- 1 ใช้ประโยชน์เชิงสาธารณะ คือ การนำเอาข้อมูลของผลงานวิจัยไปการพัฒนาและประยุกต์ใช้โดยเฉพาะด้านการเกษตร การพัฒนาเกษตรให้เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่มีความเป็นผู้ประกอบการมากขึ้น ให้สอดคล้องบริบทพื้นที่ ความเชื่อสังคมและวัฒนธรรม มีความคิดสร้างสรรค์ มีการวางแผนการผลิต
- 2. การใช้ประโยชน์เชิงนโยบาย คือ นำผลจากการวิจัยใช้เป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายตามแผนพัฒนาท้องถิ่น ด้านการส่งเสริมความรู่ พัฒนาทักษะ เพื่อโอกาสการเข้าถึงข้อมูลการผลิต การส่งเสริมการค้า ผ่านการบูรณาการ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐหรือหน่วยงานภาคเอกชน
- 3. การใช้ประโยชน์เชิงพานิชย์ คือ นำข้อมูลในการตัดสินใจทั้งด้านการผลิต การตลาด และการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ฯลฯ นำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพทางการผลิตต่อไป
- 4. ใช้ประโยชน์ทางอ้อมของงานวิจัย คือ ส่งเสริมความรักและหวงแหน เห็นคุณค่าของอาชีพเกษตรกรที่ตกทอดจากบรรพบุรุษ โดยการพัฒนาต่อยอดให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคม อันเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรกลุ่มชาติพันธ์ต่อไป