Microsoft Imagine X คืออะไร ?
เชื่อได้ว่ามีนักศึกษาและบุคลากรที่ใช้คอมพิวเตอร์อยู่ไม่ถึง 50% ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows อย่างถูกลิขสิทธิ์ โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน/นิสิต/นักศึกษา ที่ยังอยู่ในวัยเรียนที่ราคาของระบบปฏิบัติการ Windows ที่สูงอยู่ทำให้หลายๆคนเลือกที่จะใช้ Windows เถื่อนที่หาซื้อได้ในราคาสองถึงสามร้อยหรือดาวน์โหลดได้ฟรีๆในอินเตอร์เน็ต ซึ่งจริงๆแล้ว Microsoft เป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอย่างมาก ซึ่งเห็นได้จากโครงการ Microsoft Imagine X ที่แจกโปรแกรมให้นิสิต/นักศึกษาได้ใช้โปรแกรมกันฟรีๆ ซึ่งหลายๆคนยังไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิ์ตรงนี้อยู่
Microsoft Imagine X หรือ Microsoft Dreamspark Premium (หรือชื่อเก่า MSDN Academic Alliance – MSDNAA) เป็นโครงการ “แจกซอฟท์แวร์ลิขสิทธิ์ฟรี” สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยในภาควิชา STEM (S = Science, T=Technology, E=Engineering, M=Mathematics) เพื่อใช้ในการเรียนการสอน
สำหรับซอฟท์แวร์ที่มีให้ดาวน์โหลดในโครงการนั้นมีทั้งสิ้น 159 รายการ ซึ่งรวมถึงโปรแกรมยอดนิยมอย่าง Windoes 8.1, Windows 7 ,Visual Studio 2015 , Microsoft SQL Server 2016, Microsoft Access 2016 และ Microsoft Visio 2016 เป็นต้น ซึ่งล่าสุดมี "ระบบปฏิบัติการ Windows 10" แจกแล้วด้วย
ซึ่งทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้เข้าร่วมโครงการนี้แล้วในระดับ Microsoft Imagine X นักศึกษาท่านใดสนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ หรือ ขอสมัครใช้งานดังนี้
- ส่งรายละเอียด Account E-mail "@mju.ac.th" ของนักศึกษา เช่น mju5xxxxxxxx@mju.ac.th ส่ง E-mail มาที่ mjunoc@mju.ac.th
- ตรวจสอบ E-mail มหาวิทยาลัยแม่โจ้
รหัสนักศึกษา 57 ขึ้นไป เข้าใช้งานได้ที่ https://mail.mju.ac.th/owa username : mju+รหัสนักศึกษา password : รหัสผ่านการใช้งานระบบเครือข่ายไร้สาย
รหัสนักศึกษา 58-59 เข้าใช้งานได้ที่ https://portal.office.com/Home username : mju+รหัสนักศึกษา@mju.ac.th password : รหัสผ่านการใช้งานระบบเครือข่ายไร้สาย
- ตอบรับการเข้าร่วม Microsoft Imagine X ทาง E-mail และทำการเปลี่ยนรหัสผ่านการใช้งานระบบ
- เข้าใช้งานระบบ เลือก Download โปรแกรมการใช้งานที่ต้องการ
สามารถเข้าใช้งาน Microsoft Imagine X ได้ที่นี่ https://mju.onthehub.com
สิทธิการใช้งานซอฟต์แวร์
คือ “สิทธิในการใช้งานซอฟต์แวร์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ยินยอมให้ผู้ใช้ปลายทางใช้ซอฟต์แวร์นั้นๆ ตามรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ระบุในใบอนุญาตใช้งานสำหรับผู้ใช้ปลายทาง (End User License Agreement: EULA) นั้นๆ โดยผู้ใช้จะต้องได้รับสิทธิ, ปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้งาน และมีเอกสารที่แสดงสิทธิสำหรับซอฟต์แวร์แต่ละชุดอย่างถูกต้อง”
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558
(การคุ้มครองข้อมูลการบริหารสิทธิและกำหนดข้อยกเว้นการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์และสิทธิของนักแสดง)
1. ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 132 ตอนที่ 6 ก เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา
2. มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2558 เป็นต้นไป
3. สำหรับสาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ มีดังนี้
(1) คุ้มครองข้อมูลการบริหารสิทธิเพื่อส่งเสริมการเผยแพร่งานอันมีลิขสิทธิ์และคุ้มครองสิทธิในข้อมูลที่เจ้าของลิขสิทธิ์ที่ใช้บริหารจัดการสิทธิของตนไม่ให้คนอื่นมาลบหรือเปลี่ยนแปลงโดยไม่ชอบ เช่น การลบข้อมูลเกี่ยวกับชื่อเจ้าของลิขสิทธิ์ ชื่อผู้สร้างสรรค์ ชื่อนักแสดง เป็นต้น โดยหากบุคคลใด ลบ หรือเปลี่ยนแปลง ข้อมูลดังกล่าว ถือว่ามีความผิดฐานละเมิดข้อมูลการบริหารสิทธิ
(2) คุ้มครองมาตรการทางเทคโนโลยีที่เจ้าของลิขสิทธิ์นำมาใช้ปกป้องงานอันมีลิขสิทธิ์ของตนเพื่อป้องกันการทำซ้ำหรือการเข้าถึงงานอันมีลิขสิทธิ์ เช่น พาสเวิร์ด (password) ที่เจ้าของลิขสิทธิ์นำมาใช้ในการควบคุมการเข้าถึงงานอันมีลิขสิทธิ์ของตนที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต เป็นต้น โดยหากบุคคลใดทำลายมาตรการทางเทคโนโลยีดังกล่าว โดยเจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ยินยอมถือว่ามีความผิดฐานละเมิดมาตรการทางเทคโนโลยี
(3) กำหนดข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์การทำซ้ำชั่วคราว (Exception for Temporary Reproduction) เพื่อกำหนดให้ชัดเจนว่าการทำซ้ำชั่วคราวโดยความจำเป็นของเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียกดูงานอันมีลิขสิทธิ์ไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เนื่องจากการดูภาพยนตร์ หรือฟังเพลงจากเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์จำเป็นต้องมีการทำซ้ำงานเพลงหรือภาพยนตร์ดังกล่าวไว้ในหน่วยความจำ (RAM) ทุกครั้ง ด้วยความจำเป็นทางเทคนิคดังกล่าวทำให้ทุกครั้งที่มีการใช้งานอันมีลิขสิทธิ์จากเครื่องคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้งานจะต้องทำซ้ำงานด้วยเสมอ การทำซ้ำลักษณะนี้เป็นการทำซ้ำชั่วคราว ที่ไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
(4) เพิ่มเติมเรื่องการกำหนดข้อจำกัดความรับผิดของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Liability Limitation of ISP) เพื่อให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เช่น เจ้าของเว็บไซต์ Youtube ไม่ต้องเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องละเมิดลิขสิทธิ์ โดยให้เจ้าของลิขสิทธิ์สามารถร้องขอให้ศาลสั่งให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเอาไฟล์ละเมิดลิขสิทธิ์ออกจากเว็บไซต์ ซึ่งเจ้าของลิขสิทธิ์จะต้องแสดงหลักฐานต่างๆ ต่อศาลอย่างเพียงพอ และเมื่อศาลได้มีคำสั่งให้เอาไฟล์ละเมิดออกจากเว็บไซต์แล้ว และเจ้าของเว็บไซต์ดำเนินการตามคำสั่งศาล เจ้าของเว็บไซต์ไม่ต้องรับผิดเกี่ยวกับการกระทำที่อ้างว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว
(5) เพิ่มข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์กรณีการจำหน่ายต้นฉบับหรือสำเนางานอันมีลิขสิทธิ์ โดยนำหลักการระงับไปซึ่งสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา (Exhaustion of Rights) มากำหนดให้ชัดเจนว่าการขายงานอันมีลิขสิทธิ์มือสองสามารถทำได้โดยไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น การขายภาพเขียน หนังสือ ซีดีเพลง ซีดีภาพยนตร์ เป็นต้น อย่างไรก็ดี หากเป็นการขายซีดีภาพยนตร์จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยภาพยนตร์และวีดีทัศน์ด้วย มิฉะนั้น แม้ไม่ผิดตามกฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์ แต่อาจมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยภาพยนตร์และวีดิทัศน์ได้
(6) เพิ่มเติมเรื่องสิทธิทางศีลธรรมของนักแสดง (Moral Right) เพื่อเพิ่มสิทธิให้นักแสดง มีสิทธิทางศีลธรรมเท่าเทียมกับสิทธิทางศีลธรรมของผู้สร้างสรรค์งานอันมีลิขสิทธิ์ โดยนักแสดงมีสิทธิระบุชื่อตนในการแสดงที่ตนได้แสดง และห้ามไม่ให้บุคคลใดกระทำต่อการแสดงของตนจนทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงหรือเกียรติคุณ
(7) เพิ่มบทบัญญัติเรื่องค่าเสียหายในเชิงลงโทษ (Punitive damages) โดยกำหนดให้ศาลมีอำนาจสั่งให้ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดงจ่ายค่าเสียหายเพิ่มขึ้นไม่เกินสองเท่าของค่าเสียหาย ในกรณีที่ปรากฏหลักฐานชัดแจ้งว่ามีการกระทำโดยจงใจหรือมีเจตนาให้งานอันมีลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดงสามารถเข้าถึงโดยสาธารณชนได้อย่างแพร่หลาย
(8) กำหนดให้ศาลมีอำนาจสั่งริบหรือทำลายสิ่งที่ได้ใช้ในการกระทำละเมิด และสิ่งที่ได้ทำขึ้นหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดง