ความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะทางการบัญชีบริหารที่มีผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานของกลุ่มอุตสาหกรรม New S-Curve โดยมีการบัญชีบริหารเชิงกลยุทธ์เป็นตัวแปรส่งผ่าน

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะทางการบัญชีบริหารที่มีผลต่อ

ประสิทธิภาพการด??ำเนินงานของกลุ่มอุตสาหกรรม New S-Curve โดยมีการบัญชีบริหารเชิงกลยุทธ์เป็นตัวแปรกลาง

โดยมีบริษัทที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรม New S-Curve จ??ำนวน 400 บริษัทเป็นกลุ่มตัวอย่าง เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้

แบบสอบถามผ่านระบบ email สถิติที่ใช้ได้แก่ (1) สถิติพื้นฐาน ได้แก่ การแจกแจงความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ

(Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) (2) ใช้การวิเคราะห์การถดถอย

เชิงพหุเพื่อทดสอบสมมติฐาน ผลการวิจัยพบว่าสมรรถนะทางการบัญชีบริหาร ได้แก่ กลยุทธ์การวางแผนและการปฏิบัติ

งาน การรายงานและการควบคุม และเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ มีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการด??ำเนินงานโดยมี

การบัญชีบริหารเชิงกลยุทธ์เป็นตัวแปรส่งผ่านแบบบางส่วน และพบว่าจรรยาบรรณและค่านิยมระดับมืออาชีพกับความ

รู้ทางกฎหมายและภาษีเป็นตัวแปรส่งผ่านอย่างสมบูรณ์

The objective of this study is to examine the relationship between management accoun

ting competency and operational efficiency of a New S-Curve company with strategic management

accounting: SMA as a mediator. The sample in this research is a group of 400 New S-Curve companies.

Questionnaires were sent by email. The frequency, percentage, and mean were used as statistics.

The multiple regression analysis was used as a hypothesis test. The research findings indicate that

management accounting competency including strategy planning and performance, reporting and

control, and technology and analytics affect operational efficiency and SMA mediates the relatio nship between management accounting competency and operational efficiency as a partial mediator. In addition, professional ethics and values and tax and law affect operational efficiency and

SMA mediates the relationship as a perfect mediator.