รายการบทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตามคำสำคัญ  : แบคทีเรีย
การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (มหาวิทยาลัยแม่โจ้) ครั้งที่ 4 » การตั้งตำรับน้ำมันเหลืองจากน้ำมันหอมระเหยขมิ้นชันและไพลและศึกษาฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย
ขมิ้นชันและไพลเป็นสมุนไพรไทยที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาและสรรพคุณทางยาหลากหลาย สารสกัดและน้ำมันที่สกัดจากสมุนไพรทั้งสองชนิดมีการนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือนำมาผลิตเพื่อใช้เป็นยาประจำบ้านลักษณะการใช้ทาภายนอก ในงานวิจัยนี้ ได้ตั้งตำรับน้ำมันเหลืองที่สกัดได้จากเทคนิคการกลั่นด้วยไอน้ำและมีน้ำมันหอมระเหยขมิ้นชันและไพลเป็นองค์ประกอบที่สัดส่วนต่าง ๆ (1:1 1:2 และ 2:1 โดยปริมาตร) นำน้ำมันหอมระเหยผสมมาผ่านกระบวนการบ่มด้วย พิมเสน การบูร เมนทอล ที่สภาวะสุญญากาศ นอกจากนี้ ได้นำน้ำมันเหลืองแต่ละสูตรมาศึกษาฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ผลการศึกษาพบว่า น้ำมันเหลืองที่มีองค์ประกอบของน้ำมันหอมระเหยขมิ้นชันและไพลที่สัดส่วน 2:1 โดยปริมาตร มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้ดี สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย Methicillin-resistant Staphylococcus aureus (MRSA) และ Staphylococcus epidermidis อย่างน้อยที่ระดับความเขมขน 1 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร นอกจากนี้ ความเขมขนต่ำสุดที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย (Minimum inhibition concentration, MIC) ทั้งสองสายพันธุ์เทากับ 58.25 และ 50.55 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร สำหรับค่าความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (Minimum bactericidal concentration, MBC) ในทั้งสองเชื้อแบคทีเรีย มีค่าเท่ากับ 200.00 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ตามลำดับ
คำสำคัญ : ขมิ้นชัน-ไพล  น้ำมันเหลือง  ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย  
กลุ่มบทความ : กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
หมวดหมู่ : กลุ่มงานสายวิชาการ
สถิติการเข้าถึง : เปิดอ่าน 126  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง
ผู้เขียน ฐิติพรรณ ฉิมสุข  วันที่เขียน 21/8/2566 16:35:46  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 25/4/2567 1:19:38
อ. มธุรส ชัยหาญ » การเข้าร่วมประชุมและนำเสนอผลงานภาคบรรยายในการประชุมวิชาการเครือข่ายวิจัยนิเวศวิทยาป่าไม้ ครั้งที่ 12 (Thai Forest Ecological Research Network Conference, T-FERN # 12) หัวข้อเรื่อง “ธรรมชาติ ป่าไม้ และที่ดิน: การปรับตัวและการบรรเทาต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” เมื่อวันที่ 9-10 กุมภาพันธุ์ 2566
คุณสมบัติในการต้านออกซิเดชันและการยับยั้งแบคทีเรียสาเหตุฟันผุของสารสกัดใบเมี่ยงธรรมชาติ Characteristics of Antioxidation and Antibacterial of Dental Caries by Natural Miang Extracts มธุรส ชัยหาญ1 วชิระ ชุ่มมงคล2 เพิ่มศักดิ์ สุภาพรเหมินทร์3 ธนากร ลัทธิ์ถีระสุวรรณ4 และธีระพล แสนพันธุ์5 1 หลักสูตรเทคโนโลยีชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่ 50290 2 หลักสูตรเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่ 50290 3 คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่ 50290 4 หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (การจัดการป่าไม้) มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ แพร่ 54140 5 สาขาวิศวกรรมอาหาร คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่ 50290 *Corresponding author: E-mail: mathurot@mju.ac.th บทคัดย่อ แบคทีเรีย Streptococcus mutans เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคฟันผุซึ่งพบได้บ่อยในประเทศกำลังพัฒนา งานวิจัยนี้จึงมุ่นเน้นหาสารที่มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียสาเหตุฟันผุโดยใช้สารสกัดใบเมี่ยงในตัวทำละลายเอทานอลมาศึกษาฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย S. mutans สายพันธุ์ DMST18777 และ Lactobacillus spp. สารสกัดหยาบใบเมี่ยงจังหวัดแม่ฮ่องสอน แสดงโซนใสการยับยั้งได้ดีที่สุด เท่ากับ 14.50 ± 0.70 และ 21.30 ± 0.60 มิลลิเมตร ตามลำดับ รองลงมา คือ สารสกัดหยาบใบเมี่ยงจังหวัดพะเยา แสดงโซนใสการยับยั้งเท่ากับ 12.30 ± 0.50 และ 18.00 ± 0.50 มิลลิเมตร ตามลำดับ การศึกษาเบื้องต้นโดยวิธี disc diffusion พบว่า S. mutans และ Lactobacillus spp.ไวต่อสารสกัดเอทานอล ผลการวิเคราะห์ระดับฟีนอลิกรวมและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ พบว่าใบเมี่ยงมีค่าเฉลี่ยปริมาณฟีนอลิกรวม เท่ากับ 17.54 มิลลิกรัม แกลลิค/กรัม ตัวอย่างและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของใบเมี่ยง มีค่าเฉลี่ย 14.03 ไมโครโมล คำสำคัญ ใบเมี่ยง, สารฟีนอลิก, ฟลาโวนอยด์, ฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย, ฤทธิ์ต้านออกซิเดชัน Abstract Streptococcus mutans is one of important causes for tooth decay. The ethnomedicine uses Miang leaves for decrease in stomachache, increase in appetite, and decrease toothache. Streptococcus mutans is the main pathogen responsible for the development of dental caries in humans, especially in developing countries. There is a global need for alternative preventions and products for dental caries that are safe, economical and effective. Camellia sinensis var. assamica extracted showed strong antibacterial activity. The aims of this research were isolation and antibacterial activity evaluation of chemical compounds from dry Miang leaves. The crude ethanolic extract was partitioned with 95 % ethanol. The chemical substances were evaluated in antibacterial activities for S. mutans DMST 18777 and Lactobacillus sp. It was found that crude extracts from Maehongson province gave the higher inhibition activity to S. mutans DMST 18777 and Lactobacillus spp. with inhibition zone of 14.50 ± 0.70 and 21.30 ± 0.60 mm, respectively followed by the crude extracts from Phayao province. Crude extracts from Phayao province showed activity against S. mutans DMST 18777 and Lactobacillus spp. with inhibition zone of 12.30 ± 0.50 and 18.00 ± 0.50 mm, respectively. Preliminary screening for antibacterial activity of the extracts was performed by paper disc diffusion method. The diameter of inhibition zones indicated that 80 % of S. mutans were susceptible to ethanol extracts. The results from the study of antioxidant shows that Miang leave has an average phenolic content of 17.54 mg GAE/g sample and the extracts have highest antioxidant average of 14.03 micromol. These results suggest that the extract of Camellia sinensis var. assamica might be useful for the control of bacteria causing dental caries and subsequent dental caries development. Keywords : Miang, Phenolic, Flavonoid, Antibacterial, Antioxidation
คำสำคัญ : ใบเมี่ยง, สารประกอบฟีนอลิก, ฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย, กิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระ  
กลุ่มบทความ : บทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั่วไป
หมวดหมู่ : วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
สถิติการเข้าถึง : เปิดอ่าน 396  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง
ผู้เขียน มธุรส ชัยหาญ  วันที่เขียน 18/4/2566 11:18:39  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 23/4/2567 21:31:32
ความรู้จากการเข้าร่วมอบรม/สัมมนา/ประชุมวิชาการ » สรุปความรู้จากการเข้าร่วมงานประชุมวิชาการระดับชาติประจำปี 2561
การเข้าร่วมงานประชุมวิชาการระดับชาติประจำปี 2561 เมื่อวันที่ 11-13 ธันวาคม 2561 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับความรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้าทางการเกษตร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดังนี้ การนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้ทางด้านการเกษตร การเกษตรอัจฉริยะ หรือ การเกษตรแม่นยำ การใช้จุลินทรีย์บำบัดของเสีย การศึกษายีนแก้หมันของละอองเรณูในข้าว สารประกอบฟีนอลิกและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากสาหร่ายไกและใบดาหลา เพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพและเครื่องสำอาง
คำสำคัญ : การเกษตรอัจฉริยะ  การบำบัดของเสีย  ข้าว  แบคทีเรีย  ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ  
กลุ่มบทความ : กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
หมวดหมู่ : กลุ่มงานสายวิชาการ
สถิติการเข้าถึง : เปิดอ่าน 3638  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง
ผู้เขียน ช่อทิพา สกูลสิงหาโรจน์  วันที่เขียน 11/1/2562 16:15:10  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 24/4/2567 8:24:24