ม.แม่โจ้ ร่วมกับ วช. เดินหน้า “ปลูก เปลี่ยน ปรับ” ปรับเปลี่ยนวัสดุเหลือใช้ลดการเผา ลดฝุ่นละอองขนาดเล็กจิ๋ว (PM2.5) สู่ห่วงโซ่อุปทานใหม่ในอุตสาหกรรมการผลิตปศุสัตว์” ณ จังหวัดเชียงราย
วันที่ 24/11/2568    11 ครั้ง    ประเภท ข่าวกิจกรรม    ฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ นำโดย คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ลงพื้นที่ อำเภอเมือง เวียงป่าเป้า และแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 20–22 พฤศจิกายน 2568 เพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการ “การปรับเปลี่ยนวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อลดจุดความร้อน (Hot Spot) และฝุ่นละอองขนาดเล็กจิ๋ว (PM2.5) สู่ห่วงโซ่อุปทานใหม่ในอุตสาหกรรมการผลิตปศุสัตว์” ภายใต้ชื่อว่า “ปลูก เปลี่ยน ปรับ” โดยมี นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธาน Promoting Committee (PD) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานพิธีเปิดโครงการฯ พร้อมด้วยนายพงศ์ศักดิ์ เพชรคงแก้ว นายอำเภอเวียงป่าเป้า นางสาวเสาวนีย์ มุ่งสุจริตการ รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) นายครรชิต พุทธโกษา ผู้ทรงคุณวุฒิ วช. ตลอดจนผู้บริหารคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่อำเภอเวียงป่าเป้า เข้าร่วมกิจกรรมในการที่จะร่วมกันปรับเปลี่ยนแนวคิดวิธีการกำจัดวัสดุเหลือใช้อย่างถูกต้อง นำไปสู่การลดเผา ลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่อำเภอเวียงป่าเป้า ได้อย่างยั่งยืน

สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นความร่วมมือจากคณะนักวิจัย และผู้ทรงคุณวุฒิ ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของโครงการวิจัยที่มีบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ ทั้งสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจฐานราก และความมั่นคงของระบบเกษตรกรรมในภาคเหนือ ที่เกิดขึ้นจากปัญหาหลักทุกคนคุ้นเคย โดยเฉพาะการเผาซังและเศษวัสดุข้าวโพด ที่เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของมลพิษทางอากาศในจังหวัดเชียงราย และพื้นที่ภาคเหนือ ทำให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พุ่งสูง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของเกษตรกร โดยทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้มีการพัฒนานวัตกรรมเพื่อเปลี่ยนวัสดุเหลือใช้ให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าเพิ่มตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และตอบโจทย์แผนงานยุทธศาสตร์ ของสำนักงานวิจัยแห่งชาติ ในการลดมลพิษและมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างชัดเจน

ผลลัพธ์คือ อากาศที่สะอาดขึ้น ชุมชนที่เข้มแข็งขึ้น เกษตรกรมีรายได้ใหม่จากวัสดุที่เคยถูกเผาทิ้ง และอุตสาหกรรมปศุสัตว์ที่ก้าวสู่ความยั่งยืนตามแนวทาง BCG อย่างแท้จริง โดยเฉพาะโครงการนี้ไม่ได้เป็นเพียงงานวิจัยด้านปศุสัตว์หรือสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่เป็นโมเดลใหม่ของการพัฒนาเชิงพื้นที่ ที่ผสานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ (System Transformation) นำไปสู่เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน มุ่งสู่การลดจำนวนที่ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน ในพื้นที่เป้าหมาย ลดจุดความร้อน (Hotspot) ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 10 ของพื้นที่ดำเนินการ สร้างผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากเศษวัสดุ เช่น วัสดุปูรองสัตว์ และอาหารสัตว์ ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เกษตรกรกว่า 100 ราย และสร้างต้นแบบในพื้นที่ อีกด้วย
ขอบคุณข่าวและรูปภาพเพิ่มเติมจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย และทีมวิจัยมหาวิทยาลัยแม่โจ้