รายละเอียดโครงการ

จากข้อมูลการรายงานสภาพเศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2558 ผลิตภาคต่อหัวประชากรของภาคเหนือ (GRP per Capita) เท่ากับ 93,058 บาทต่อคนต่อปี ซึ่งห่างจากระดับประเทศเกือบ 1 เท่า ฐานรายได้หลักของประชากรส่วนใหญ่และการจ้างงานนั้นมาจากภาคการเกษตร ผลผลิตเกษตรของภาคเหนือส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์จากพืชที่สำคัญ โดยเฉพาะข้าว ซึ่งมีการทำการเกษตรแบบนาแปลงใหญ่อยู่ในหลายพื้นที่ ปัจจุบันภาครัฐได้เน้นนโยบายปรับระบบการผลิตให้ลดการใช้สารเคมีเข้าสู่ระบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ตื่นตัวและห่วงใยต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ การผลิตสินค้าเกษตรโดยพึ่งพาสารเคมีเริ่มถูกปฏิเสธและถูกกีดกันมากขึ้น ทำให้สินค้าเกษตรอินทรีย์ซึ่งเป็นการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพได้รับความสนใจและส่งผลให้แนวโน้มที่ผลผลิตจากข้าวอินทรีย์ที่มีคุณภาพ รวมถึงสินค้าแปรรูปจากข้าวอินทรีย์มีการขยายตัวในเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นด้วย การสร้างศักยภาพของผู้ผลิต และผู้ประกอบการกลุ่มผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์ในภาคเหนือ ทั้งด้านการบริหารจัดการและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ สู่การปรับเปลี่ยนเพื่อยกระดับในทุกส่วนภายในห่วงโซ่อุปทานที่มีความคล่องตัว (Agile) สามารถปรับเปลี่ยนได้ (Adaptable) และมีความสอดคล้องกันเป็นหนึ่งเดียว (Aligned) นั้น จะก่อให้เกิดการลดต้นทุนด้าน การพัฒนาระบบ การพัฒนาสังคม และสิ่งแวดล้อม เป็นการสร้างความยั่งยืนด้วยวิธีแบบองค์รวม ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้าง ซึ่งรวมถึงการออกแบบกระบวนการใหม่ การสร้างความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับพันธมิตรธุรกิจ และการร่วมมือกับคู่แข่งเพื่อให้มีระดับการผลิตถึงเป้าหมายที่กำหนด จะเป็นการเปิดโอกาสและขยายธุรกิจสู่ตลาดภายในและต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นการหาช่องทางด้านการตลาดให้แก่เกษตรกรผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ รวมถึงเชื่อมโยงกลุ่มเกษตรกรเป้าหมายที่มีศักยภาพกับหน่วยงานของรัฐ สถาบันการศึกษา องค์กรภาคธุรกิจขนาดใหญ่ เพื่อยกระดับระบบการจัดการห่วงโซ่อุปทานของผลผลิตข้าวอินทรีย์ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบน 2 ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวอินทรีย์ที่สำคัญของประเทศสู่ตลาดการค้าทั้งในและต่างประเทศได้อย่างยั่งยืน