ภาวะการมีงานทำ และผลสัมฤทธิ์ของผลการเรียนรู้ วิชาเอกการบริหารการเงินและการลงทุนหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ปีการศึกษา 2567

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภาวะการมีงานทำ และผลสัมฤทธิ์ของผลการเรียนรู้ของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาวิชาเอกการบริหารการเงินและการลงทุน หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในปีการศึกษา 2567 ซึ่งการวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้วิธีการเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถาม การวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1) ศึกษาภาวะการมีงานทำจากบัณฑิต จำนวน 32 คน 2) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ของผลการเรียนรู้ของบัณฑิต และนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ซึ่งเป็นนักศึกษาชั้นปีสุดท้าย จำนวน 33 คน โดยใช้การวิเคราะห์ในรูปแบบสถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistic) ซึ่งประกอบด้วย ค่าความถี่ (Frequency) อัตราส่วนร้อยละ (Percentage) และค่าเฉลี่ย (Means)

ผลการศึกษาในส่วนของภาวะการมีงานทำของบัณฑิต พบว่าบัณฑิต ส่วนใหญ่มีงานทำ คิดเป็นร้อยละ 81.75 โดยลักษณะขององค์กรที่บัณฑิตทำงานด้วยมากที่สุด คือองค์กรไทยภายในประเทศในภาคเอกชน ซึ่งมีบัณฑิตที่ได้งานทำตรงตามสาขาวิชาที่สำเร็จการศึกษา คิดเป็นร้อยละ 34.48 ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานในตำแหน่งพนักงานการเงินมากที่สุด และส่วนใหญ่มีระยะเวลารองานทำอยู่ในช่วง 1 – 3 เดือน ซึ่งมีระยะเวลาในการทำงานมาแล้วอยู่ในช่วง 1 – 6 เดือน และ1-2 ปี โดยส่วนมากได้รับเงินเดือนระหว่าง 15,001 - 20,000 บาท และมีบัณฑิตไม่ได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น สำหรับปัจจัยเสริมที่ส่งผลต่อการได้งานทำ บัณฑิตส่วนใหญ่เห็นว่าภาษาอังกฤษเป็นปัจจัยที่สำคัญ มีใบอนุญาตหรือใบประกอบวิชาชีพ การมีความสามารถด้านภาษาจีน ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ ความสามารถพิเศษด้านอื่นๆ สำหรับผลการศึกษาของผลสัมฤทธิ์ของผลการเรียนรู้ พบว่านักศึกษาชั้นปีที่ 4 และบัณฑิตมีผลสัมฤทธิ์ของผลการเรียนรู้ตามผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตร (PLOs) ปี 2565 ในระดับมาก ส่วนผลสัมฤทธิ์ของผลการเรียนรู้ที่จำแนกตามความรู้ความสามารถเฉพาะด้านทางการเงิน นักศึกษาชั้นปีที่ 4 และบัณฑิต มีผลสัมฤทธิ์อยู่ในระดับปานกลาง

This study aims to investigate the employment status and learning achievement of graduates majoring in Financial Management and Investment under the Bachelor of Business Administration Program, Faculty of Business Administration, Maejo University, in the academic year 2024. A quantitative research methodology was employed, utilizing a questionnaire as the primary data collection instrument. The research was conducted in two parts: (1) an analysis of employment status among 32 graduates, and (2) an evaluation of learning achievement among 33 individuals comprising both graduates and final-year (fourth-year) students. Data were analyzed using descriptive statistical methods, including frequency, percentage, and mean.

Findings on the employment status of graduates revealed that the majority (81.75%) were employed. Most were employed by domestic Thai organizations in the private sector. Among these, 34.48% were employed in positions that were directly related to their field of study. The most common job title among the graduates was finance officer. A majority of the graduates reported a job-seeking period of between 1 to 3 months. Regarding employment duration, most had been working for a period ranging from 1 to 6 months or 1 to 2 years. The majority reported a monthly salary between 15,001 and 20,000 Baht. None of the graduates had pursued further education at the postgraduate level. In terms of supplementary factors influencing employment, most graduates indicated that English language proficiency was the most significant factor. Other important factors included possessing a professional license or certification, proficiency in Chinese, skills in computer and information systems, and other specialized abilities. Regarding learning achievement, both fourth-year students and graduates demonstrated a high level of achievement based on the Program Learning Outcomes (PLOs) for the academic year 2022. However, when specifically analyzing achievement related to domain-specific financial knowledge and competencies, both groups exhibited a moderate level of learning achievement.