เทคนิคการจัดทำเอกสารคู่มือปฏิบัติงานสำหรับบุคลากรสายสนับสนุนในสถาบันอุดมศึกษา
(อ้างอิงจาก คุณ อัมพา อาภรณ์ทิพย์ สถาบันฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรหาดใหญ่เทรนนิ่ง)
หลักการและเหตุผล
การปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุนในสถาบันอุดมศึกษา มีขั้นตอนการปฏิบัติที่แตกต่างกัน แต่ละตำแหน่งผู้ปฏิบัติงานต้องใช้ความรู้ ความสามารถใช้ทักษะและเทคนิคเฉพาะทาง การจัดทำเอกสารคู่มือการปฏิบัติงานของแต่ละตำแหน่งจึงมีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเปรียบเหมือนแผนที่นำทางในการทำงาน ทำให้การดำเนินงานในองค์กรมีมาตรฐาน มีความถูกต้อง สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา ประงบประมาณ การจัดทำเอกสารคู่มือการปฏิบัติงานเป็นการรวบรวมองค์ความรู้ในสาขาต่าง ๆ ของผู้ปฏิบัติที่ประยุกต์รวมแนวคิด ทฤษฎีและจากประสบการณ์ที่ได้สั่งสมจากการปฏิบัติงานนับเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
คู่มือการปฏิบัติงาน
เป็นเอกสารที่เขียนเกี่ยวกับงานที่เฉพาะเจาะจง เพื่ออธิบายวิธีการหรือกระบวนการทำงานตามขั้นตอน เป็นการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในการทำงาน
วัตถุประสงค์
- เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นมาตรฐานเดียวกัน
- เพื่อให้ผู้ใช้บริการทราบและเข้าใจว่าควรทำอะไรก่อน-หลัง
- เพื่อให้ผู้ใช้บริการทราบว่าควรปฏิบัติงาน กับใคร อย่างไร เมื่อใด
- เพื่อให้ผู้บริหารติดตามงานได้ทุกขั้นตอน
ประโยชน์ของการจัดทำคู่มือ
- สามารถทำงานแทนกันได้
- เป็นแนวทางให้ปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว
- ลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน
- ช่วยลดระยะเวลาในการสอนงาน
ลักษณะของคู่มือการปฏิบัติงาน
Procedure วิธีปฏิบัติงาน
- เป็นเอกสารที่จะบอกว่าใครทำอะไรที่ไหนเมื่อไร
- เป็นตัวระบบที่ระบุถึงการทำงานที่มีความเกี่ยวเนื่องกันตั้งแต่ 2 หน่วยงานขึ้นไป
- เป็นกระบวนการดำเนินงาน (jigsaw)
2. Work Manual คู่มือการปฏิบัติงาน
- กระบวนการหรือเส้นทางการทำงานที่มีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุด
- ระบุขั้นตอนและรายละเอียดของกระบวนการต่างๆ และวิธีการควบคุม
- ลักษณะงานที่ซ้ำซ้อน มีหลายขั้นตอน และเกี่ยวข้องกับหลายคน
- สามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติงาน
3. Work Instruction คู่มือการทำงาน
เป็นเอกสารที่กล่าวถึงรายละเอียดของงานเฉพาะอย่าง แบบทีละขั้นตอน (step by step) เพื่อควบคุมให้ผู้ปฏิบัติทำตามได้อย่างถูกต้องทุกครั้ง ตั้งแต่เริ่มแรก เพื่อป้องกันหรือลดโอกาสการเกิดปัญหาต่างๆ
การเขียนคู่มือปฏิบัติงาน
- ไม่มีโครงสร้างที่ชัดเจน
- เขียนได้หลายลักษณะ ตามความเหมาะสมของงาน
- ควรเขียนให้เข้าใจง่าย มีความยืดหยุ่นและรัดกุม
- ใช้คำศัพท์ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานเอกสาร
- สามารถนำเสนอในลักษณะของ Flow Chart รูปภาพ รูปการ์ตูน ซีดี หรือวีดีโอ
ลักษณะของคู่มือการปฏิบัติงานที่ดี
- กระชับ ชัดเจน เข้าใจง่าย
- เป็นประโยชน์สำหรับการทำงานและฝึกอบรม
- เหมาะสมกับองค์กรและผู้ใช้งานแต่ละกลุ่ม
- มีความน่าสนใจ น่าติดตาม
- มีความเป็นปัจจุบัน (update) ไม่ล้าสมัย
- แสดงหน่วยงานที่จัดทำ วันที่เริ่มใช้ถือปฏิบัติ
- มีตัวอย่างประกอบ
คู่มือปฏิบัติงาน มี 3 ลักษณะ
- คู่มือที่เขียนให้ผู้เขียนเองถือเป็นแนวปฏิบัติ
- คู่มือที่เขียนให้ผู้อื่นถือเป็นแนวปฏิบัติ
- คู่มือที่เขียนให้ผู้รับบริการถือเป็นแนวปฏิบัติ
คู่มือปฏิบัติงาน มี 3 ลักษณะ
- คู่มือ (Manual) เป็นคู่มือที่นำเอา กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หนังสือเวียน มติ หนังสือตอบข้อหารือที่เกี่ยวข้องมารวบรวมไว้เป็นหมวดหมู่ แล้วทำเป็นรูปเล่ม
- ปรุงแต่ง (Cook Manual) เป็นคู่มือที่มีลักษณะเหมือน ระดับที่ 1 แต่เพิ่มขั้นตอน วิธีการปฏิบัติงานเข้าไป เหมือนกับการปรุงอาหาร หรือตำราทำกับข้าวจะมีวิธีการผสมผสาน จะใส่อะไรก่อนหลัง เป็นต้น
- เคล็ดลับ (Tip Manual) เป็นคู่มือที่ลักษณะเหมือนระดับที่ 1 ระดับที่ 2 แต่เพิ่มเทคนิคเคล็ดลับ ประสบการณ์ในสาขาวิชาชีพเข้าไปต่อยอด หรือเป็นการใส่ความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์เข้าไป เป็นต้น
โครงร่างการเขียนคู่มือ
บทที่ 1 บทนำ
1.1 ความเป็นมา หรือความจำเป็น หรือความสำคัญ
1.2 วัตถุประสงค์
1.3 ขอบเขต
1.4 นิยามศัพท์เฉพาะ หรือคำจำกัดความ
บทที่ 2 บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ
2.1 บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของตำแหน่ง
2.2 ลักษณะงานที่ปฏิบัติ
2.3 โครงสร้างการบริหารจัดการ
บทที่ 3 หลักเกณฑ์วิธีการปฏิบัติงานและเงื่อนไข
3.1 หลักเกณฑ์การปฏิบัติงาน
3.2 วิธีการปฏิบัติงาน
3.3 เงื่อนไข หรือข้อสังเกต หรือข้อควรระวัง หรือสิ่งที่ควรคำนึงในการปฏิบัติงาน
บทที่ 4 เทคนิคในการปฏิบัติงาน
4.1 กิจกรรม หรือแผนปฏิบัติงาน
4.2 ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
4.3 วิธีการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน
4.4 จรรยาบรรณ หรือคุณธรรม หรือจริยธรรมในการปฏิบัติงาน
บทที่ 5 ปัญหาอุปสรรคและแนวทางในการแก้ไขและพัฒนางาน
5.1 ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงาน
5.2 แนวทางแก้ไขและพัฒนา
5.3 ข้อเสนอแนะ
บรรณานุกรม
ภาคผนวก (ถ้ามี)
ประวัติผู้เขียน
บทที่ 1 บทนำ
1.1 ความสำคัญของปัญหา
ส่วนที่แสดงถึงปัญหาและความจำเป็นที่เกิดขึ้น/ที่ต้องการแก้ไข ผลประโยชน์ที่จะได้จากการดำเนินงานตามคู่มือเล่มนี้มีอะไรบ้าง สามารถหยิบยกทฤษฎีต่างๆ เข้ามาสนับสนุนอย่างสมเหตุสมผล มีการอ้างอิงแหล่งที่มาหรืออาจย้ำให้ชัดว่าคู่มือเล่มนี้ สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ อาจจะเพิ่มเติมข้อความว่า ถ้าไม่จัดทำคู่มือดังกล่าวไว้ให้เป็นมาตรฐานการปฏิบัติงาน ผลเสียหายโดยตรงหรือผลเสียหายระยะยาวจะเป็นอย่างไร เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นประโยชน์ของคู่มือ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานต่อไป
ควรเขียนให้กระชับ ไม่เยิ่นเย้อ ประมาณ 1-2 หน้า สามารถทำให้ผู้อ่านเข้าใจและเห็นความสำคัญของการจัดทำคู่มือ การเขียนนิยมเขียนโดยภาพกว้างก่อน เช่น นโยบาย หรือปัญหา แล้วจึงลงมาถึงตัวคู่มือ
1.2 วัตถุประสงค์ (Objectives)
เป็นการแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องการจะให้เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานนั้น
การกำหนดวัตถุประสงค์ที่ดีจะเป็นการช่วยให้การกำหนดขั้นตอนสำหรับปฏิบัติเป็นไปอย่างรัดกุม การกำหนดวัตถุประสงค์ที่ดี ควรประกอบด้วยองค์ประกอบที่ เรียกว่า “SMART”
S - Specific ชัดเจนเฉพาะเจาะจง
M - Measurable สามารถประเมิน วัดผลได้
A - Attainable มีความเป็นไปได้สูงที่จะประสบผลสำเร็จ
R - Relevant ตรงประเด็นที่เราจะแก้ปัญหานั้น
T - Time Bound อยู่ในกรอบระยะเวลาที่กำหนด
1.3 ขอบเขต (Scope)
เป็นการชี้แจงให้ทราบถึงขอบเขตของกระบวนการในคู่มือว่าครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนใดถึงขั้นตอนใด หน่วยงานใด กับใคร ที่ใด และเมื่อใด เช่น ใช้เฉพาะคณะวิทยาศาสตร์
1.4 นิยามศัพท์/คำจัดกัดความ (Definition)
- ให้ความหมายหรือ คำศัพท์ ที่นำมาใช้ในการเขียนคู่มือให้เกิดความเข้าใจตรงกัน ระหว่างผู้ปฏิบัติกับคู่มือ
- คำที่เขียนเป็นนิยามศัพท์เฉพาะ ควรเป็นคำที่เขียนบ่อย คำย่อในคู่มือฉบับนี้
บทที่ 2 บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ
2.1 บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ (Responsibilities)
-
- เขียนเพื่ออธิบายว่าตำแหน่งนี้ต้องมีหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างไร
- มีข้อตกลงให้ปฏิบัติงานให้มีผลสัมฤทธิ์อย่างไร
- มีคุณสมบัติเฉพาะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งอย่างไร
- มีสรรถนะของตำแหน่งอย่างไร
1. ด้านการปฏิบัติ
2. ด้านการวางแผน
3. ด้านการประสานงาน
4. ด้านการบริการ
2.2 ลักษณะงานที่ปฏิบัติ
ลักษณะของงานที่ทำกับบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ มีความสัมพันธ์กันอย่างไร และเกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่นหรือไม่อย่างไร
2.3 โครงสร้างการบริหารจัดการ
อธิบายตำแหน่งงานที่ผู้เขียนคู่มือดำรงอยู่ เขียนในลักษณะ (Tree Diagram) 3 ลักษณะ
1. โครงสร้างองค์กร Org. Chart : ระบุชื่อหน่วยงาน
2. โครงสร้างการบริหาร Adm. Chart : ระบุชื่อตำแหน่งและระดับ
3. โครงสร้างการปฏิบัติงาน Activity Chart : ระบุชื่อผู้ปฏิบัติ
บทที่ 3 หลักเกณฑ์วิธีการปฏิบัติงานและเงื่อนไข
3.1 หลักเกณฑ์การปฏิบัติงาน
1. เขียนอธิบาย ชี้แจงว่า งานนั้นมีกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ กำหนดไว้เป็นหลักเกณฑ์ว่าอย่างไร
2. เขียนสรุปออกมาเป็นภาษาเขียนให้สอดคล้องกับภาษาที่ใช้ในการปฏิบัติงาน
3. ภาษาที่เขียนต้องให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย ไม่ควรลอกมาจากตัวบทกฎหมาย
3.2 วิธีการปฏิบัติงาน
เป็นการอธิบายว่าจะดำเนินการในงานนั้นๆ อย่างไรให้ครบถ้วนถูกต้องตามลำดับของวิธีการที่กำหนด เพื่อให้ผู้อื่นใช้เป็นแนวทางการดำเนินงานให้ได้มาตรฐานเดียวกัน สามารถสืบค้นความเป็นมาได้ และใช้ปฏิบัติงานทดแทนกันได้ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดกระบวนการ
3.3 เงื่อนไข/ข้อสังเกต/ข้อควรระวัง/สิ่งที่ควรคำนึกถึงในการปฏิบัติงาน
-
- สรุปประเด็นสำคัญจากการศึกษากฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ หรือจากการสังเกต
- จดบันทึกในฐานะผู้มีประสบการณ์ในงาน แล้วนำมาเขียนเสนอเป็นเงื่อนไข/ข้อสังเกต/ข้อควรระวัง/สิ่งที่ควรคำนึงถึงการปฏิบัติงานในงานนั้นๆ
- เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้เขียน สามารถนำมาปรับใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
3.4 แนวคิด/งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
-
- ตำรา/บทความที่ค้นมาได้ อ่านเอาเรื่อง จับประเด็นสำคัญให้ครอบคลุมเนื้อหาที่ต้องการ อย่างน้อยให้รู้ว่า ใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร และเกิดผลอย่างไร
- ระบุแหล่งที่มาของข้อมูล เป็นการรักษาจรรยาบรรณของผู้เขียน โดยไม่แอบอ้างผลงานผู้อื่นมาเป็นของตน
บทที่ 4 เทคนิคในการปฏิบัติงาน
4.1 กิจกรรม/แผนปฏิบัติงาน
เป็นการเขียนเสนอให้ผู้อ่านเข้าใจถึงกิจกรรมหรือแผนการปฏิบัติงาน เพื่ออธิบายให้ทราบว่างานนี้จะสำเร็จตามเป้าหมาย โดยมีวิธีการปฏิบัติหรือดำเนินการอย่างไร
4.2 ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
เป็นการอธิบายการทำงานอย่างละเอียด ตั้งแต่ ขั้นตอนลำดับการทำงานความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับงาน ซึ่งสามารถอธิบายโดยการใช้เครื่องมือมาเป็นตัวช่วยอธิบาย โดยระบุถึง
-
- ใคร (ความรับผิดชอบ)
- อะไร (สิ่งที่ต้องทำ)
- อย่างไร (วิธีการหรือเทคนิค)
- เมื่อไร (เวลาหรือความถี่)
- ที่ไหน (ที่ตั้ง สถานที่)
วิธีการเขียนขั้นตอนการปฏิบัติงาน
-
- เขียนในรูปของข้อความ (Wording)
- เขียนในรูปของ Flow chart
- เขียนในรูปของรูปภาพ
- เขียนในรูปของวีดีโอ
- เขียนในรูปของตาราง
- เขียนในรูปของแผนภูมิ
4.3 วิธีการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน
คู่มือฉบับนี้มีการติดตามอย่างไร และมีการประเมินผลอย่างไร หรือหน่วยงานมีเกณฑ์วัดความสำเร็จอย่างไร แนะนำหลักการ PDCA
4.4 จรรยาบรรณ / คุณธรรม / จริยธรรมในการปฏิบัติงาน
เป็นการนำจรรยาบรรณของวิชาชีพนั้นๆ มาประกอบการเขียนอธิบาย
บทที่ 5 ปัญหาอุปสรรคและแนวทางในการแก้ไขและพัฒนางาน
5.1 ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงาน
รวบรวมปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานในการจัดทำคู่มือปฏิบัติงานว่ามีอะไรบ้าง
5.2 แนวทางแก้ไขและพัฒนา
- เสนอแนวทางแก้ไขแต่ละขั้นตอนของการปฏิบัติงาน
- เสนอแนวทางแต่ละด้าน (ด้านหลักเกณฑ์ ด้านวิธีการ ด้านการกำหนดเงื่อนไข ด้านบุคคล ด้านผู้รับบริการ ด้านผู้ปฏิบัติงาน และหรือด้านแบบฟอร์มต่างๆ)
- มองในด้านปัญหาที่ควบคุมได้ ปัญหาที่ควบคุมไม่ได้
ปัญหาอุปสรรค
|
แนวทางแก้ไข
|
การพัฒนางาน
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
5.3 ข้อเสนอแนะ
-
- ต้องมาจากการวิเคราะห์หาสาเหตุ ไม่ใช่สามัญสำนึก
- ต้องเป็นเรื่องใหม่ ถ้าเป็นเรื่องเก่าต้องชี้ให้เห็นถึงความสำคัญ
- ต้องตระหนักถึงข้อจำกัด คน เงิน เวลา ความสามารถ
- ต้องมีรายละเอียดที่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้
- ต้องสามารถนำไปต่อยอดอะไรได้บ้าง ควรทำอะไรเพิ่มเติม เสนอประเด็นที่จะวิเคราะห์ต่อไปได้อีก
- ต้องเป็นข้อเสนอแนะที่ได้มาจากงานจริงๆ ไม่ใช่สรุปมาจากตำรา
การเขียนหรือเสนอแนวคิดของตนเอง
-
- ควรมีการสอดแทรกความคิด ความเห็นเพิ่มเติมในตอนต่างๆ ของเรื่อง อาจเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ ข้อสรุป ข้อเสนอแนะ
- ให้เขียนเป็นแนวคิดของตนเอง โดยมีทฤษฎี หรือผลการศึกษาของผู้อื่นสนับสนุน
การเขียนบรรณานุกรม
รายชื่อสิ่งพิมพ์หรือเอกสารที่ใช้ประกอบการค้นคว้าต้องเขียนหรือพิมพ์ตามแบบมาตรฐานที่กำหนด
โดยแยกบรรณานุกรมสิ่งพิมพ์ภาษาไทย และบรรณานุกรมสิ่งพิมพ์ภาษาต่างประเทศ แต่ละภาษาให้เรียงตามลำดับอักษร แบบพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน และพจนานุกรมภาษาอังกฤษทั่วไป
ภาคผนวก
ส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานที่เขียน แต่ไม่ใช่เนื้อหาหลักของงาน เป็นส่วนที่นำมาเพิ่มขึ้นในตอนท้าย เพื่อช่วยให้ผู้ศึกษาค้นคว้าได้เข้าใจแจ่มแจ้งยิ่งขึ้น ภาคผนวกมีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความจำเป็น หากจะมีควรไว้หน้าต่อจากบรรณานุกรม
ในภาคผนวกของเอกสารทางวิชาการ เช่น งานวิจัย งานวิเคราะห์ งานเขียนคู่มือการปฏิบัติงาน ฯลฯ มักจะประกอบไปด้วย
-
- แบบสอบถาม
- แบบสัมภาษณ์
- รูปภาพ
- รายละเอียดการวิเคราะห์
เอกสารอ้างอิง (Reference Document)
เป็นการชี้แจงให้ผู้อ่านทราบถึงเอกสาร ที่ต้องใช้ประกอบ คู่กัน หรืออ้างอิงถึงกัน เพื่อให้การปฏิบัติงานนั้นๆ สมบูรณ์ ได้แก่ ระเบียบปฏิบัติเรื่องอื่น พระราชบัญญัติ กฎหมาย กฎระเบียบ หรือวิธีการทำงานเป็นต้น
แบบฟอร์มที่ใช้ (Form)
เป็นการชี้แจงให้ผู้อ่านทราบถึงแบบฟอร์มต่างๆ ที่ต้องใช้ในการบันทึกข้อมูลผู้เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานของกระบวนการนั้นๆ