การศึกษาการประยุกต์ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีพลาสมาอุณหภูมิต่า ในการเพิ่มคุณภาพการ
หุงสุกของข้าวเหนียวก่า พันธุ์พื้นเมืองจา นวน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ ก่า ดอยสะเก็ด ก่า ลืมผัว และก่า
พะเยา โดยการฉายพลาสมาที่ผลิตได้จากก๊าซจานวน 3 ชนิด ประกอบด้วยออกซิเจน อาร์กอน และ
อากาศ เป็นเวลา 10, 20 และ 30 นาที ผลการศึกษาพบว่า เมล็ดข้าวเหนียวก่า พันธุ์พื้นเมืองที่ผ่านการ
ฉายด้วยพลาสมาที่ผลิตได้จากก๊าซทั้ง 3 ชนิดนั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยมีคุณภาพในการหุงสุกดี
ขึ้น ซึ่งพบว่าโครงสร้างผิวของเมล็ดข้าวเหนียวก่าพันธุ์พื้นเมืองเปลี่ยนจากความไม่ชอบ
(hydrophobic) ไปเป็ นชอบน้า (hydrophilic) ได้ จากผลการวัดมุมสัมผัสของน้าบนผิวเมล็ดข้าว
(contact angle) ที่มีค่าที่ลดลง เปอร์เซ็นต์การดูดซึมน้าของเมล็ดเพิ่มมากขึ้น คุณสมบัติทางความ
ร้อนที่มีค่าเอนทาลปี ลดลง และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผิวของเมล็ดข้าวเหนียวก่า พื้นเมืองที่มี
ลักษณะขรุขระและเป็นรูพรุนเกิดขึ้น ทา ให้เมล็ดข้าวเหนียวก่า พันธุ์พื้นเมืองทั้งสามสายพันธุ์มี
ความสามารถในการดูดซึมน้า เข้าสู่ภายในเมล็ดได้มากขึ้น เมื่อผ่านกระบวนการหุงสุกในระยะเวลา
ที่เท่ากัน ทา ให้ผลการทดสอบทางประสาทสัมผัสของเนื้อสัมผัสและการเกาะตัวของเมล็ดข้าว และ
การวิเคราะห์เนื้อสัมผัสของข้าวเหนียวก่า หุงสุก มีลักษณะที่นิ่มขึ้นและเกิดการเกาะตัวของเมล็ดข้าว
เหนียวก่า ได้มากกว่าข้าวเหนียวก่า พันธุ์พื้นเมืองในชุดควบคุม ในขณะที่ข้าวเหนียวก่า พันธุ์พื้นเมือง
หุงสุกที่ผ่านการฉายพลาสมาให้กลิ่น รสชาติ และความชอบโดยรวมไม่มีความแตกต่างจากข้าว
เหนียวก่า พื้นเมืองหุงสุกที่ไม่ได้ผ่านการฉายพลาสมา นอกจากนั้นการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมีของหมู่ฟังก์ชันในส่วนพื้นผิวของเมล็ดข้าวเหนียวก่าพันธุ์พื้นเมืองที่ผ่านการฉายพลาสมาจากเทคนิค FTIR O- ที่พื้นผิวเมล็ดข้าว และทาให้ปริมาณสารที่สาคัญในกลุ่มแอนโทไซยานินและแกมมา-ออไรซานอลจากข้าวเหนียวก่าพันธุ์พื้นเมืองทั้ง สายพันธุ์นั้นมีปริมาณที่เพิ่มขึ้น โดยพบว่าการฉายด้วยพลาสมาที่ผลิตจากก๊าซออกซิเจนเป็นเวลา 20 นาที ทาให้ข้าวเหนียวก่าพันธุ์ลืมผัวมีปริมาณของสารแอนโทไซยานินมากที่สุด รองลงมาคือ ก่าดอยสะเก็ดและก่าพะเยา ตามลาดับ ขณะที่ข้าวเหนียวก่าพะเยามีปริมาณสารแกมมา ออไรซานอลมากที่สุด รองลงมาคือก่าดอยสะเก็ดและก่าลืมผัว ตามลาดับ ดังนั้นเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของพลาสมาอุณหภูมิต่าที่ผลิตได้จากก๊าซทั้ง 3 20 นาที มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเพิ่มคุณภาพการหุงสุกของข้าวเหนียวก่าพันธุ์พื้นเมือง รองลงมา คือ พลาสมาที่ผลิตได้จากอากาศและก๊าซอาร์กอน ตามลาดับ จากผลการทดลองสามารถสรุปได้ว่าเทคโนโลยีพลาสมาอุณหภูมิต่ามีประสิทธิภาพในการปรับปรุงคุณภาพการหุงของข้าวเหนียวก่าพันธุ์พื้นเมืองของไทย