AI ในการทบทวนวรรณกรรมสำหรับการวิจัย
วันที่เขียน 26/2/2568 18:03:01     แก้ไขล่าสุดเมื่อ 9/3/2568 22:24:40
เปิดอ่าน: 118 ครั้ง

การใช้ AI ในการทบทวนวรรณกรรมสำหรับการวิจัยสามารถช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ อย่างไรก็ตาม ควรใช้ AI อย่างระมัดระวังและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอยู่เสมอ

 

การใช้ AI ในการทบทวนวรรณกรรมสำหรับงานวิจัย

 

         การใช้ AI ในการทบทวนวรรณกรรมงานวิจัย (Literature Review) เป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในยุคปัจจุบัน เนื่องจากเทคโนโลยี AI สามารถช่วยลดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างมาก

        Generative AI เป็นเทคโนโลยีที่ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) เพื่อประมวลผลข้อมูลและสร้างเนื้อหาที่ตอบสนองต่อคำถามของผู้ใช้ โดยให้ผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจงกว่าการค้นหาข้อมูลแบบดั้งเดิม

        การเปรียบเทียบ Generative AI กับการค้นหาแบบดั้งเดิม  โดย Generative AI จะให้คำตอบที่เจาะจง เข้าใจบริบทของคำถาม และสามารถสรุปข้อมูลจากหลายแหล่ง ส่วนการค้นหาแบบดั้งเดิมนั้นจะแสดงรายการลิงก์ที่ต้องอ่านเพิ่มเติมเอง ต้องใช้คำค้นที่ซับซ้อนเพื่อหาข้อมูลและใช้เวลาในการค้นหาและอ่านหลายแหล่

 

เหตุผลที่ต้องทบทวนวรรณกรรม

  • เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับงานวิจัย
  • ช่วยเลือกวิธีวิจัยที่เหมาะสม
  • หลีกเลี่ยงการทำวิจัยซ้ำ
  • พัฒนาสมมติฐานและระบุช่องว่างของงานวิจัย

 

กระบวนการทบทวนวรรณกรรมงานวิจัย ของ AI

  1. การค้นหาและกรองเอกสาร: AI สามารถช่วยค้นหางานวิจัยที่เกี่ยวข้องจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น PubMed, Google Scholar หรือ IEEE โดยใช้คำสำคัญ (keywords) และกรองผลลัพธ์ให้ตรงกับหัวข้อที่สนใจ ลดการเสียเวลาในการอ่านเอกสารที่ไม่เกี่ยวข้อง
  2. การสรุปเนื้อหา: ครื่องมือ AIสามารถสรุปบทคัดย่อหรือเนื้อหาหลักของงานวิจัยได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้นักวิจัยเข้าใจภาพรวมโดยไม่ต้องอ่าน paperทุกฉบับ
  3. การวิเคราะห์แนวโน้ม: AI สามารถระบุแนวโน้มในวงการวิจัย เช่น หัวข้อที่กำลังได้รับความสนใจ วิธีการวิจัยที่นิยม หรือช่องว่างของงานวิจัย (research gaps) ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเมตา (metadata) หรือเนื้อหาในเอกสาร
  4. การจัดกลุ่มและการจัดระเบียบงานวิจัย: AI บางตัวสามารช่วยจัดกลุ่มวิจัยที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน และจัดระเบียบงานวิจัยตามหัวข้อหรือประเด็นต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระบบ ทำให้ง่ายต่อการทบทวนและอ้างอิง สามารถช่วยจัดรูปแบบการอ้างอิง (citations) และตรวจสอบความถูกต้องของแหล่งที่มาได้อัตโนมัติ
  5. การแปลและเข้าถึงงานวิจัยหลายภาษา: หากงานวิจัยอยู่ในภาษาต่างประเทศ AI สามารถแปลเนื้อหาให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ช่วยขยายขอบเขตการทบทวนวรรณกรรม

 

ตัวอย่าง AI ที่ใช้สำหรับทบทวนวรรณกรรม

AI สำหรับค้นหาข้อมูล

  • Perplexity: ค้นหาและสรุปข้อมูลจากหลายแหล่ง สรุปข้อมูลกระชับเข้าใจง่าย อ้างอิงแหล่งข้อมูลชัดเจน ค้นหาช้อมูลเบื้องต้นได้รวดเร็ว https://www.perplexity.ai/ 
  • ResearchRabbit: วิเคราะห์และแนะนำบทความที่เกี่ยวข้องแบบอัตโนมัติ เป็นเหมือน Spotify สำหรับงานวิจัย ใช้งานง่าย interface สวยงาม https://www.researchrabbit.ai/ 
  • Connected Papers: สร้างคอลเล็กชันบทความตามหัวข้อที่น่าสนใจ ติดตามนักวิจัยและวรสารที่น่าสนใจ เห็นภาพรวมของงานวิจัยในสาขา เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างแผนภาพรวมความเชื่อมโยงระหว่างบทความวิชาการ https://www.connectedpapers.com/
  • SciSpace: สรุปและแปลบทความวิชาการให้เข้าใจง่าย สกัดข้อมูลสำคัญ เช่น วิธีวิจัย ผลการศึกษา สร้างการอ้างอิงอัตโนมัติ ประหยัดเวลาในการอ่านและทำความเข้าใจ รองรับการอัพโหลด PDF มีฟีเจอร์ช่วยจดบันทึกและไฮไลท์ เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ AI ในการวิเคราะห์และทำความเข้าใจกับบทความวิชาการ https://scispace.com/
  • Consensus: วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และสกัดเนื้อหาสำคัญอัตโนมัติ ลดเวลุในการทบทวนวรรณกรรมรองรับการอัพโหลด PDF ลดอคติในการคัดเลือกงานวิจัย แชร์ข้อมูลระหว่างนักวิจัยได้ง่าย  เป็นการสังเคราะห์และสรุปความเห็นพ้องต้องกันจากงานวิจัยต่าง ๆ ที่ศึกษาในประเด็นเดียวกัน เพื่อแสดงให้เห็นองค์ความรู้ที่เป็นที่ยอมับในวงวิชาการ https://consensus.app/

 

AI สำหรับเรียบเรียงข้อมูล ใช้ช่วยสรุปและเขียนเนื้อหาทบทวนวรรณกรรม

 

เทคนิคการเขียน Prompt ที่ดี

  • Persona: ระบุบทบาทผู้ถาม (เช่น นักวิจัย, อาจารย์)
  • Task: ระบุสิ่งที่ต้องการทราบอย่างชัดเจน
  • Context: ให้บริบทเพิ่มเติมเพื่อให้ AI เข้าใจ
  • Format: กำหนดรูปแบบคำตอบที่ต้องการ

 

ข้อควรระวังของการใช้ AI สำหรับทบทวนวรรณกรรม

      การใช้ AI ในการทบทวนวรรณกรรมงานวิจัยมีข้อดีหลายประการ เช่น ช่วยประหยัดเวลา เพิ่มความแม่นยำ และทำให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน อย่างไรก็ตามการใช้ AI  ก็มีข้อควรระวังบางประการ AI อาจไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาที่ซับซ้อนหรือไม่ชัดเจนได้ทั้งหมด และอาจมีอคติในการเลือกงานวิจัย ดังนั้นผู้ใช้งานควร:

  • ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้จาก AI
  • ใช้วิจารณญาณในการเลือกบทความของตนในการตัดสินใจ
  • อ้างอิงแหล่งข้อมูลอย่างเหมาะสม

คำสำคัญ :
กลุ่มบทความ :
หมวดหมู่ :
แชร์ :
https://erp.mju.ac.th/acticleDetail.aspx?qid=1557
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)
ไม่มีข้อมูลตามเงื่อนไขที่ท่านกำหนด
รายการบทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้หมวดหมู่ : กลุ่มงานช่วยวิชาการ
การจัดการของเสียสารเคมีและของเสียอันตราย » การจัดการของเสียสารเคมีและของเสียอันตราย
การจัดการของเสียสารเคมีและของเสียอันตราย ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1.การจัดแยกประเภท 2.การจัดเก็บของเสีย 3.การบันทึกปริมาณของเสีย 4.การรายงานปริมาณของเสีย 5.การเก็บรวบรวมของเสียก่อนนำไปกำจัด
  กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร   กลุ่มงานช่วยวิชาการ
ผู้เขียน ภานรินทร์ ปรีชาวัฒนากร  วันที่เขียน 25/12/2567 15:27:30  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 9/3/2568 13:27:39   เปิดอ่าน 312  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง
มาตรฐานความปลอดภัยห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวกับสารเคมี (ESPReL Checklist) » มาตรฐานความปลอดภัยห้องปฏิบัติการ (ESPReL Checklist)
มาตรฐานความปลอดภัยห้องปฏิบัติการด้วย ESPReL Checklist ประกอบด้วย 7 องค์ประกอบหลัก คือ องค์ประกอบที่ 1 การบริหารระบบการจัดการความปลอดภัย องค์ประกอบที่ 2 ระบบการจัดการสารเคมี องค์ประกอบที่ 3 ระบ...
  กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร   กลุ่มงานช่วยวิชาการ
ผู้เขียน ภานรินทร์ ปรีชาวัฒนากร  วันที่เขียน 16/12/2567 15:44:32  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 9/3/2568 22:12:35   เปิดอ่าน 1261  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง