รายละเอียดโครงการ

มหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพร เป็นมหาวิทยาลัยฯ ที่เปิดการเรียนการสอนด้านการเกษตรและด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สาขาวิชาการท่องเที่ยวเชิงบูรณาการ สาขาวิชาการจัดการสำหรับผู้ประกอบการ สาขาวิชาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง สาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช และสาขาวิชาการเมืองการปกครองท้องถิ่น ซึ่งเป็นแหล่งผลิตบุคลากรออกสู่ภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมอื่นๆ จำนวนมาก ขณะที่มหาวิทยาลัยฯ มีการวางเป้าหมายทิศทางการพัฒนาระยะ 15 ปี พ.ศ. 2555-2569 เป็น “มหาวิทยาลัยแห่งชีวิต” ที่เคารพและให้ความสำคัญกับธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ภายใต้ปรัชญา : “มุ่งมั่นพัฒนาบัณฑิตสู่ความเป็นผู้อุดมด้วยปัญญา อดทน สู้งาน เป็นผู้มีคุณธรรม และจริยธรรม เพื่อความรุ่งเรื่องวัฒนาของสังคมไทยที่มีการเกษตรเป็นรากฐาน” ปัจจุบันมหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพรได้มีโครงการวิจัย โครงการบริการวิชาการและการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับองค์กรและชุมชนท้องถิ่นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่ประจักษ์อยู่หลายโครงการ อาทิ โครงการพัฒนาเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดชุมพร โครงการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ให้แก่พี่น้องเกษตรกร โครงการเพิ่มผลผลิตปาล์มน้ำมัน โครงการกำจัดขยะอินทรีย์โดยระบบชีววิถีเป็นต้น แต่โครงการเหล่านี้มักจะประสบปัญหาคือเมื่องบประมาณจากแหล่งทุนสิ้นสุดก็ไม่สามารถที่จะดำเนินโครงการต่อไปได้ ดังนั้น การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิชาการเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ – ชุมพร จึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพงานวิจัยในด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่หรือการอบรมเชิงปฏิบัติการหรือการจัดเวทีพัฒนาโจทย์วิจัยให้ได้รับการยอมรับให้แก่สาธารณชน และนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ด้านต่างๆได้อย่างชัดเจน และกลายเป็นศูนย์รวมตัวนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านร่วมบูรณาการงานวิจัยให้สอดคล้องกับนโยบายและทิศทางการวิจัยระดับประเทศต่อไป อีกทั้ง ยังเป็นการสร้างความยั่งยืนในด้านการบริการวิชาการและถ่ายทอดเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพรในการพัฒนาหน่วยงานบริการวิชาการของมหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพรให้มีมาตรฐานและการจัดการที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งการแสวงหางบประมาณสนับสนุนโครงการ การพัฒนาโครงการที่เกิดจากความต้องการของท้องถิ่นตลอดจนการร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมบริการวิชาการร่วมกับองค์ต่างๆ ซึ่งศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิชาการเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ – ชุมพร แห่งนี้จะสามารถที่จะช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆให้แก่ชุมนท้องถิ่นและเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน