20983 : โครงการฐานเรียนรู้ผึ้งชันโรง
ประเภทแผนโครงการ: ในแผนปฏิบัติการประจำปี 2567
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฏฐ์พัชร เถียรวรกานต์ (ผู้เพิ่มข้อมูล)
วันที่ปรับปรุงข้อมูล : 3/9/2567 12:29:08
ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป
รูปแบบโครงการ
โครงการภายใน
ประเภทโครงการ
โครงการบริการวิชาการ (เบิกจ่ายจากงบประมาณบริการวิชาการ)
ช่วงเวลาที่ทำโครงการ
01/10/2566  ถึง  30/09/2567
แผนงาน
กลุ่มเป้าหมาย
จำนวนกลุ่มเป้าหมาย  560  คน
รายละเอียด  เกษตรกร นักศึกษา ศิษย์เก่า นักวิชาการ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เด็กด้อยโอกาส เด็กกำพร้า ในโรงเรียน/ชุมชน เขตอำเภอเมือง, อำเภอสันทราย, อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
รูปแบบกิจกรรม
ตอนที่ 2 งบประมาณ
ประเภททุนสนับสนุนหมวดค่าใช้จ่ายคำอธิบายปีงบประมาณจำนวนเงิน(บาท)
งบประมาณแผ่นดิน คณะผลิตกรรมการเกษตร หมวดรายจ่าย » งบอุดหนุน 2567 50,000.00
รวมทั้งหมด0.00
ตอนที่ 3 ผู้รับผิดชอบโครงการ
รายชื่อผู้รับผิดชอบสถานะ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ณัฏฐ์พัชร  เถียรวรกานต์
นาง อารีรักษ์  วิชัยศรี
น.ส. เบญจรัตน์  ศุภอุดมฤกษ์
นาง เยาวภา  เขื่อนคำ
ตอนที่ 4 ที่ปรึกษาโครงการ
ไม่มีข้อมูล
ตอนที่ 5 หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ
รายชื่อหน่วยงานสถานะ
คณะผลิตกรรมการเกษตร
ตอนที่ 6 นโยบายมหาวิทยาลัย
นโยบาย
นโยบายด้านการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม และองค์ความรู้
ตอนที่ 7 สอดคล้องกับประเด็นยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัย
ประเด็นยุทธศาสตร์
[ 2567 ] ประเด็นยุทธศาสตร์ 67-70 MJU 2. การขับเคลื่อนผลการดำเนินงานตามพันธกิจหลัก (MOC)
เป้าประสงค์ 67-70 MJU 2.3 การให้บริการวิชาการเพื่อสังคม ชุมชนด้วยองค์ความรู้ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
ตัวชี้วัด 67-70 MJU 2.3.1 จำนวนงบประมาณบริการวิชาการ
กลยุทธ์ 67-70 MJU 2.3.1.2 ผลักดันผลงานการให้บริการวิชาการของมหาวิทยาลัยให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs)
ตัวชี้วัด 67-70 MJU 2.3.2 ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของชุมชนจากการบริการวิชาการ
กลยุทธ์ 67-70 MJU 2.3.2.1 สร้างความสำเร็จและประเมินสัมฤทธิ์ผลของโครงการบูรณาการอย่างเป็นรูปธรรม
ตอนที่ 8 สอดคล้องกับประเด็นยุทธศาสตร์หน่วยงาน
ประเด็นยุทธศาสตร์
[2567] ประเด็นยุทธศาสตร์ 67 AP 2. การขับเคลื่อนผลการดำเนินงานตามพันธกิจหลัก (MOC)
เป้าประสงค์ 67 AP 2.3 การให้บริการวิชาการเพื่อสังคมชุมชนด้วยองค์ความรู้ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
ตัวชี้วัด 67 AP 2.3.1 จำนวนงบประมาณบริการวิชาการ
กลยุทธ์ 67 AP 2.3.1.2 ส่งเสริมและผลักดันผลงานการให้บริการวิชาการให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs)
ตัวชี้วัด 67 AP 2.3.2 ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของชุมชนจากการบริการวิชาการ
กลยุทธ์ 67 AP 2.3.2.1 ขับเคลื่อนการสำรวจผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของชุมชนเป้าหมายจากการให้บริการวิชาการและประเมินสัมฤทธิ์ผลของโครงการบูรณาการอย่างเป็นรูปธรรม
ตอนที่ 9 หลักการและเหตุผล

ประเทศไทยคาดว่าจะกลายเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มมากที่สุดในโลก (United Nation, 2019) ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมสูงวัยมาตั้งแต่ปี 2548 (มีประชากรอายุ 60 ปี ขึ้นไป คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมด๗ และคาดการณ์ว่าจะกลายเป็น “สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Complete-aged Society) ภายในปี 2566 เนื่องจากมีประชากรสูงวัยประมาณ ร้อยละ 20.1 อีกทั้งกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ “สังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super-aged Society) ภายในปี 2577 เมื่อมีสัดส่วนของประชากรสูงวัย สูงถึงร้อยละ 28.1 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งโครงสร้างสังคมสูงวัย ทำให้จำนวนวัยแรงงานลดลง รวมถึงทำให้อัตราส่วนพึ่งพิงของผู้สูงอายุต่อวัยแรงงานเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ภาครัฐจำเป็นต้องพิจารณาการพัฒนาคนทุกช่วงวัยให้เต็มศักยภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงวัยที่ยังมีสุขภาพดี เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือสังคมได้อย่างสมศักดิ์ศรี นอกจากนี้ ประชาชนคนไทยยังประสบกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นรวดเร็วและรุนแรง (IPCC, 2018) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสร้างความเสียหายต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดย OECD ได้คาดการณ์ว่า หากไม่มีการดำเนินงานที่สำคัญเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จะทำให้ภายใน พ.ศ. 2603 ความเสียหายอันเนื่องมากจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นทั่วโลกจะมีมูลค่าถึงร้อยละ 1.0-3.3 ของ GDP โลก และมูลค่าความเสียหายจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 2.0-10.0 ภายใน พ.ศ. 2643 โดยภาคการเกษตรจะได้รับความเสียหายมากกว่าภาคการผลิตอื่นๆ เนื่องจากภาคการเกษตรต้องพึ่งพาสภาพอากาศและฤดูกาลตามธรรมชาติ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจส่งผลให้ปริมาณผลผลิตทางการเกษตรลดลง ยิ่งกว่านั้นพื้นที่การเกษตรบางส่วนที่ประสบกับภัยแล้งยาวนาน หรือน้ำท่วมซ้ำซากจะไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ ส่งผลกระทบต่อรายได้และความเป็นอยู่ของเกษตรกรซึ่งส่วนใหญ่มีรายได้น้อย จากข้อมูลที่กล่าวมา จะเห็นว่าปัจจัยภายนอกเหล่านี้ที่มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะคนในวัยแรงงานที่ต้องรับภาระเลี้ยงดูสมาชิกในบ้าน ซึ่งประชากรในจังหวัดเขียงใหม่ก็เช่นเดียวกัน จากการทบทวนแผนพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2566 พบว่ามีประเด็นปัญหา/ความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ที่สำคัญ คือ 1. ด้านเศรษฐกิจ ชาวบ้านในพื้นที่มีรายได้น้อย อีกทั้งยังมีคนว่างงาน 2. ด้านสังคมและคุณภาพชีวิต ชาวบ้านในพื้นที่อยากมีอาชีพเสริม เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว โดยอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดโครงการฝึกอบรมอาชีพเสริมให้กับให้กับคนในชุมชน เพื่อเป็นทางเลือกในการเพิ่มรายได้ให้กับคนในชุมชม จากรานงานสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำปี 2566 เปิดเผยว่ามีเด็กไทยอยู่ใต้เส้นความยากจนถึง 2.8 ล้านคน ความยากจนเป็นอุปสรรคที่ทำให้เด็กบางคนมีความเป็นอยู่อย่างแร้นแค้น ไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาและการดำรงชีวิตได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการพัฒนาทุนมนุษย์ในอนาคตของประเทศไทย รัฐจึงควรมุ่งเป้าและให้ความสำคัญกับเด็กที่ไม่มีความพร้อมโดยเฉพาะเด็กในกลุ่มเปราะบาง เด็กที่ขัดสน เพราะเด็กกลุ่มนี้ต้องการความช่วยเหลือ อีกทั้งการช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ก็จะให้ผลตอบแทนส่วนเพิ่มที่สูงมากกว่าเด็กกลุ่มอื่นๆ สำหรับปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยให้ออกจากกับดักรายได้ปานกลางภายในปี 2579 รัฐจำเป็นต้องลงทุนในทุนมนุษย์ เพื่อบรรลุการเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อคนให้ถึง 40 % ทุนมนุษย์ที่เพิ่มขึ้นจะนำไปสู่ฐานภาษีที่กว้างและลึกขึ้น ทำให้ประเทศสามารถมีภาษีนำไปลงทุนโครงสร้างและหมุนเวียนได้มากจชขึ้ร นอกจากปัญหาดังกล่าวแล้ว ปัจจุบันการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่เกินความจำเป็นส่งผลให้แมลงผสมเกสรในสภาพธรรมชาติลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว โดยในบางพื้นที่เกษตรกรสำรวจไม่พบแมลงผสมเกสรเลย ส่งผลกระทบให้การผสมเกสรของพืชต่างๆ มีประสิทธิภาพไม่ดี ทำให้ผลผลิตที่ได้ค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้ในการปลูกพืชในสภาพโรงเรือน ซึ่งเป็นระบบปิด มีความต้องการสื่อผสมเกสรเข้ามาช่วยเพื่อให้เกิดการติดผลผลิตที่ดี ซึ่งแต่เดิมใช้แรงงานคนในการผสมเกสร แต่ปัจจุบันประเทศไทยมีโครงสร้างของประชากรเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดการคลาดแคลนแรงงานทั้งภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องสรรหาสื่อผสมเกสรที่มีคุณภาพมาทำหน้าที่แทน ซึ่งได้แก่แมลงผสมเกสร โดยเฉพาะแมลงในกลุ่มของผึ้งที่ไม่มีเหล็กไน หรือชันโรง ที่จะนำมาใช้เป็นสื่อผสมเกสร จากงานวิจัยทั่วโลก แสดงให้เห็นศักยภาพของชันโรงในด้านการเป็นสื่อผสมเกสรที่มีประสิทธิภาพสูงมากชนิดหนึ่ง แต่ปัจจุบันการประเทศไทยมีจำนวนรังชันโรงทั่วประเทศที่เกษตรกรและหน่วยงานต่างๆเพาะเลี้ยงๆไว้ มีเพียงประมาณ 15,000 รัง ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกรและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีความต้องการจะนำชันโรงไปใช้ประโยชน์ในด้านการผสมเกสรให้แก่พืชต่างๆ ดังนั้นชันโรงจึงเป็นแมลงอีกชนิดหนึ่งที่มีความเหมาะสมในการส่งเสริมให้เพาะเลี้ยงในเชิงการค้าเพื่อเสริมสร้างรายได้ เนื่องจากการเพาะเลี้ยงไม่มีความยุ่งยาก และไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายรังไปหาแหล่งอาหารแหล่งอื่นๆ ขนาดของรังไม่ใหญ่ น้ำหนักประมาณ 1-2 กิโลกรัม จากข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นว่า อาชีพการเพาะเลี้ยงชันโรง และการแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อเสริมสร้างรายได้ ซึ่งฐานเรียนรู้ผึ้งชันโรง มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้แก่เกษตรและชุมชนในหลายพื้นที่ของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นแนวทางที่ประชาชนในชุมชนทุกเพศทุกวัยสามารถเรียนรู้และดำเนินการได้ด้วยตนเอง เป็นการเสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนในพื้นที่ให้มีความมั่นคง ยั่งยืน ตามแนวทางการดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สอดคล้องกับกรอบทิศทางการพัฒนาประเทศในระยะของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 มีเป้าหมายหลักเพื่อพลิกโฉมประเทศ ไปสู่ “เศรษฐกิจสร้างคุณค่า สังคมเดินหน้าอย่างยั่งยืน (Hi-Value and Sustainable Thailand)” โดยใช้องค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการยกระดับศักยภาพและพัฒนาประเทศในทุกมิติ โดยมีการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักนำทางในการขับเคลื่อนและวางแผนพัฒนาประเทศ ประเด็นการพัฒนาที่มีลำดับความสำคัญสูงในการพลิกโฉมประเทศไทย สู่เศรษฐกิจสร้างคุณค่า สังคมเดินหน้าอย่างยั่งยืน ได้แก่ เศรษฐกิจมูลค่าสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Hi Value –Added Economy) โดยมีหมุดหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร คือ หมุดหมายที่ 1 ไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง โดยมีการพัฒนาคุณภาพของผลผลิตและการปรับเปลี่ยนประเภทการผลิตจากการผลิตที่มีคุณภาพเพิ่มต่ำ ไปสู่การผลิตที่มีมูลค่าเพิ่มสูง สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่และความต้องการของตลาด โดยส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญาการผลิต และการพัฒนาศักยภาพของเกษตรกร ด้วยการสนับสนุนข้อมูลและองค์ความรู้ที่จำเป็น รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันเกษตรกร (สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, 2564) และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 - 2580) ที่ได้กำหนดเป้าหมายเพื่อพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพ พร้อมสำหรับวิถีชีวิตในศตวรรษที่ 21 และสังคมไทยมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อและสนับสนุนต่อการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศและทรัพยากรมนุษย์ของไทย ดังนั้นฐานเรียนรู้ผึ้งชันโรง จึงได้นำข้อมูลที่ได้กล่าวมาแล้ว มาจัดทำแผนบริการวิชาการ ประจำปี งบประมาณ 2567 โดยจะจัดอบรมการเลี้ยงผึ้งชันโรงและการแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากผลผลิตที่ได้จากชันโรง ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่แจ้งความต้องการเข้ามา จำนวน 3 กลุ่ม ได้แก่ เด็กกำพร้า เด็กด้อยโอกาสในมูลนิธิบ้านร่มไม้ชายคา เชียงใหม่ (Children’s Shelter Foundation Chiangmai) อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่, Warm Heart Foundation อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่, และ เกษตรกร ผู้ที่สนใจทั่วไป อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยแม่โจ้กับสังคม (Maejo Engagement) ให้เข้มแข็ง และการพัฒนามหาวิทยาลัยให้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life long learning University) ภายใต้กรอบการพัฒนาด้าน Organic University, เกษตรอินทรีย์ ตลอดจนเสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนเป้าหมาย สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป้าหมายที่ 1 ขจัดความยากจนทุกรูปแบบในทุกพื้นที่ และ เป้าหมายที่ 2 ยุติความหิวโหย บรรลุความมั่นคงทางอาหารและยกระดับโภชนาการและส่งเสริมเกษตรกรรมที่ยั่งยืน

ตอนที่ 10 วัตถุประสงค์
วัตุประสงค์
1. เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับชันโรงให้กับชุมชนเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
2. เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนในอำเภอเมือง อำเภอสันทราย และอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่สามารถเพาะเลี้ยงผึ้งชันโรงเป็นอาชีพได้
3. เพื่อส่งเสริมการนำชันโรงไปใช้ประโยชน์ในด้านการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
4. มีการบูรณาการฐานเรียนรู้ผึ้งชันโรงกับการเรียนการสอน และการวิจัย
ตอนที่ 11 ผลผลิตของโครงการและตัวชี้วัด
ผลผลิต : - คุณภาพผลผลิต/ผลิตภัณฑ์/สินค้าที่ได้จากการเพาะเลี้ยงชันโรง - ชุมชนสามารถนำความรู้/เทคโนโลยีจากงานบริการวิชาการไปพัฒนาโครงการเพื่อหาแหล่งทุน/ต่อยอด - พัฒนาการเรียน บูรณาการกับงานบริการวิชาการ
KPI 1 : โรงเรียน/ชุมชนเป้าหมายที่กำหนด มีความรู้และสามารถเพาะเลี้ยงชันโรง/การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากชันโรงเพื่อสร้างอาชีพได้
ประเภท : เชิงปริมาณ
ค่าเป้าหมายของตัวชี้วัด
ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 หน่วยนับ การคำนวณ ผลลัพธ์
1 1 กลุ่ม 2
KPI 2 : จำนวนผู้รับบริการ
ประเภท : เชิงปริมาณ
ค่าเป้าหมายของตัวชี้วัด
ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 หน่วยนับ การคำนวณ ผลลัพธ์
30 30 คน 60
KPI 3 : ร้อยละของโครงการที่บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ
ประเภท : เชิงคุณภาพ
ค่าเป้าหมายของตัวชี้วัด
ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 หน่วยนับ การคำนวณ ผลลัพธ์
90 90 90 90 ร้อยละ 90
KPI 4 : ค่าใช้จ่ายของการให้บริการวิชาการตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร
ประเภท : เชิงต้นทุน
ค่าเป้าหมายของตัวชี้วัด
ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 หน่วยนับ การคำนวณ ผลลัพธ์
0.0285 0.0215 ล้านบาท 0.05
KPI 5 : จำนวนผู้เข้าเยี่ยมฐานเรียนรู้
ประเภท : เชิงปริมาณ
ค่าเป้าหมายของตัวชี้วัด
ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 หน่วยนับ การคำนวณ ผลลัพธ์
300 200 คน 500
KPI 6 : การบูรณาการการบริการวิชาการกับการเรียนการสอน
ประเภท : เชิงปริมาณ
ค่าเป้าหมายของตัวชี้วัด
ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 หน่วยนับ การคำนวณ ผลลัพธ์
1 1 รายวิชา 2
KPI 7 : ร้อยละความพึงพอใจของผู้รับบริการในกระบวนการให้บริการ
ประเภท : เชิงคุณภาพ
ค่าเป้าหมายของตัวชี้วัด
ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 หน่วยนับ การคำนวณ ผลลัพธ์
80 80 80 80 ร้อยละ 80
KPI 8 : ร้อยละของผู้รับบริการที่มีความรู้เพิ่มขึ้นจากการเข้ารับบริการ
ประเภท : เชิงปริมาณ
ค่าเป้าหมายของตัวชี้วัด
ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 หน่วยนับ การคำนวณ ผลลัพธ์
90 90 90 90 ร้อยละ 90
KPI 9 : ร้อยละของโครงการที่แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด
ประเภท : เชิงเวลา
ค่าเป้าหมายของตัวชี้วัด
ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 หน่วยนับ การคำนวณ ผลลัพธ์
90 90 90 90 ร้อยละ 90
KPI 10 : จำนวนผลผลิต/ต้นแบบผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการดำเนินโครงการ
ประเภท : เชิงปริมาณ
ค่าเป้าหมายของตัวชี้วัด
ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 หน่วยนับ การคำนวณ ผลลัพธ์
1 1 ผลิตภัณฑ์ 2
 
ตอนที่ 12 ผลผลิตของโครงการและค่าใช้จ่าย
ผลผลิต : - คุณภาพผลผลิต/ผลิตภัณฑ์/สินค้าที่ได้จากการเพาะเลี้ยงชันโรง - ชุมชนสามารถนำความรู้/เทคโนโลยีจากงานบริการวิชาการไปพัฒนาโครงการเพื่อหาแหล่งทุน/ต่อยอด - พัฒนาการเรียน บูรณาการกับงานบริการวิชาการ
ชื่อกิจกรรม :
การฝึกอบรมระยะสั้น

ช่วงเวลาดำเนินกิจกรรม : 01/03/2567 - 31/07/2567
รายชื่อผู้รับผิดชอบ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฏฐ์พัชร  เถียรวรกานต์ (ผู้รับผิดชอบหลัก)
น.ส.เบญจรัตน์  ศุภอุดมฤกษ์ (ผู้รับผิดชอบรอง)
นางเยาวภา  เขื่อนคำ (ผู้รับผิดชอบรอง)
งบประมาณดำเนินการ
รายจ่ายดำเนินงาน » ค่าใช้สอย
ค่าอาหารกลางวัน ผู้เข้าอบรม จำนวน 30 คนๆละ 100 บาท 1 มื้อ 4 วัน
ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 รวม
0.00 บาท 0.00 บาท 6,000.00 บาท 6,000.00 บาท 12,000.00 บาท
รายจ่ายดำเนินงาน » ค่าใช้สอย
ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม (ผู้เข้าอบรม) จำนวน 30 คนๆละ 35 บาท 2 มื้อ 4 วัน
ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 รวม
0.00 บาท 0.00 บาท 4,200.00 บาท 4,200.00 บาท 8,400.00 บาท
รายจ่ายดำเนินงาน » ค่าใช้สอย
ค่าจ้างเหมาจัดทำคู่มือฝึกอบรม (20 หน้า/เล่ม) จำนวน 60 เล่มๆละ 30 บาท
ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 รวม
0.00 บาท 0.00 บาท 1,800.00 บาท 0.00 บาท 1,800.00 บาท
รายจ่ายดำเนินงาน » ค่าใช้สอย
ค่าจ้างเหมาจัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์ ขนาด A4 (สีและขาวดำ) จำนวน 3 เล่มๆละ 150 บาท
ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 รวม
0.00 บาท 0.00 บาท 0.00 บาท 450.00 บาท 450.00 บาท
รายจ่ายดำเนินงาน » ค่าตอบแทน
ค่าตอบแทนวิทยากร (บุคลากรของรัฐ) ภาคบรรยาย จำนวน 6 ชั่วโมงๆ ละ 600 บาท 1 คน 4 วัน
ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 รวม
0.00 บาท 0.00 บาท 7,200.00 บาท 7,200.00 บาท 14,400.00 บาท
รายจ่ายดำเนินงาน » ค่าวัสดุ
วัสดุเกษตร ได้แก่ รังพ่อแม่พันธุ์ชันโรง และรังแยกขยาย
ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 รวม
0.00 บาท 0.00 บาท 10,200.00 บาท 0.00 บาท 10,200.00 บาท
รายจ่ายดำเนินงาน » ค่าวัสดุ
วัสดุงานบ้านงานครัว
ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 รวม
0.00 บาท 0.00 บาท 0.00 บาท 2,750.00 บาท 2,750.00 บาท
รวมจำนวนเงินทั้งหมด 50000.00
ชื่อกิจกรรม :
การบริการวิชาการเผยแพร่ความรู้

ช่วงเวลาดำเนินกิจกรรม : 01/10/2566 - 30/09/2567
รายชื่อผู้รับผิดชอบ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฏฐ์พัชร  เถียรวรกานต์ (ผู้รับผิดชอบหลัก)
นางอารีรักษ์  วิชัยศรี (ผู้รับผิดชอบรอง)
งบประมาณดำเนินการ
รวมจำนวนเงินทั้งหมด
ชื่อกิจกรรม :
การบริการชันโรงเป็นสื่อผสมเกสรให้แก่เกษตรกร

ช่วงเวลาดำเนินกิจกรรม : 01/10/2566 - 30/09/2567
รายชื่อผู้รับผิดชอบ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฏฐ์พัชร  เถียรวรกานต์ (ผู้รับผิดชอบหลัก)
งบประมาณดำเนินการ
รวมจำนวนเงินทั้งหมด
ชื่อกิจกรรม :
การบูรณาการการให้บริการวิชาการกับการเรียนการสอน

ช่วงเวลาดำเนินกิจกรรม : 01/10/2566 - 30/09/2567
รายชื่อผู้รับผิดชอบ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฏฐ์พัชร  เถียรวรกานต์ (ผู้รับผิดชอบหลัก)
งบประมาณดำเนินการ
รวมจำนวนเงินทั้งหมด
 
ตอนที่ 13 ปัญหาและอุปสรรค
ปัญหาและอุปสรรค
สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด 19
ตอนที่ 14 แนวทางการแก้ไขปัญหาและอุปสรรค
แนวทางการแก้ปัญหาและอุปสรรค
ปรับเปลี่ยนรูปแบบการฝึกอบรมเป็นแบบออนไลน์
ตอนที่ 15 เอกสารประกอบ
ตอนที่ 16 การบูรณาการ
การเรียนการสอน
แมลงผสมเกสร
ช่วงเวลา : 01/01/2567 - 31/03/2567
ตัวชี้วัด
7.2 การพัฒนามหาวิทยาลัย สู่มหาวิทยาลัยเรียนรู้
การบูรณาการ
เอกสารประกอบ
งานทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม
ไม่มีข้อมูล
งานวิจัย
ไม่มีข้อมูล
อื่นๆ
ไม่มีข้อมูล