แนวทางพัฒนาทางกายภาพวัดร้างใน 11 ตำบลนอกเขตกำแพงเมืองเชียงใหม่

รหัสอ้างอิงมหาวิทยาลัย : มจ.1-60-017
รหัสอ้างอิง วช. : -- ไม่ระบุ --
สถานะการดำเนินการ : ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้ว
วันที่ดำเนินการ : 30 กันยายน 2559 ถึง 1 ตุลาคม 2560
ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไป ภาษาไทย :
หัวข้อ : แนวทางพัฒนาทางกายภาพวัดร้างใน 11 ตำบลนอกเขตกำแพงเมืองเชียงใหม่
บทคัดย่อ :

ผลงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาถึงปัญหาและโอกาสของวัดร้างที่ปรากฏอยู่มากมายในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยกาหนดพื้นที่ศึกษานอกเขตกาแพงเมืองชั้นในและชั้นนอก ครอบคลุมพื้นที่11ตาบลโดยรอบ จากการศึกษาพบว่าจังหวัดเชียงใหม่เคยมีวัดร้างทั้งหมด 948 วัด โดย 99 วัด อยู่ในเขตกาแพงเมืองชั้นใน ทั้งนี้มีเพียง 35 วัดที่ยังคงสภาพสถานที่ศักดิ์สิทธ์ในปัจจุบันและ 10 วัด มีสภาพคงเหลือเพียงเจดีย์ ในเขตกาแพงเมืองชั้นนอกนั้นปัจจุบันเหลือหลักฐานเพียง 10 วัด และเพิ่งได้รับการฟื้นฟูสาเร็จ1วัด หลักฐานของวัดร้างที่เหลือรอดพ้นจากอดีตเหล่านี้ปัจจุบันแม้จะตั้งอยู่ที่เดิมแต่สภาพแวดล้อมได้เปลี่ยนไปตามยุคสมัยในหลายรูปแบบ เช่น โรงเรียน สถานที่ราชการ ชุมชนแออัด และถนน ในผลงานวิจัยนี้มีการดาเนินการวิจัยทางเลือกการพัฒนาทางกายภาพของวัดร้างในแต่ละที่และกลุ่มที่สัมพันธ์กับผู้ใช้และบริบทในปัจจุบัน โดยการต่อยอดและค้นหาปัจจัยที่ทาให้ร้างและไม่ร้างของวัดเหล่านี้ ศึกษาวัฏจักรของวัดร้างที่มีลักษณะปรากฏการณ์ รวมทั้งอุปสงค์และอุปทานต่อการดารงอยู่ ลักษณะเฉพาะของโบราณสถานทางศาสนา(ร้าง) หลังจากนั้นนาลักษณะเฉพาะและปัจจัยที่ค้นพบมาศึกษาหาแนวทางความยั่งยืนที่จับต้องได้ ที่สัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้ปัจจุบันเพื่อความยั่งยืนสู่คนรุ่นต่อไป มีการออกแบบทางเลือกหลายวิธีและสามารถแบ่งเป็นกลุ่มการพัฒนาได้ตามบริบทเพื่อรอการฟื้นเป็นวัดที่จะคงสภาพเต็มของสถานะพื้นที่ทางศาสนาได้ในอนาคต ผลการวิจัยพบว่าวัดร้างในพื้นที่ศึกษาสามารถกาหนดกลุ่มที่มีบริบทคล้ายคลึงกันได้และทาการเลือกบางวัดเพื่อนามาใช้เป็นตัวอย่างการออกแบบการพัฒนาทางกายภาพที่สามารถทาได้จริง การพัฒนาพื้นที่มักพบปัญหาเรื่องการถูกปิดบังและขอบเขตพื้นตามโฉนดและการประกาศเขตโบราณสถานมีน้อยเกินไป อีกทั้งยังขาดความเชื่อมโยงกับชีวิตประจาวันของชุมชนและการรับรู้ระดับเมืองและย่านดังนั้นการออกแบบขยายพื้นที่ให้กว้างขึ้นและปรับให้เป็นพื้นที่สาธารณะรองรับกิจกรรมเบา(Passive activity)เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ(Recreation area)ของแต่ละชุมชนเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุด โดยจะต้องควบคุมบรรยากาศโดยรวมและการกันเขต(Buffer zone)โบราณสถานไว้ให้คงสภาพความศักดิ์สิทธิ์(Sense of sacred place)ของพื้นที่ไว้ให้ได้ด้วย การขอคืนพื้นที่โดยรอบคืนซึ่งเดิมเป็นวัดนั้นเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่จาเป็นเพื่อให้มรดกทางศาสนานี้ไม่ถูกบดบังและเชื่อมโยง โดยหากทาเป็นโครงการพัฒนาต่อเนื่องพบว่ามีศักยภาพพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมใหม่ได้อีกมาก อันจะเป็นส่วนหนึ่งของการแผนพัฒนาสู่การเป็นมรดกโลกได้อีกทางหนึ่งในอนาคตด้วย

คำสำคัญ : วัดร้าง , มรดกทางสถาปัตยกรรม , คุณค่าที่จับต้องไม่ได้ , การรู้คุณค่าโบราณสถาน , โบราณสถานทางศาสนา , สิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรม , การจัดการมรดกทางสถาปัตยกรรม , กระบวนคิด ความศรัทธาทางศาสนา , อัตลักษณ์ , การพัฒนาอย่างยั่งยืน , ความคิดริเริ่มจากท้องถิ่น กระบวนการจากล่างสู่บน พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ , พื้นที่สาธารณะ
ข้อมูลทั่วไป ภาษาอังกฤษ :
Title : Physical Development Guideline for the Abandoned Monasteries of 11 Sub-districts outside the Old City Walled Area
Abstract :

This research aims at studying the abandoned monasteries dilemma in 11 sub-districts outside the old Chiang Mai's city’s walls. Chiang Mai is reported to have some 948 abandoned monasteries (wat), including 99 inside old walled city center where there are only 35 living wat and 10 abandoned chedi(stupa) remains today. In the area outside of old walled-city, there are only 10 chedi remained and a monastery is recently revitalized to be a living monastery again. These survived evidences from the past now are situated at the initial locations but within changed contexts such as being school, official buildings, slum, and onto streets. The research is also intended to study alternative solutions for physical development for each site, especially among the current users and various contexts. Seeking beyond creative thinking based on abandonment factors of a religious place, circle of abandonment phenomenon, and demand &supply for a monastery existing are focused. Emerging of specific characters and factors of the abandoned monasteries are also considered to future sustainability for the next generation and urban environment. Most of alternative design concepts are both current existing solutions and also possibility for the future revitalization.

It was found that various abandoned monasteries could be categorized by common contexts then selected some of them were selected for design development. These selected sites are exemplified for possibility guidelines where based on physical development. Site selections from the cases usually lead to conflict with the poor conditions behind adjacent buildings, error management on original deeds, and less of the National Historic boundaries for sustainable maintenance. Most of unsustainable factors are lack of linkage to everyday users, localcommunities, and urban perception. As a result, expandable design area and adaptability to be recreation area for each local community should be accepted. Sense of the sacred place must be included and buffer zoning is needed to protect the historical remnants which are the most highlighted aspect of the sites. Recall of more original surrounding areas for development is needed for public perception as well as urban open spaces. Continuity of better-condition implements upon sense of sacred places are possibly becoming more creative on cultural tourist attractions as they are parts of sustainable development plan to the future Chiang Mai’s World Heritage enlisting.

Keyword : Intangible value, Awareness, Approach, Local initiative, Bottom-up approach, Sacred space, Public space
รูปแบบงานวิจัย : -- ไม่ระบุ --
ประเภทงานวิจัย : -- ไม่ระบุ --
สาขางานวิจัย : -- ไม่ระบุ --
กิจกรรมที่เกี่ยวข้อง : -- ไม่ระบุ --
Road map : -- ไม่ระบุ --
ส่วนที่ 2 ประเภทโครงการวิจัย
โครงการเดี่ยว
ส่วนที่ 3 ลักษณะโครงการวิจัย
โครงการใหม่
ส่วนที่ 4 ข้อมูลเจ้าของผลงานวิจัย
 รายชื่อนักวิจัยตำแหน่งนักวิจัยสัดส่วน (%)ประเภทนักวิจัย
1 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.แทนวุธธา ไทยสันทัด
ประเภทบุคคล : บุคลากรภายใน     กลุ่มนักวิจัย : วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยงานต้นสังกัด : คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบสิ่งแวดล้อม
ผู้วิจัยหลัก
(2560)
100 ไม่ระบุ
ส่วนที่ 5 แหล่งทุนสนับสนุนงานวิจัย
 ปีงบประมาณ / วันที่รายละเอียดแหล่งทุนจำนวนเงิน (บาท)
1
ปีงบประมาณ : 2560
1/10/2559 ถึง 30/9/2560
ประเภทแหล่งทุน : งบประมาณภายในสถาบัน งบภายในมหาวิทยาลัย
งบประมาณแผ่นดินแม่โจ้
300,000.00
   รวมจำนวนเงิน : 300,000.00
ส่วนที่ 6 การนำเสนองานวิจัย
ไม่มีข้อมูลการนำเสนองานวิจัย
ส่วนที่ 7 การตีพิมพ์เผยแพร่
วันที่ดำเนินการรายละเอียดน้ำหนักการตีพิมพ์
10 กุมภาพันธ์ 2559
วารสารที่ตีพิมพ์ : การตีพิมพ์ในรายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการระดับชาติ
ฉบับที่ : 1
หน้า :
ระดับการนำเสนอ :
เจ้าของวารสาร :
0.2
ส่วนที่ 8 การอ้างอิงงานวิจัย
ไม่มีข้อมูลการอ้างอิงงานวิจัย
ส่วนที่ 9 การนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์
ไม่มีข้อมูลการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์
ที่อยู่การติดต่อ
กองเทคโนโลยีดิจิทัล สำนักงานมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เลขที่ 63 หมู่ 4 ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ 50290
โทรศัพท์สอบถาม
งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัย 0-5387-3000
ระบบสารสนเทศสำหรับนักศึกษา 0-5387-3457
ระบบสารสนเทศสำหรับบุคลากร 0-5387-3285
ERP Maejo University - All Rights Reserved 2023