นักศึกษา - คณาจารย์ คณะสัตวศาสตร์ฯ ม.แม่โจ้ คว้า 4 รางวัล เวทีประชุมวิชาการสัตวศาสตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 13 (Nascot2025)
วันที่ 01/08/2568    31 ครั้ง    ประเภท ข่าวกิจกรรม    ฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

นักศึกษา - อาจารย์ คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับรางวัลในงานประชุมวิชาการสัตวศาสตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 13 ประจำปี 2568 โดย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา ร่วมกับเครือข่ายสถาบันการศึกษาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมสัตวบาลแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น เพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนด้านวิชาการ และวิชาชีพ ในแวดวงปศุสัตว์ สร้างความเข็มแข็งทางด้านวิชาการสัตวศาสตร์ นำไปสู่การพัฒนาปศุสัตว์ของประเทศอย่างยั่งยืน เมื่อวันที่ 22-25 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมเดอะกรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยมีหน่วยงาน สถานบันการศึกษาจากทั่วประเทศ ส่งผลงานเข้าร่วมนำเสนอเป็นจำนวนมาก ซึ่ง มหาวิทยาลัยแม่โจ้สามารถคว้ามาได้ 4 รางวัล ดังนี้

รางวัลระดับ “ดีเด่น” ได้แก่

- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สัตวแพทย์หญิง ดร.กฤดา ชูเกียรติศิริ ได้รับรางวัลนำเสนอภาคโปสเตอร์ “ระดับดีเด่น” ผลงาน “ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์จากสารสกัดธรรมชาติในการควบคุมด้วงดำ (Alphitobius diaperinus) ในการเลี้ยงไก่เนื้อ”

- นายรัฐพล พลเทียร นักศึกษาระดับปริญญาโท ได้รับรางวัลการนำเสนอ “ระดับดีเด่น” ภาคบรรยาย Session Ruminant Nutrition จากผลงาน “ผลของการใช้บัวตองทดแทนกากถั่วเหลืองในสูตรอาหารโคเนื้อ ต่อจลนศาสตร์การผลิตแก๊ส และการย่อยสลายได้ในหลอดทดลอง”

รางวัลระดับ “ดี” ได้แก่

- อาจารย์ ดร.กรรณิกา ฮามประคร ได้รับรางวัลนำเสนอภาคโปสเตอร์ “ระดับดี“ ผลงาน “การประเมินสมรรถภาพการผลิตไข่ และการเจริญเติบโตของไก่กระดูกดำ (ฟ้าหลวง)”

รางวัล “ชมเชย” ได้แก่

- นายวนราช ดารา นักศึกษาระดับปริญญาโท ได้รับรางวัล “ชมเชย” การนำเสนอภาคบรรยาย International Oral presentation ผลงาน “ผลของการใช้ยูเรียที่ปลดปล่อยช้าและแป้งที่ทนต่อการย่อยสลายในอาหารอัดก้อนต่อจลนศาสตร์การผลิตแก๊ส และค่าการย่อยได้ในหลอดทดลอง”

รางวัลดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ผลงานวิจัยของนักศึกษาและคณาจารย์ของคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นผลงานคุณภาพที่สามารถแข่งขันในเวทีระดับชาติ และนำไปสู่การพัฒนาด้านปศุสัตว์ของประเทศอย่างยั่งยืน ได้ในอนาคต