ผู้รับผิดชอบหลัก
ผู้รับผิดชอบหลัก (นักศึกษา)
จากปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศได้ส่งผลกระทบต่อด้านสังคมและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสภาวะโลกร้อนจากก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลต่อผลิตผลทางด้านการเกษตรและพลังงานของประเทศ ปัจจุบันประเทศไทยต้องพึ่งพาอาศัยการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศทั้งน้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติ เพื่อนำมาผลิตพลังงานไฟฟ้าที่มีปริมาณการใช้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ สถานการณ์พลังงานในประเทศไทยปัจจุบันเรียกว่าอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เนื่องจากต้องยอมรับพลังงานไฟฟ้าในปัจจุบันผลิตจากก๊าซธรรมชาติ 80% ขณะที่ก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่มีอยู่ในการนำก๊าซขึ้นมาใช้มีเหลือให้นำขึ้นมาใช้อีก 18 ปี ซึ่งหากไม่มีการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติแห่งใหม่อีก 18 ปีข้างหน้าประเทศไทยอาจเกิดวิกฤติการณ์ Blackout หรือไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง จากสถานการณ์ด้านพลังงานดังกล่าว จึงมีความจำเป็นต้องหาแนวทางการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน และลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจากการใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล โดยการหาแหล่งพลังงานสะอาดทดแทน ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีพลังงานจากแสงอาทิตย์อย่างดีตลอดปี ซึ่งสามารถนำมาพัฒนาเป็นแหล่งพลังงานทดแทนต่อไป
ปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงเป็นประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมอีกด้านหนึ่ง ที่ปัจจัยหลักเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ที่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศเป็นจำนวนมาก และนับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้นต้นเหตหลักของปัญหาหนึ่งก็คือการใช้ยานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในรูปของน้ำมันชนิดต่าง ๆ เมื่อเกิดการสันดาปหรือเผาไหม้จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงที่เป็นต้นเหตุปัญหาเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยลดจำนวนก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ โดยการลดการใช้ยานพาหนะทีใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมาใช้ยานพาหนะที่ใช้พลังงานไฟฟ้า หรือการใช้จักรยานในการเดินทางแทน ตลอดจนการส่งเสริมการเดินทางด้วยเท้า จะเป็นการช่วยลดและประหยัดพลังงาน พร้อมกับการได้สุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น
แนวทางการพัฒนาในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12(พ.ศ.2560-2564) ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ไว้ 6 หลักด้วยกัน 1 ใน 6 หลักด้วยกัน คือ ยุทธศาสตร์การเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นมหาวิทยาลัยที่กำหนดยุทธศาสตร์เพื่อมุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University) เพื่อให้การดำเนินการที่สอดคล้องและเชื่อมโยงกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ซึ่งเป็นโครงการที่ต่อเนื่องจากงบประมาณปี 2561 ที่ได้จัดทำเรื่องการลดการใช้พลังงาน มหาวิทยาลัยจึงได้นำเสนอโครงการมหาวิทยาลัยแม่โจ้มุ่งสู่มหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University) ต่อเนื่อง โดยเน้นการบริหารจัดการด้านพลังงานในรูปแบบการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพ ลดปริมาณการใช้และจัดหาแหล่งพลังงานทดแทน เพื่อขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้ไปในทิศทางเดียวกัน ตลอดจนการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า เพื่อลดการส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด
รายละเอียดเพิ่มเติม