายแต่เรื่องร้าย ๆ นิสิ เพราะคนประเภทนี้มักจะเชื่อว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับตัวเองเสมอแล้วก็พาลหัวเสียกับเรื่องที่ตัวเองทำนายไว้ตลอดเวลา  ดู ๆ ไปเหมือนพวกสาดิสม์ชอบทำร้ายตัวเองเหมือนกัน
  6. โวยวายกับเรื่องร้าย ๆ แต่เรื่องดี ๆ กลับมองข้าม คนกลุ่มนี้จะเอาแต่มองว่าข้อเสีย หรือจุดด้อยในตัวเองนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองมีส่วนดีเยอะกว่า แต่กลับไม่เคยมองเห็น มักจะมัวไปสนใจอยู่กับจุดบอด ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม
  7. เอาโลกจินตนาการ มาปนกับ โลกความเป็นจริง เป็นประเภทที่ชอบคิดว่าสิ่งที่ตัวเองรู้สึกคือเรื่องจริง และมักจะสรุปอะไรโดยที่ไม่คิดถึงความเป็นเหตุเป็นผล พูดง่าย ๆ ก็คือแยกแยะความรู้สึกของตัวเองกับความเป็นจริงไม่ออก จนคิดว่าสิ่งรอบข้างจะเป็นเหมือนสิ่งที่ตัวเองรู้สึกไปเสียหมด
  8. จะ “กดดัน” ไปถึงไหน  บรรดาหัวหน้าที่เคร่งเครียดกับการทำงาน ส่วนใหญ่มักจะมีนิสัยแบบนี้อยู่เยอะหน่อย เพราะเป็นนิสัยของคนที่ชอบคาดหวังว่าจะต้องทำงานให้ได้เท่านั้นเท่านี้  และพอทำไม่ได้อย่างที่หวังก็จะรู้สึกแย่ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้มาก ๆ เข้า ก็อาจส่งผลให้เราไปคาดหวังกับคนรอบข้าง แถมยังสร้างความหงุดหงิดให้กับคนอื่น ๆ อีกต่างหาก
  9. ป้ายความคิดแง่ลบไปเรื่อย ๆ  คนที่มีนิสัยแบบนี้เวลาเจออะไรที่ไม่พอใจก็มักจะคิดว่าคนอื่นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ โดยที่ไม่ดูเลยว่าเหตุผลจริง ๆ นั้นเป็นยังไง ตัวอย่างเช่น เด็กใหม่ที่ย้ายเข้ามาในเมืองพูดจอไม่ดีเข้าหน่อย คนรอบข้างก็พากันคิดว่าเด็กคนนี้ไม่ได้เรื่อง โดยที่ไม่นึกถึงเหตุผลอื่น ๆ เลย
  10. ขอโทษ ฉันผิดเอง  นิสัยของนางเอกอีกอย่างหนึ่งที่บางคนเป็นกัน คือ ขอให้ได้โทษตัวเองไว้ก่อน ไม่ว่าความผิดจะเป็นของใครก็ตาม แต่ถ้าไม่จำเป็นอย่าพยายามโทษตัวเองจะดีกว่า เพราะมันจะยิ่งทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับว่าต้องแบกภาระที่ตัวเองไม่ได้ก่อเอาไว้ตลอดเวลา

คำสำคัญ :
กลุ่มบทความ :
หมวดหมู่ :
แชร์ :
https://erp.mju.ac.th/acticleDetail.aspx?qid=49
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)
ไม่มีข้อมูลตามเงื่อนไขที่ท่านกำหนด
รายการบทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้หมวดหมู่ : วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
ความรู้จากการเข้าร่วมอบรม/สัมมนา/ประชุมวิชาการ » การเผยแพร่ความรู้ที่ได้จากการเข้าร่วมประชุมวิชาการระดับชาติวิจัยรำไพพรรณี ครั้งที่ 17 เนื่องในวโรกาสคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ครบ 119 ปี เรื่อง “งานวิจัยและนวัตกรรมสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG Bio-Circular-Green Economy”
ตามที่คณะวิทยาศาสตร์ ได้อนุญาติให้ข้าพเจ้า นางอัจฉรา แกล้วกล้า ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เข้าร่วมการประชุมวิชาการระดับชาติวิจัยรำไพพรรณี ครั้งที่ 17 เนื่องในวโรกาสคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระนางเจ้...
  บทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั่วไป   วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
ผู้เขียน อัจฉรา แกล้วกล้า  วันที่เขียน 31/3/2567 11:09:58  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 25/4/2567 16:48:40   เปิดอ่าน 43  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง