ทีมวิจัย แม่โจ้-มช. ค้นพบเห็ดชนิดใหม่ของโลก “เห็ดพันธุ์อัปสร” เพาะเลี้ยงได้ เตรียมพัฒนาต่อยอดเป็นเห็ดเศรษฐกิจ
วันที่ 09/10/2563    890 ครั้ง    ประเภท ข่าวกิจกรรม    ฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานชื่อเห็ดชนิดใหม่ของโลก “เห็ดพันธุ์อัปสร” ซึ่งค้นพบโดยทีมวิจัยมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในโครงการศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพสวนป่าแม่เมาะ-จังหวัดลำปาง รับประทานได้ เป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญ เพาะเลี้ยงได้ง่าย สามารถพัฒนาต่อยอดเป็นเห็ดเศรษฐกิจของไทย

รองศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ์ ศรีเงินยวง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ หัวหน้าทีมวิจัยโครงการศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพสวนป่าแม่เมาะ-จังหวัดลำปาง กล่าวว่า “ทีมวิจัยฯ ได้ทำโครงการสำรวจและจัดทำฐานข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของสวนป่าแม่เมาะ ภายใต้ทุนขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคเหนือตอนบน ซึ่งได้ดำเนินโครงการในปี พ.ศ. 2559-2560 และจากการดำเนินงานในโครงการภายใต้ทุนวิจัยดังกล่าว 2 นักวิจัยในทีม คือ ดร.นครินทร์ สุวรรณราช และ ดร.จตุรงค์ คำหล้า สังกัดสำนักงานบริหารงานวิจัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ค้นพบเห็ดชนิดใหม่ที่เป็นการค้นพบใหม่ของโลก จำนวน 1 ชนิด ซึ่งจัดอยู่ในสกุล Pleurotus (สกุลที่ใช้เรียกเห็ดนางฟ้า) จากการได้ร่วมกันศึกษาลักษณะสัณฐานวิทยา และศึกษาข้อมูลทาง DNA พื้นฐานเพื่อบอกถึงรหัสพันธุกรรม รวมถึงวิวัฒนาการของเห็ดสกุลดังกล่าวจนมั่นใจว่าเป็นเห็ดชนิดใหม่ของโลก และได้รับพระราชทานชื่อเห็ดชนิดใหม่ดังกล่าว ว่า “เห็ดพันธุ์อัปสร” มีความหมายถึง นางฟ้า จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา"

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.สายสมร ลำยอง หัวหน้าศูนย์วิจัยด้านความหลากหลายของจุลินทรีย์และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน สังกัดคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ลักษณะที่แตกต่างของเห็ดสกุลนางฟ้าที่มีการรายงานก่อนหน้านี้กับเห็ดพันธุ์อัปสร โดยอาศัยการศึกษาลักษณะทางสัณฐานวิทยาของดอกเห็ด พบว่าลักษณะดอกคล้ายกับ เห็ดหอยนางรม (P. ostereatus) อย่างไรก็ตามเมื่อตรวจสอบลักษณะโครงสร้างอื่นๆ ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ พบว่า เห็ดที่พบนี้มีเซลล์ที่สร้างสปอร์ (basidia) ขนาด 10-18 x 4-5.5 ไมโครเมตร ซึ่ง มีขนาดเล็กกว่าของเห็ดหอยนางรมที่มีขนาด 29-31 x 7-10 ไมโครเมตร และเห็ดที่พบมีขนาดของสปอร์ 5-7.5 x 3.5-4.5 ไมโครเมตร ซึ่งมีขนาดสั้นกว่าของเห็ดหอยนางรมที่มีขนาด 8-13 x 3-4.5 ไมโครเมตรซึ่งการวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงวิวัฒนาการทางเทคนิคอณูชีววิทยา DNA เป็นข้อมูลสนับสนุนว่าเห็ดพันธุ์อัปสรมีความแตกต่างจากเห็ดนางรมอย่างชัดเจน”

เห็ดพันธุ์อัปสร สามารถเพาะเลี้ยงเป็นเส้นใยบริสุทธิ์ได้ในห้องปฏิบัติการ และเป็นเห็ดที่สามารถนำมาเพาะเลี้ยงให้เกิดดอกเห็ด อีกทั้งมีรายงานว่ารับประทานได้ ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญ และเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ เจริญได้รวดเร็วในก้อนเห็ดทั่วไปรวมถึงทนอากาศร้อนได้ดีกว่าเห็ดสกุลนางฟ้าชนิดอื่น ในอนาคตทีมวิจัยสามารถที่จะพัฒนาต่อยอดเป็นเห็ดเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมการเพาะเลี้ยง สร้างรายได้ รวมถึงใช้เป็นสายพันธุ์ต้นแบบเพื่อปรับปรุงพันธุ์ในสภาพทนต่ออากาศร้อนได้ในอนาค ซึ่งขณะนี้ทีมนักวิจัยได้เตรียมงานแถลงข่าวเปิดตัว “เห็ดพันธุ์อัปสร” อย่างเป็นทางการต่อไป