MJU Thank you Press Party 2022 ม.แม่โจ้ จัดสานสัมพันธ์ชาวแม่โจ้ – สื่อมวลชน อบอุ่น ประทับใจ
วันที่ 22/07/2565    911 ครั้ง    ประเภท ข่าวกิจกรรม    ฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม 2565 รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นประธานเปิดงาน MJU Thank you Press Party 2022 ผู้บริหารมหาวิทยาลัยพบปะและขอบคุณสื่อมวลชน ประจำปี 2565 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ชาวแม่โจ้ - พี่น้องสื่อมวลชน โอกาสนี้ ได้รับเกียรติจากนายวรณาณ บุญณราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกล่าวต้อนรับ มีคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยแม่โจ้ นายกสมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ รองประธานกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และคณะสื่อมวลชนทุกแขนงเข่าวมงานคับคั่ง ณ โรงแรม MELI? Chiang Mai

อาจารย์ ดร.สุดเขต สกุลทอง ผู้ช่วยอธิการบดี ประธานคณะกรรมการสื่อสารองค์กรมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทุกอย่างรอบตัว ทั้งรูปแบบการทำงาน การดำรงชีวิตในสังคม รวมถึงรูปแบบการเรียนการสอนที่ทำให้ทุกคนต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เมื่อทางจังหวัดเชียงใหม่ได้มีประกาศให้สถานศึกษาสามารถเปิดทำการในพื้นที่ได้แล้ว มหาวิทยาลัยแม่โจ้จึงได้เปิดการเรียนการสอนในรูปแบบปกติผสมผสานกับรูปแบบออนไลน์ตามที่เห็นสมควร และดำเนินตามมาตรการที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดให้สามารถดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ได้ต่อไป

การจัดกิจกรรมมหาวิทยาลัยแม่โจ้พบปะและขอบคุณสื่อมวลชน MJU Thank You Press Party 2022 ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้พบปะและขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนงที่ได้ร่วมกันมีส่วนในการเผยแพร่ข่าวสารกิจกรรม งานวิจัยต่าง ๆ ซึ่งล้วนเป็นผลประโยชน์แก่ภาคประชาสังคมให้สามารถนาไปต่อยอด เกิดความสัมพันธ์อันดีร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยแม่โจ้และเครือข่ายทุกภาคส่วน รวมถึงแนวนโยบายในการพัฒนามหาวิทยาลัยแม่โจ้ให้พี่น้องสื่อมวลชนทุกท่านได้รับทราบและร่วมกันเผยแพร่ข่าวสารกิจกรรมต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้สู่สาธารณชน”
รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2477 หรือปี ค.ศ.1934 ปัจจุบันจะมีอายุครบ 88 ปี และมีการวางยุทธศาสตร์แม่โจ้ 100 ปี เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกยุคดิจตอล มีคณะที่ทาการเรียนการสอนรวม 18 คณะ โดยคณะใหม่ที่เพิ่งเปิดล่าสุด ได้แก่ คณะสัตวแพทยศาสตร์ ซึ่งได้เริ่มเปิดดำเนินการคลีนิครักษาสัตว์แล้ว และคณะพยาบาลศาสตร์ ซึ่งปีนี้มีนักศึกษาใหม่เข้าเรียนเป็นปีแรกรวม 50 คน มีหน่วยงานสนับสนุนระดับสำนัก ได้แก่ สำนักบริหารและพัฒนาวิชาการ สำนักหอสมุด และสำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร ซึ่งผู้บริหารทุกท่านเกือบทั้งหมดที่ไม่ได้ติดภารกิจก็ได้มาร่วมพบปะและขอบคุณสื่อมวลชนในครั้งนี้ด้วย

ในช่วงสถานการณ์โควิด – 19 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม และได้ลงนามความร่วมมือกับอำเภอสันทราย จัดตั้ง MJU Well-being hospitech และศูนย์พักคอย โดยมีบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลสันทรายร่วมดูแลประชาชนในพื้นที่ร่วมกัน เห็นได้ว่าภารกิจสำคัญในการผลิตกำลังคนคุณภาพและเผยแพร่องค์ความรู้เพื่อประโยชน์แก่สังคมชุมชน มีความจำเป็นต้องอาศัยเครือข่ายทุกภาคส่วนให้การสนับสนุน โดยเฉพาะสื่อสารมวลชนทุกแขนงถือเป็นเครื่องมือที่มีพลังมหาศาล เพราะข่าวสารต่าง ๆ ล้วนถูกส่งต่ออย่างรวดเร็วผ่านทางโลกออนไลน์ โอกาสนี้ ขอขอบคุณจังหวัดเชียงใหม่ ขอบพี่น้องสื่อมวลชน ขอบคุณเครือข่ายทุกภาคส่วนที่ได้ให้ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ด้วยดีมาตลอด ขอให้ทุกท่านคิดถึงแม่โจ้ในฐานะที่เป็นมหาวิทยาลัยแห่งชีวิต มหาวิทยาลัยของประชาชน มหาวิทยาลัยของชาวเชียงใหม่ที่มุ่งสร้างประโยชน์เพื่อสังคมร่วมกับทุกท่านต่อไป”

บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างอบอุ่น สนุกสนาน ประทับใจ มีกิจกรรมนันทนาการสานสัมพันธ์พี่น้องสื่อมวลชนและคณะผู้บริหาร พร้อมมอบของขวัญพิเศษแทนคำขอบคุณ ร่วมกระชับความสัมพันธ์อันดีของพี่น้องชาวสื่อฯ กับ ผู้บริหารมหาวิทยาแม่โจ้

นอกจากนั้นจะได้พบกับมีกิจกรรมพิเศษ โชว์ผลงานวิจัยและต่อยอดนวัตกรรม “พืชกระท่อม - กัญชง พืชสมุนไพร พืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่น่าจับตา” จัดแสดงตั้งแต่การปลูก สายพันธุ์ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ จนถึงช่องทางการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยทีมนักวิจัย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เนตรนภา อินสลุด หัวหน้าศูนย์พืชกระท่อมแห่งมหาวิทยาลัยแม่โจ้ คณะผลิตกรรมการเกษตร , รองศาสตราจารย์ ดร. ดวงพร อมรเลิศพิศาล หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมทางการเกษตรสำหรับบัณฑิตผู้ประกอบการ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กาญจนา นาคประสม รองคณบดีคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตรฝ่ายบริการวิชาการและวิจัย พร้อมทีมงาน ที่จะมาร่วมนำเสนอ พร้อมจัดเมนูสุดพิเศษเพื่อสุขภาพให้สื่อมวลชนได้ชิม และเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ผลงานต่อไป