Blog : สรุปประชุมวิชาการจีโนมิกส์และพันธุศาสตร์
รหัสอ้างอิง : 200
ชื่อสมาชิก : ทุเรียน ทาเจริญ
เพศ : หญิง
อีเมล์ : turean@mju.ac.th
ประเภทสมาชิก : บุคลากรภายใน [สังกัด]
ลงทะเบียนเมื่อ : 7/2/2554 10:12:07
แก้ไขล่าสุดเมื่อ : 7/2/2554 10:12:07

รายการบทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งหมดของ Blog : สรุปประชุมวิชาการจีโนมิกส์และพันธุศาสตร์
เทคโนโลยีทางด้านจีโนมิกส์และพันธุศาสตร์ มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว สามารถจะนำมาใช้ศึกษาวิจัยและประยุกต์ทางการแพทย์ คือ การศึกษาสาเหตุและกลไกของโรคพันธุกรรมและโรคที่มีปัจจัยทางพันธุกรรม การวินิจฉัยและทำนายโรค การพัฒนายาและวิธีรักษาแบบใหม่ โดยต้องมีการนำข้อมูลทางพันธุกรรมและจีโนมมาประกอบในการดูแลและรักษาผู้ป่วย ฯลฯ ซึ่งในอนาคตวิธีการรักษาโรคจะจำเพาะต่อตัวบุคคล และมีความถูกต้องแม่นยำมากขึ้น ตัวอย่างที่สำคัญ 2 ชนิด คือหลักการของ Genome Editing และ Precision Medicine มีรายละเอียดดังนี้คือ I.การปรับแต่งจีโนม (GENOME EDITING) เป็นเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนมโดยเปลี่ยนรหัสพันธุกรรมที่ตำแหน่งจำเพาะของสิ่งมีชีวิตให้คงอยู่อย่างถาวร ด้วยการทำให้ดีเอ็นเอสายคู่ ณ จุดที่มีลำดับเบสเป้าหมายแยกออกจากกัน เรียกว่า double-stranded brake (DSB) โดยใช้เอนไซม์ endonuclease ปกติแล้ว หากปรากฏการณ์ DSB เกิดขึ้นตามธรรมชาติและปล่อยทิ้งไว้จะเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต จึงมีกลไกในการซ่อมแซม DSB เช่น Homologous recombination-directed repair (HDR) ซึ่งนำเอาชิ้นส่วนดีเอ็นเอที่ปกติสอดแทรกเข้าไปทดแทนในบริเวณเป้าหมายของจีโนม ส่วน Non-homologus end joining (NHEJ) เป็นการทำให้ส่วนของดีเอนเอที่ผิดปกติหลุดออกไป และเชื่อมปลายโครโมโซมทั้ง 2 ข้างที่เหลืออยู่เข้าหากัน ทำให้ยีนที่ผิดปกติไม่สามารถแสดงออกได้อีกต่อไป (เรียกว่า gene knockout) โดยเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนมที่ได้รับการพัฒนาในปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้เอนไซม์ที่เรียกว่า programmable nuclease ซึ่งมีหลายชนิด เช่น meganuclease และ CRISPR เป็นต้น ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์สามารถนำไปใช้รักษาโรคที่เกิดจากไวรัสได้ด้วย เช่น HIV, human papilloma virus (HPV), ไวรัสตับอักเสบชนิดบี (hepatitis B virus) เป็นต้น สาเหตุเนื่องมาจากจีโนมของมนุษย์ที่ถูกค้นพบในมนุษย์มียีนกว่า 25,000 ยีน ในจำนวนนี้มีประมาณ 3,000 ยีนที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรค ดังนั้นปัจจัยที่ทำให้การวิจัยที่มุ่งศึกษาพันธุกรรมของโรคต่างๆ ได้แก่ ข้อมูลลำดับดีเอ็นเอจากโครงการจีโนมมนุษย์ ต้นทุนในการหาลำดับเบสในดีเอ็นเอลดลงอย่างมาก และข้อมูลลำดับเบสที่เกี่ยวข้องกับโรคต่างๆ ในมนุษย์มีมากขึ้น ดังนั้นจากปัจจัยต่างๆเหล่านี้ ทำให้เกิดแนวทางการศึกษากลไกการทำงานของยีนกับการเกิดโรคเพื่อนำไปสู่แนวทางในการรักษาคือ การเปลี่ยนลำดับเบสหรือการปรับแต่งจีโนมในเซลล์หรือเนื้อเยื่อที่เกิดโรค โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากยีนเดียว (monogenic disease) เช่น โรคฮีโมฟีเลีย (hemophilia) เป็นต้น II. Precision medicine การแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine) คือ การที่แพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญ และสามารถใช้ข้อมูลจากผลการวิเคราะห์ตัวอย่างจากหลากหลายวิธีจากหลายแหล่ง เช่น เนื้อเยื่อ เลือด ประวัติคนไข้ พฤติกรรมการใช้ชีวิต อาหารฯลฯ แล้วจึงวิเคราะห์ผลออกมา ซึ่งนำไปสู่การใช้ยาที่มีคุณสมบัติเฉพาะ ในปริมาณและช่วงเวลาที่ต้องกระทำอย่างแม่นยำ แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ยุคใหม่ โดยต้องใช้คอมพิวเตอร์ เรียกข้อมูลคนไข้จากฐานข้อมูลออนไลน์ แต่ขณะเดียวกัน เมื่อแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์มีทักษะใหม่ในการสื่อสารด้วย ICT ก็ทำให้แพทย์ที่อยู่ห่างไกล แพทย์ทั่วไป ก็สามารถใช้บริการผู้เชี่ยวชาญจากส่วนกลางในประเทศ หรือจากประเทศอื่นๆได้ด้วย ข้อดี การขยายโอกาสการให้บริการผู้ป่วย อย่างน้อยในขั้นการวินิจฉัยเบื้องต้น ก็ทำได้มากขึ้น โดยไม่จำกัดด้วยเวลาและสถานที่ ข้อเสีย ค่าใช้จ่ายสูง เหมาะสำหรับคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์ ดังนั้นกล่าวโดยสรุปสองหลักการนี้นำมาใช้ในการวิจัยต่าง ๆเป็นอย่างมากอันจะก่อให้เกิดประโยชน์มากมายทางด้านการแพทย์ในปัจจุบันเป็นอย่างมากก่อให้เกิดวิทยาการใหม่ๆมากมายแก่วงการแพทย์เป็นอย่างมากที่สามารถช่วยเหลือคนไข้ให้หายจากโรคและสามารถใช้เป็นแนวทางในการป้องกันการเกิดโรคไดในอนาคต
สรุปประชุมวิชาการจีโนมิกส์และพันธุศาสตร์ » Application of Molecular markers in plant Breeding
จีโนม (Genome) คือ สารพันธุกรรมอันได้แก่ ดีเอ็นเอ หรือโครโมโซม ที่มีทั้งหมดในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตหรือข้อมูลทั้งหมดของสิ่งมีชีวิต ดังนั้นการศึกษาทางด้านจีโนมและแหล่งพันธุกรรม เพื่อทำsequence จีโนมของพืช แล้วสร้างแผนที่พันธุกรรมที่จำเป็นต่อการระบุตำแหน่งและทิศทาง Molecular Markers คือสิ่งบ่งชี้ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตโดยต้องอาศัยวิธีการต่างๆดังนี้คือDNA sequence, Isozyme, Gene mapping ส่วน Marker-assisted breedingอาจนำไปใช้ในด้านPlant variety protection,Genetic diversityและ Purify testing หลักการจำแนกMarkers 1. DNA Marker typesที่เป็น Non-SNP markers เช่น RFLP,AFLP,RAPD,SSR เป็น วิธีการนี้ไม่ต้องอาศัย PCR (Polymerase Chain Reaction) 2. SNP (Single Nucleotide Polymorphism)วิธีการนี้ต้องอาศัย PCR ดังนั้นDNA Markersที่ดีจะต้องมีลักษณะpolymorphism Co-dominance inheritance ตัวอย่างการนำ Molecular markers ไปประยุกต์ 1.การตรวจสอบขั้นตอนที่เรียกว่า Trait Genotyping ตัวอย่างเช่น มีการใช้ SSR (simple sequence repeat) เพื่อจำแนกพันธุ์และกำหนดความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมโดยใช้ไพรเมอร์ที่มีบริเวณที่แตกต่างกันอย่างง่ายโยอาศัยหลักการที่ว่าสายพันธุ์ที่มีสัณฐานคล้ายกันมากและมีไอไซม์เหมือนกันสามารถจำแนกด้วยการวิเคราะห์ SSR โดยวิธีนื้เป็นวิธีที่มีคุณภาพในการจำแนกสายพันธุ์หรืออาจมีการทำ genotyping routine crop 2. การตรวจสอบขั้นตอนที่เรียกว่าPurity testingโดยอาจมีการทดสอบ parental lines ,New varietyและF1 hybridsนอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้ทดสอบ Homogeneity testingและ Hybridity testingโดยต้องดู 4SNP markers 100% และGenotyping data 100% 3.การตรวจสอบขั้นตอนที่เรียกว่าMolecular Plant Pathologyเช่น การแบ่งแยกเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคออกเป็นสามกลุ่ม คือ 1.DNA Virus 2.RNA Virus and Viroid 3.Other pathogens วิธีการเหล่านี้จะทำให้สามารถคัดเลือกพันธุ์ที่ต้านทานโรคและสามารถจำแนกสายพันธ์ที่มีความต้านทานโรค นอกจากนี้ยังอาจมีการใช้วิธีการ Mapping populationและTrue-to-type analysisเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในกระบวนการปรับปรุงพันธุ์พืชด้วยเคริ่องหมายโมเลกุลร่วมกับการใช้ High-throughput SNPs gene typing (Douglas Scientific) โดยอาศัยหลักการของHomogeneity testing และ Hybridity testingซึ่งจะทำให้สามารถวิเคราะห์ตัวอย่างได้ถึง 120,000 ตัวอย่าง/วัน/คน (หลักการ) ทำให้สามารถลดระยะเวลาในการปรับปรุงพันธุ์
คำสำคัญ :
กลุ่มบทความ : กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
หมวดหมู่ : กลุ่มงานสายวิชาการ
สถิติการเข้าถึง : เปิดอ่าน 3795  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง
ผู้เขียน ทุเรียน ทาเจริญ  วันที่เขียน 13/3/2560 9:27:32  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 11/11/2567 13:02:38
สรุปประชุมวิชาการจีโนมิกส์และพันธุศาสตร์ » จีโนมิกส์และพันธุศาสตร์
เทคโนโลยีทางด้านจีโนมิกส์และพันธุศาสตร์ มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว สามารถจะนำมาใช้ศึกษาวิจัยและประยุกต์ทางการแพทย์ คือ การศึกษาสาเหตุและกลไกของโรคพันธุกรรมและโรคที่มีปัจจัยทางพันธุกรรม การวินิจฉัยและทำนายโรค การพัฒนายาและวิธีรักษาแบบใหม่ โดยต้องมีการนำข้อมูลทางพันธุกรรมและจีโนมมาประกอบในการดูแลและรักษาผู้ป่วย ฯลฯ ซึ่งในอนาคตวิธีการรักษาโรคจะจำเพาะต่อตัวบุคคล และมีความถูกต้องแม่นยำมากขึ้น ตัวอย่างที่สำคัญ 2 ชนิด คือการปรับแต่งจีโนม (GENOME EDITING) เป็นเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนมโดยเปลี่ยนรหัสพันธุกรรมที่ตำแหน่งจำเพาะของสิ่งมีชีวิตให้คงอยู่อย่างถาวร โดยเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนมที่ได้รับการพัฒนาในปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้เอนไซม์ที่เรียกว่า programmable nuclease ซึ่งมีหลายชนิด เช่น meganuclease และ CRISPR เป็นต้น ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์สามารถนำไปใช้รักษาโรคที่เกิดจากไวรัสได้ด้วย เช่น HIV, human papilloma virus (HPV), ไวรัสตับอักเสบชนิดบี (hepatitis B virus) เป็นต้น ทำให้เกิดแนวทางการศึกษากลไกการทำงานของยีนกับการเกิดโรคเพื่อนำไปสู่แนวทางในการรักษาคือ การเปลี่ยนลำดับเบสหรือการปรับแต่งจีโนมในเซลล์หรือเนื้อเยื่อที่เกิดโรค โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากยีนเดียว (monogenic disease) เช่น โรคฮีโมฟีเลีย (hemophilia) เป็นต้นส่วน การแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine) คือ การที่แพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญ และสามารถใช้ข้อมูลจากผลการวิเคราะห์ตัวอย่างจากหลากหลายวิธีจากหลายแหล่ง ดังนั้นกล่าวโดยสรุปสองหลักการนี้นำมาใช้ในการวิจัยต่าง ๆเป็นอย่างมากอันจะก่อให้เกิดประโยชน์มากมายทางด้านการแพทย์ในปัจจุบันเป็นอย่างมากก่อให้เกิดวิทยาการใหม่ๆมากมายแก่วงการแพทย์เป็นอย่างมากที่สามารถช่วยเหลือคนไข้ให้หายจากโรคและสามารถใช้เป็นแนวทางในการป้องกันการเกิดโรคไดในอนาคต
คำสำคัญ : GENOME EDITING  Precision medicine  
กลุ่มบทความ : กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
หมวดหมู่ : กลุ่มงานสายวิชาการ
สถิติการเข้าถึง : เปิดอ่าน 13494  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง
ผู้เขียน ทุเรียน ทาเจริญ  วันที่เขียน 22/8/2559 16:07:38  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 22/11/2567 4:19:40

URL สำหรับอ้างอิงถึงหน้านี้