วันพุธที่ 19 มีนาคม 2568 ดร.กาญจนา สมมิตร อาจารย์วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในฐานะผู้อำนวยการโครงการวิจัย LMC Spice Routes จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เข้าร่วมงานเปิดตัวกองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง 2025 ในงาน Mekong-Lancang Cooperation Week 2025 และร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ แนวทางการบริหารจัดการและแนวปฏิบัติที่ดีในการดำเนินโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง ประจำปี พ.ศ. 2567 จัดขึ้นโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ ณ ห้อง Vibration ชั้น B1 โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สยามสแควร์ มหาวิทยาลัยแม๋โจ้ โดยวิทยาลัยนานาชาติและคณะศิลปศาสตร์ได้รับสนับสนุนทุนวิจัยภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง (Lancang-Mekong Special Fund) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีกระทรวง อว. ของประเทศไทยเป็นหน่วยงานอุปถัมภ์ให้ดำเนินโครงการพัฒนาแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวเชิงอาหารและวัฒนธรรม: เส้นทางเครื่องเทศในประเทศลุ่มน้ำโขง (LMC Spice Routes: the Development of Gastronomy and Cultural Tourism Platform) โดยมี ดร.กาญจนา สมมิตร จากวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้เป็นผู้อำนวยการโครงการ และ ดร.นิทัศน์ บุญไพศาลสถิตย์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้เป็นผู้ประสานงานโครงการร่วมกับภาคีเครือข่ายใน 4 ประเทศ ได้แก่ จีน พม่า ลาว และไทย ทั้งนี้ โครงการ LMC Spice Routes ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้มีเป้าหมายในการส่งเสริมให้เกิดเส้นทางการท่องเที่ยวตามรอยเครื่องเทศตั้งแต่ร้านอาหาร ตลาดหรือแหล่งจำหน่ายไปจนถึงแหล่งปลูกหรือแหล่งผลิตเครื่องเทศในประเทศต่างๆ ปัจจุบันมีเครื่องเทศอยู่ในอาหารที่มีชื่อเสียงหลายเมนู เช่น ข้าวซอย ลาบเมือง พะโล้ หรือแกงมัสมั่น ล้วนมีเส้นทางและเรื่องราวที่สามารถนำมาพัฒนาการท่องเที่ยวที่จะเป็นประโยชน์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการอนุรักษ์ทรัพยากร รวมถึงภูมิปัญญาอาหารและวัฒนธรรมในภูมิภาค ดร.กาญจนา สมมิตร กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากประสบการณ์ที่เคยพัฒนาการท่องเที่ยวเส้นทางมะแขว่นในภาคเหนือสำเร็จมาแล้ว จึงได้คิดถึงหม่าล่า ที่มี “ฮวาเจียว” หรือ พริกหอมจีน เป็นส่วนประกอบหลัก มาพัฒนาโครงการเพื่อส่งเสริมเครื่องเทศที่โดดเด่นในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคให้เกิดการเดินทางตามรอยเพื่อชิมอาหารท้องถิ่นที่มีเครื่องเทศเป็นส่วนประกอบ รวมถึงเข้าไปท่องเที่ยวฟาร์มของเกษตรกรผู้ปลูกเครื่องเทศ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างรายได้แก่เกษตรกรในท้องถิ่นได้อีกทาง”